‘มรีจิ’ คาเฟ่ในโรงแรมฆรารมณ์ที่มีอาหารใต้ให้รื่นรมย์ในซอยสุขุมวิท 36

‘มรีจิ’ หมายถึงเงาสะท้อนของแดด ในขณะที่ ‘ฆรารมณ์’ มีความหมายถึงเรือนอันรื่นรมย์ มรีจิ เป็นทั้งคาเฟ่และร้านอาหารที่เปิดให้เราได้ชมเงาของแดดสวยๆตั้งแต่ยามเช้าไปจนถึงเงาของแสงไฟในยามค่ำคืน ในอารมณ์บ้านอันอบอุ่น

ได้ยินคำว่า ‘มรีจิ’ ครั้งแรกก็รู้สึกสะดุดหูแล้ว ครั้นได้รู้ว่าเป็นร้านอาหารที่อยู่ในโรงแรมฆรารมณ์ยิ่งรู้สึกสะดุดใจเข้าไปอีก อยากรู้ว่าชื่อทั้งสองนั้นมีความหมายว่าอย่างไร เมื่อได้สอบถามจากพนักงานจึงได้รับคำตอบที่หายสงสัยและรู้สึกประทับใจ

มุมสบายในมรีจิ

บรรยากาศการตกแต่งของ มรีจิ ให้ความรู้สึกถึงความโปร่งสบาย มีบานกระจกกว้างเพื่อเปิดรับแสงแดดที่ให้เราได้ชมเงาสะท้อนสวยๆ ที่เปลี่ยนผันไปตามเวลา ดั่งชื่อของ ‘มรีจิ’ ที่มีความเชื่อมโยงกับ ‘ฆรารมย์’ ชื่อของโรงแรมขนาดกะทัดรัดที่สะท้อนอารมณ์ของบ้านที่อบอุ่น

มีทั้งมุมโซฟาหนังนุ่มๆ ให้ทิ้งตัวลงนั่งผ่อนคลาย เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งทำด้วยไม้ ระเบียงเล็กๆสำหรับนั่งเล่นชมสวนเล็กๆ รื่นรมย์สมชื่อจริงๆ

มาที่ มรีจิ คุณจะนั่งดื่มกาแฟกินขนมพายสูตรคุณยายจากเมืองตรัง ครัวซองค์ แซนด์วิช เครื่องดื่มแบบฝรั่ง หรือจะสั่งเมนูอาหารเช้า สลัด พาสต้า หรือ อาหารไทย เรียกได้ว่าในเมนูจัดให้ครบทั้งเช้า กลางวัน และเย็น

มุมรับประทานอาหาร

สำหรับเราไปมรีจิทีไรมักเป็นเวลาค่ำแล้ว โดยมุ่งตรงไปที่อาหารไทยซึ่งเมนูส่วนใหญ่เป็นอาหารใต้รสชาติกลมกล่อม เข้มข้นแบบคนเมืองตรัง มีทั้งเมนูสูตรอาหารคุณยาย ได้แก่ พายหมูย่างเมืองตรัง พายผักโขม และ พายมะม่วงเสาวรส (75 บาท) ที่มีการปรับสูตรให้แป้งบางลง เน้นไส้ให้กินได้เต็มปากเต็มคำ จะกินเป็นของว่างคู่ชากาแฟ หรือ กินเป็นของหวานหลังอาหารอันนี้ก็ได้ตามอัธยาศัย

แกงส้มปลากะพงไหลบัว

เมนูอาหารจานหลักที่ปรุงด้วยเครื่องแกงใต้ส่งตรงจากตรัง ได้แก่ แกงส้มปลากะพง (190 บาท) เลือกได้ว่าจะเป็นไหลบัวหรือยอดมะพร้าวอ่อน หรือจะเลือกมาทั้งคู่ก็ได้ หมูผัดเคยฉลู (150 บาท)

ความรู้ใหม่อีกแล้วค่ะ ความหมายไม่เกี่ยวกับนักษัตรปีวัวแต่อย่างไร ฉลู ในที่นี้คนตรังใช้เรียกชื่อ เคย หรือ กะปิ ที่เกิดจากการนำกุ้งทะเลมาดองเค็ม

นำเคยฉลูมาผัดกับหมู ใส่ตะไคร้ หอมแดง พริกสดเข้าไป ได้รสเผ็ดร้อนเค็มจากเคยกลมกล่อมจนต้องเรียกหาข้าวสวยร้อนๆ มาด่วนจี๋เลย

วุ้นเส้นผัดชะอมกุ้ง

ยำวุ้นเส้น

นอกจากนี้ยังมี คั่วกลิ้ง (140 บาท) แกงคั่วพริกซี่โครงหมูไข่ต้ม (150 บาท) และ ยำวุ้นเส้น รสจัดจ้านที่มีทั้งกุ้งแห้ง หมึกอบกรอบ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ มาให้เคี้ยวกรุบกรอบไปด้วย (ยำเว้นเส้นหมูสับ 140 บาท ซีฟู้ด 190 บาท) และ วุ้นเส้นผัดชะอมกุ้ง (190 บาท) รสจัดจ้านที่มีทั้งรสเผ็ดจากพริกแห้งและเปรี้ยวของมะนาวสดๆ

สำหรับอาหารจานเดียวก็น่าสนใจมาก เมนูที่สั่งทุกครั้งที่ไปคือ ข้าวผัดปลาทู (130 บาท) ข้าวผัดกับเนื้อปลาทูกลิ่นหอมที่มีเนื้อปลาทูแกะมาวางบนข้าวให้อีก โรยหอมแดง ผักชี มาพร้อมน้ำปลาพริกมะนาว เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมเลยจริงๆ

ข้าวผัดปลาทู

เมนูอื่นๆที่คราวหน้าอยากจะสั่งมากิน คือ ข้าวไข่ขยี้น้ำพริกกากหมู ข้าวราดคั่วกลิ้ง ส่วนข้าวหน้าไก่สะเต๊ะ กับข้าวราดหมูผัดเคยฉลู (ราคา130 บาทเท่ากัน) ก็น่าสนใจไม่น้อย

ถ้าเพื่อนที่ไปด้วยกันไม่ถนัดอาหารใต้ มรีจิ มีเมนูพาสต้า สเต็กปลากะพง (220 บาท) สตูว์ไก่ (190 บาท) ให้เลือกรับประทานด้วยนะคะ

เมนูของหวานเป็นเมนูที่เราไปไม่ถึงจริงๆ เพราะว่าอิ่มมากแล้ว ทางร้านชวนชิม แอปเปิ้ลครัมเบิ้ล (150 บาท) แครอทเค้ก ชีสเค้กบราวนี่ และ นิวยอร์กชีสเค้ก ( 140 บาท) เป็นต้น ได้ยินแล้วต้องรีบจดไว้เพื่อมากินในวันหน้า อาจเป็นกาแฟยามบ่ายน่าจะดีจะได้ชมเงาแดดสวยๆ ของมรีจิไปด้วย

สรุปว่าใครที่ชอบคาเฟ่และร้านอาหารบรรยากาศอบอุ่น ไม่มีคนพลุกพล่าน มีมุมสงบให้ได้คุยกันเบาๆ มีที่จอดรถ บริกรต้อนรับด้วยอัธยาศัยไมตรี ‘มรีจิ’เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เราแนะนำ

‘มรีจิ’ คาเฟ่ในโรงแรมฆรารมณ์ที่มีอาหารใต้ให้รื่นรมย์ในซอยสุขุมวิท 36