‘มาตุส โรเซ่’ ‘โรเซ่’ อมตะนิรันดร์กาลจาก ‘โปรตุเกส’
ผู้ที่อยู่ในแวดวงไวน์ ต้องรู้จัก ‘พอร์ต’ (Port) ซึ่งเป็น ‘ฟอร์ติไฟด์ไวน์’ (Fortified Wine) ชื่อดังของโปรตุเกสและของโลก โดยเฉพาะ ‘มาตุส โรเซ่’ ก็เป็น ‘สติลล์ไวน์’ ยี่ห้อเก่าแก่ที่คนไทยรู้จักกันดี
โปรตุเกส เป็นชาวตะวันตกชาติแรกที่เข้ามาติดต่อค้าขาย เผยแผ่ศาสนา ช่วยราชการ และเจริญสัมพันธไมตรีกับไทย ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ.2054 รัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2
คนในแวดวงอาหารการกิน โดยเฉพาะขนมนมเนย ต้องรู้จัก ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง และขนมฝรั่ง ที่ชาวโปรตุเกสฝากมรดกเอาไว้จนถึงทุกวันนี้
ด้านเครื่องดื่มต้องรู้จัก พอร์ต (Port) และ มาตุส โรเซ่ (Mateus Rose) เป็น ไวน์โปรตุเกส ประเภท สติลล์ไวน์ (Still Wine) ที่น่าจะเก่าแก่ที่สุดที่ขายกันอย่างจริงจังในตลาดเมืองไทย นำเข้ามากว่าค่อนศตวรรษ
แสตมป์รุ่นพิเศษ ที่ระลึกในโอกาส 500 ปี ความสัมพันธ์ทางทูตไทย-โปรตุเกส
ชาวโปรตุเกส ที่เข้ามาในไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2054 ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 โดย อัลฟองโซ เด อัลบูแคร์ก (Alfonso de Albuquerque) อุปราชโปรตุเกสประจำภาคอินเดียตะวันออก ได้ส่งทูตคนแรกคือ ดูอาร์ตี เฟอนานเดซ (Duarte Fernandes) เข้ามาเพื่อศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม ประเพณี รวมทั้งสำรวจด้านการค้า
อันโตนิโอ เดอ ไปวา (Antonio de Paiva) ชาวโปรตุเกส ได้เดินทางเข้ามากรุงศรีอยุธยา ในแผ่นดินสมเด็จพระชัยราชาธิราช พ.ศ. 2087 ได้เข้าเฝ้าและสนทนาเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนากับพระองค์ และพระองค์ทรงประกอบพิธี Baptise ได้รับพระราชทินนามเป็นภาษาโปรตุเกสว่า ดอม จาว (Dom Joao) ทรงพระราชทานที่ดินให้เป็นที่อยู่อาศัย และสร้างโบสถ์เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาขึ้นที่บริเวณหมู่บ้านโปรตุเกส และกงสุลตะวันตกชาติแรกที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาตั้งในกรุงเทพฯ ตั้งแต่รัชกาลที่ 2 คือโปรตุเกส
คณะทูตโปรตุเกสเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์ไทย
ปลายเดือนกรกฏาคม 2567 ที่ผ่านมา ผมไปบรรยายเรื่อง ไวน์ ให้กับหน่วยงานหนึ่งซึ่งส่วนหนึ่งของสมาชิกเป็นผู้อาวุโส และพูดถึง ไวน์โปรตุเกส ตัวหนึ่งที่พวกท่านเคยได้ยิน ได้เห็นรูปภาพ และได้ดื่มบ้าง อยากจะให้รื้อฟื้นนำมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อมีโอกาสท่านจะนำไปเล่าให้คนรุ่นหลังได้รับรู้
มาตุส โรเซ่ ยุคแรกที่ขายในเมืองไทย
ไวน์ตัวนั้นก็คือ มาตุส โรเซ่ (Mateus Rose) เป็นสติลล์ไวน์ชื่อดังของโปรตุเกส ก่อนหน้านั้นมีหลักฐานว่า ไวน์โปรตุเกส นำเข้ามาประเทศไทย ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ค้นพบหม้อดินเผา หลังจากตรวจทางวิทยาศาสตร์แล้วพบว่ามีส่วนประกอบของไวน์ขาว
ไวน์โปรตุเกส เป็นหนึ่งในไวน์ที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นไวน์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อดื่มกับอาหารจึงจะอร่อยมากว่าการดื่มเปล่า ๆ
การผลิตมาตุส โรเซ่ ยุคแรกในโปรตุเกส
มาเตอุส (Mateus) บ้านเราเรียกว่า มาตุส ซึ่งมี โรเซ่ (Rose) หรือโรซาโด (Rosado) เป็นตัวชูโรง รู้จักกันในนาม มาตุส โรเซ่ เรียกได้ว่าเป็นครูไวน์ของคนไทยหลาย ๆ คน ในยุคเมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เป็นไวน์โรเซ่ที่เหมาะกับอาหารแบบไทย ๆ มาก
มาตุส โรเซ่ ยุคแรก ๆ นำเข้ามาโดยบริษัท C.F.Center จำกัด ราคาขวดละ 100 กว่าบาท หลังจากนั้นได้พัฒนาฉลากอีกหลายรูปแบบ ในเมืองไทยปัจจุบันราคาประมาณ 500 -600 บาท
มาตุส โรเซ่ รุ่นพิเศษ
ไวน์มาตุส กำเนิดในปี 1942 โดยนายแฟร์นานดู แวน เซลเลอร์ กูเดส (Fernando van Zeller Guedes) ผู้นำตระกูล “กูเดส” (Guedes) ภายใต้ชื่อ Sociedade Comercial dos Grandes Vinhos de Mesa de Portugal โดยมีพี่ชายชื่อโรแบร์โตเป็นผู้ช่วย ปัจจุบันทายาทผู้สืบทอดกิจการได้ก่อตั้งบริษัท บริษัท โซเกรป วินโยส เอส.เอ (Sogrape Vinhos S.A.) ขึ้นมาพร้อมผลิตไวน์คุณภาพดีอีกหลายยี่ห้อ
มาตุส โรเซ่ ยุคศตวรรษที่ 21
แรก ๆ Sociedade Comercial dos Grandes Vinhos de Mesa de Portugal ผลิตเพียงมาตุส โรเซ่ เท่านั้น บรรจุในขวดคอยาวก้นป่อง โดย Fernando van Zeller Guedes ได้แรงบันดาลใจจากกระติกน้ำทหารในสงครามโลกครั้งที่ 1 ก่อนจะขยับขยายผลิตไวน์อย่างอื่นเพิ่ม
ในปี 1980 จึงกลายเป็นผู้ผลิตไวน์ขนาดใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส ปัจจุบัน CEO คือ Antonio Oliveira Bessa พร้อมกับเป็นเจ้าของพอร์ตชื่อดัง Sandeman และ Gazela
โรงงานผลิตไวน์ของ Mateus ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ชื่อ ซาว มาตุส (Sao Mateus) หรือซาน มาตุส ในตำบลวีลา รีอัล (Vila Real) ใกล้กับเมืองอานาเดีย (Anadia) จังหวัดแบร์ราดา (Bairada) ซึ่งเป็น 1 ใน 10 เขตผลิตไวน์สำคัญของโปรตุเกส ปัจจุบันกลายเป็นปราสาทกลางป่าที่ยิ่งใหญ่ ตัวปราสาทเป็นศิลปะบาโร้ค (Baroque) ที่งดงาม ใคร ๆ รู้จักในชื่อ Mateur Palace หรือ Palacio Mateus หรือ Casa de Mateus
Mateus Palace (Cr.portugalbywine.com)
Bairada อยู่ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกหรือทางตะวันตกของโปรตุเกส จากเมืองหลวง ลิสบอน (Lisbon) นั่งรถไฟขึ้นเหนือไปประมาณ 2 ชม. เศษ ๆ และถ้านั่งต่อไปอีกประมาณ 30 นาทีก็จะถึงเมืองปอร์โต (Porto) ดินแดนแห่งพอร์ต (Port) ชั้นเยี่ยม
Mateus Rose เพิ่งปรับโฉมบรรจุภัณฑ์ใหม่ (Repackaged) เมื่อปี 2002 เป็นแบบร่วมสมัย (Contemporary Design) มากขึ้น ทั้งสีสันของฉลาก และฟอยด์หุ้มคอขวดที่ยาวขึ้น เป็นต้น
เป็นการปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 60 กว่าปี แต่สิ่งที่ยังคงอยู่คือ Casa de Mateus รูปปราสาทของมาตุสที่ปรากฏในฉลาก
Mateus มีแหล่งปลูกองุ่นอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะองุ่นแดงมาจาก 10 แห่งที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่มาจากเขต Beiras ค่อนข้างไปทางเหนือของโปรตุเกส ที่สำคัญแม้จะมีพื้นที่ปลูกองุ่นถึง 1,500 เฮกตาร์ (1 เฮกตาร์ = 6 ไร่ 1 งาน) แต่ก็ต้องซื้อองุ่นจากเกษตรกรรายอื่น ๆ ด้วย เพื่อให้เพียงพอกับการบริโภคทั่วโลก
ความสวยงามของปราสาท (Cr.turismoenportugal.blogspot.com)
ไวน์มาตุส ปัจจุบันขายในกว่า 125 ประเทศทั่วโลก ประเทศที่ขายมากที่สุดคือบราซิล ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะโปรตุเกสเคยครองบราซิล โดย 55% ของทั้งหมดขายในยุโรป ในเอเชียมีญี่ปุ่นเป็นอันดับ 1 ที่ไม่น่าเชื่อก็คือเป็น Rose brand เบอร์ 1 ในออสเตรเลีย ขณะที่หนึ่งในคนดังระดับโลกที่ชื่อชอบคือ ซัดดัม ฮุสเซนอดีตประธานาธิบดีของอิรัก
อีกทั้งได้ขยับขยายไปในประเทศสเปน ผลิต Mateus Rosé Tempranillo ซึ่งสีโรเซ่เข้มกว่า Mateus Rose ดั้งเดิม พร้อมบรรจุขวดขาวใส ฟอยล์หุ้มปากขวดสีเงิน เพื่อจับตลาดคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะสาว ๆ ขณะเดียวกันก็มีสปาร์คกลิ้ง โรเซ่ (Mateus Rosé Sparkling) สำหรับผู้ที่ชอบไวน์ฟองซ่าด้วย
มาตุส โรเซ่ ในดีไซน์ทันสมัย สีสันสดใส
มาตุส โรเซ่ เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวโปรตุเกส ไม่แพ้การมีคริสเตียโน โรนัลโด เป็นโรเซ่สไตล์เบา ๆ ดื่มง่าย สดชื่น มีกลิ่นหอมดอกไม้และผลไม้ เหมาะสำหรับการดื่มขณะที่เป็นไวน์ใหม่ (young wine) ดื่มได้ตลอดเวลา เช้า กลางวัน เย็น แต่ต้องเสิร์ฟในอุณหภูมิไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส
สีสันสดใส สนุกสนาน ของไวน์มาตุส โรเซ่ รุ่นใหม่
และเป็นไวน์ที่ดื่มเรียกน้ำย่อย (Aperitif) หรือดื่มกับซีฟู้ดเบา ๆ หรือสลัด รวมทั้งอาหารอิตาเลียนเบา ๆ ที่สำคัญเหมาะกับอาหารเอเชีย เช่น ไทย จีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม
เซอร์ เอลตัน จอห์น (Sir Elton John) เคยกล่าวถึง ไวน์มาตุส ไว้ในบทเพลง "Social Disease" ขับร้องในปี 1973 ความว่า..."I get juiced on Mateus and just hang loose."….
สวนสวยใน Mateus Palace (Cr.portugaltravel.org)
แม้ปัจจุบันจะมี ไวน์โปรตุเกส นำเข้ามาขายในเมืองไทยมากขึ้น แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าอมตะนิรันดร์กาลต้องเป็น มาตุส โรเซ่ เท่านั้น