3 ราชาแห่ง ‘ไวน์ขบถ’ ‘ไวน์ซูเปอร์ ทัสคัน’ บางตัวก็ 'ซูเปอร์ไพรซ์'
‘ไวน์ซูเปอร์ ทัสคัน’ ยังเป็นไวน์ที่กระแสไม่ตก ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า นัยของผู้ผลิตมองไปถึงเรื่องของความต้องการที่จะแสวงหาความท้าทายใหม่ ๆ อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ จึงไม่แปลกใจที่บางคนเรียกว่า ‘ไวน์ขบถ’ และบางตัวราคาก็เป็น 'ซูเปอร์ไพรซ์'
ไวน์ซูเปอร์ ทัสคัน (Super Tuscan) หรือ ทัสกัน เป็น ไวน์อิตาลี ที่ผลิตใน แคว้นทัสคานี (Tuscany) ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 ผลิตในสไตล์ไวน์ บอร์กโดซ์เบลนด์ (Bordeaux Blend) ใช้องุ่นสายพันธุ์คลาสสิกจากฝรั่งเศส เกินกว่ากำหนดจึงถือว่าอยู่นอกกฎหมายฉบับ 164/1992 ที่ชื่อว่า “New Disciplinary Code for Denomination of Wines of Origine”
จึงไม่ได้รับการยอมรับให้เป็นไวน์เกรดดีโอซี (DOC) หรือดีโอซีจี (DOCG) แต่เป็นได้เพียงเกรด VdT (Vino da Tavola) หรือเทเบิ้ล ไวน์เท่านั้น
องุ่นแมร์โลต์
ปี 1978 นิตยสารดีแคนเตอร์ (Decanter) นิตยสารไวน์ชื่อดังของอังกฤษ จัดประกวดชิมไวน์ Great Clarets ที่ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) เป็นหลักรวม 33 ตัว จาก 11 ประเทศทั่วโลก กรรมการล้วนระดับซือแป๋เรียกอาจารย์ทั้งสิ้น เช่น Hugh Johnson, Serena Sutcliffe และ Clive Coates
ปรากฏว่า ซาสซิกายา (Sassicaia) วินเทจ 1972 ของบริษัท เตนูตา ซาน กุยโด (Tenuta San Guido) สร้างความตะลึงคว้าตำแหน่ง The Best Cabernet Sauvignon นั่นเป็นจุดประกายความโด่งดังของ ซาสซิกายา ในฐานะ ไวน์ซูเปอร์ ทัสคัน ตัวแรก
ไร่องุ่นในทัสคานี
หลังจากนั้นความโด่งดังก็ตามมาเรื่อย ๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หนังสือ Hugh Johnson’s Pocket Wine Book ปี 1982 ยกย่องให้เป็น Italy’s Best Wine ขณะที่ โรเบิร์ต ปาร์กเกอร์ ให้วินเทจ 1985 เต็ม 100 คะแนน เป็นต้น
ปี 1992 รัฐบาลอิตาลีกำหนดการจำแนกคุณภาพไวน์ใหม่ และจัดให้ ซูเปอร์ ทัสคัน อยู่ในระดับไอจีที (IGT = Indicazione Geografica Tipica) เลื่อนขึ้นมาจาก Vino da Tavola โดย IGT จะเน้นแหล่งกำเนิดของไวน์มากกว่าลักษณะและสายพันธุ์องุ่น นอกจากนั้น IGT จะอยู่ต่ำกว่า DOC และ DOCG
แคว้นทัสคานี จุดกำเนิดไวน์ซูเปอร์ ทัสคัน
แต่ที่เหนือชั้นก็คือ ซาสซิกายา เป็นไวน์ที่ใช้ชื่อเฉพาะ ไม่ได้ตั้งชื่อตามเขตผลิต (ไวน์ของอิตาลีโดยทั่วไปจะใช้ชื่อไวน์ตามเขตที่ปลูกองุ่นหรือตั้งชื่อตามชื่อพันธุ์องุ่น ทำให้ไวน์มีชื่อเหมือนกันนับร้อย ๆ ตัวต่างกันที่ผู้ผลิต)
และนับเป็นไวน์ที่ใช้ชื่อเฉพาะ (Single Estate) ตัวแรกของอิตาลีที่ได้รับเกรด DOC (Denominazione di Origin Controllata ) นั่นคือ DOC Bolgheri เนื่องจากโดยทั่วไปเกรดไวน์อิตาลีจะให้ตามพื้นที่ที่ปลูกองุ่น เช่น หากเขตใดได้ DOC ผู้ที่ปลูกองุ่นทำไวน์ในเขตนั้นจะได้ DOC ทั้งหมด
Sassicaia 1972
คำว่า Sassicaia เป็นภาษาพื้นเมืองของชาวทัสคัน แปลว่า Stony Ground เนื่องจากไร่ที่ปลูกมีหินเป็นส่วนผสมเป็นจำนวนมาก มีบางคนแปลว่า “ข้ามาจากหิน”
ตัวต่อมา โซลายา (Solaia) เป็นอีกหนึ่งใน ไวน์ซูเปอร์ ทัสคัน ที่ชาวเมรัยอมตะไฝ่ฝันจะได้ลิ้มลองสักครั้ง ขณะที่คนไทยล้อกันสนุก ๆ ว่า โสรยา !
เจ้าของคือบริษัท มาร์เคซี อันติโนริ เอสอาร์แอล (Marchesi Antinori Srl) ซึ่งเป็นเจ้าของไวน์ ติกยาเนลโล (Tignanello) อีกหนึ่งซูเปอร์ทัสคันนั่นเอง ปัจจุบันมีมาร์เคเซ ปิเอโร อันติโนริ (Marchese Piero Antinori) เป็นหัวเรือใหญ่ในการบริหาร ผลิตไวน์ในทัสคานี และอุมเบรีย (Umbria) มาตั้งแต่ปี 1385 หรือทายาทรุ่นที่ 26
หลังจากทำ Tignanello จนฮิตติดลมบนไปแล้ว จึงหันมาปั้น Solaia ในสไตล์ บอร์กโดซ์ เบลนด์ โดยมีผู้ปรุงคือจาโกโม ทาคิส (Giacomo Tachis) ไวน์เมกเกอร์มือทองสมองเพชร เจ้าของฉายา บิดาแห่งซูเปอร์ ทัสคัน
Solaia 2013
Solaia มีความหมายว่า ดวงอาทิตย์ที่ทอแสง (The Sunny One) เป็นชื่อไร่องุ่นขนาด 10 เฮกตาร์ อยู่ติดกับไร่ Tignanello ในเมอร์กาตาเล วัล ดิ เปซา (Mercatale Val di Pesa) ของเคียนติ กลาสสิโก (Chianti Classico)
Solaia ผลิตวินเทจแรกคือ 1978 ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet sauvignon) 80% และกาแบร์กเนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) 20% ซึ่ง เป็นส่วนผสมส่วนที่ใกล้เคียงกับไวน์ซาสซิกายา (Sassicaia) ยอด ซูเปอร์ ทัสคัน อีกตัวหนึ่งใต้ชายคาเดียวกัน
ต่อมาวินเทจ 1980 มีการเปลี่ยนแปลงสูตรใหม่ ด้วยการเพิ่มซานโจเวเซ (Sangiovese) องุ่นพื้นเมืองของทัสคานีเข้ามา 20% ลดกาแบร์เนต์ โซวีญยอง เหลือ 75% แบ่งพื้นที่ให้กาแบร์เนต์ ฟรอง 5% บ่มในถังโอ๊คฝรั่งเศสใหม่ 18 เดือน บ่มต่อในขวด 12 เดือน
องุ่นแมร์โลต์
โซลายา เป็น ไวน์อิตาลี ตัวแรกที่ได้รับการยกย่องให้เป็น World’s Number One Wine โดยนิตยสารไวน์ สเปกเตเตอร์ (Wine Spectator) ในปี 1997 ขณะที่ จาโกโม ทาคิส นั้นนิตยสาร ดีแคนเตอร์ (Decanter) ยกย่องให้เป็น “Man of the Year” ปี 2011
มีสถานะเป็น IGT นับเป็น ไวน์ซูเปอร์ ทัสคัน ฉลากที่ 2 ที่มีส่วนผสมของ ซานโจเวเซ (ต่อจาก Tignanello) และเป็นฉลากที่ 3 จากฝีมือของจาโกโม ทาคิส (Sassicaia,Solaia,Tignanello) ก่อนจะเสียชีวิตในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2016 ฝากฝีมือไว้ให้คอไวน์ทั่วโลกได้จดจำ และกระเป๋าบางทุกปี !
องุ่นแมร์โลต์ที่ใช้ทำมาสเซโต
ปิดท้ายด้วยซูเปอร์ ทัสคัน ชื่อดังที่หลายคนบอกว่าอาจจะเป็น ซูเปอร์ ซูเปอร์ ทัสคัน หรือ สุดยอดแห่งซูเปอร์ ทัสกัน นั่นคือ มาสเซโต (Masseto) ได้ชื่อว่าเป็นไวน์ตัวแรกที่ได้คะแนนจาก โรเบิร์ต ปาร์คเกอร์ (Robert Parker) 100 คะแนนเต็ม 2 ปีติดต่อกัน
ผู้ให้กำเนิดมาสเซโตคือบริษัท เตนูตา เดล ลอเนลลายา (Tenuta dell’Ornellaia) ซึ่งเป็นเจ้าของ ออร์เนลลายา (Ornellaia) อีกหนึ่งซูเปอร์ทัสคัน ที่ทำมาตั้งแต่ปี 1985 อยู่แล้ว ก่อนจะมาทำมาสเซโตในปีถัดมา ส่วนเจ้าของปัจจุบันคือ บริษัท มาร์เคสิ เด เฟรสโคบาลดิ (Marchesi de’ Frescobaldi) เข้ามาครอบครองในปี 2005
จาโคโม ทากิส บิดาแห่งไวน์ซูเปอร์ ทัสคัน
มาสเซโต (Masseto) แห่งตำบาลโบลเกรี (Bolgheri) แคว้นทัสคานี ได้ฉายา เปตรุสแห่งอิตาลี จากการที่ใช้องุ่นแมร์โลต์ (Merlot) เหมือนกับชาโต เปตรุส (Chateau Petrus) ของฝรั่งเศส
ผลิตวินเทจแรกคือ 1986 ขณะที่วินเทจ 2019 เป็นวินเทจแรกที่มีการใช้กาแบร์เนต์ ฟรอง เบลนด์ด้วย 10% ที่เหลือเป็นแมร์โลต์ 90% บ่มบาร์ริกใหม่ 24 เดือน
มาเซโต ฉายา เปตรุสน้อยแห่งอิตาลี
ได้คะแนนจากนักชิมสำนักต่าง ๆ ประมาณ 97-99 /100 คะแนน ในอิตาลีขายอยู่ขวดละประมาณ 1,000 – 1,100 ยูโร ส่วนในบ้านเรากำเศษตังค์ไป 30,000 บาท อาจจะมีทอนเป็นค่ากับแกล้มสัก 500 บาท ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าไหนได้มาราคาดี
มาดู เทสติ้งโน้ต ซูเปอร์ ทัสคัน 3 ตัวที่ผมได้ชิมครั้งล่าสุด
Sassicaia 2015
เตนูตา ซาน กุยโด “ซาสซืกายา” โบลเกรี ซาสสิกายา ดีโอซี, ทัสคานี, อิตาลี 2015 (Tenuta San Guido “Sassicaia” Bolgheri Sassicaia DOC,Tuscany, Italy 2015) : วินเทจนี้ได้รับรางวัลอันดับ 1 ในการจัดอันดับท็อป 100 ไวน์ยอดเยี่ยมของนิตยสารไวน์ สเปกเตเตอร์ ปี 2018
ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยง และกาแบร์เนต์ ฟรอง ในอัตรา 85-15% ตามลำดับ หลังหมักแบบมาโลแลคติก (Malolactic Fermentation) จึงบ่ม 2 ปีในถังโอ๊คฝรั่งเศสก่อนบรรจุขวด
ทิวทัศน์สวยงามในทัสคานี
.... สีแดงเข้ม สดใส ฟรุตตี้ผสมผสานกันระหว่างผลไม้เปลือกดำและเปลือกแดง เช่น แบล็คเคอร์แรนท์ เรดเชอร์รี ราสพ์เบอร์รี ซีดาร์ กล่องซิการ์ หนังสัตว์ ดอกไม้แห้ง ๆ มิเนอรัล ครีมมี สโมคกี้ เมล็ดกาแฟคั่ว สไปซี่ กรีนเปเปอร์ อบเชย ชะเอมเทศ ใบเบย์ แทนนินยังหนักแน่น จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล และเฮิร์บ ยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก น่าจะอีกสัก 3-4 ปีเป็นอย่างน้อย นับเป็นคลาสสิกซาสซิกายา อีกวินเทจหนึ่ง....20/20 คะแนน
Solaia 2013
มาร์เคซี อันติโนริ “โซลายา” ทอสคานา ไอจีที 2013 (Marchesi Antinori “Solaia” Toscana IGT 2013) : ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง 75% ซานโจเวเซ 20% และกาแบร์เนต์ ฟรอง 5% หมักในถังสแตนเลส และบ่ม 14 เดือนในถังโอ๊คฝรั่งเศสใหม่ เป็นอีกหนึ่งวินเทจยอดเยี่ยมของโซลายา
...สีแดงทับทิมสดใส หอมกลิ่นผลไม้สุกหอมหวาน เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ และพลัม ดอกไวโอเลต ดอกลาเวนเดอร์ บัลซามิคกรุ่น ๆ ทรัฟเฟิล เอิร์ธตี้ ไส้ดินสอ ช็อกโกแลต ซีดาร์ สไปซี่ เฮิร์บสด เปปเปอร์ ชะเอมเทศ มินต์ วานิลลา สโมคกี้โอ๊ค แอสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นแต่นุ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้สุก มินต์ วานิลลา และโอ๊คกรุ่น ๆ สามารถดื่ม ณ เวลานี้ได้ ......20/20 คะแนน
Tignanello 2019
มาร์เคซิ อันติโนริ ติกญาเนลโล ทอสคานา ไอจีที 2019 (Marchesi Antinori Tignanello Toscana ITG 2019) เป็นไวน์ซูเปอร์ ทัสคัน ที่ทำเฉพาะปีที่ผลผลิตองุ่นดีจริง ๆ วินเทจนี้ทำจากซานโจเวเซ 85% กาแบร์เนต์ โซวีญยอง 10% และกาแบร์เนต์ ฟรอง 5% บ่มโอ๊ค 14 เดือน 50% ในโอ๊คใหม่ผลิต 25,800 ลัง
...สีแดงโกเมน สดใส หอมกลิ่นผลไม้ โดยเฉพาะเชอร์รีโดดเด่นมาก แบล็คเคอร์แรนท์ ราสพ์เบอร์รี ดอกไวโอเลต ใบยาสูบ เอิร์ธตี้ กาแฟคั่ว สนิมเหล็ก สไปซี่ เฮิร์บ อบเชย โป๊ยกั๊ก เปปเปอร์ โอ๊คหอมกรุ่น แอสิดสดชื่น แทนนินยังแน่น จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซีเฮิร์บ ยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก ดื่มตอนนี้ก็ได้บ้าง แต่ถ้าจะให้ดีรออีก 1-2 ปีข้างหน้าเป็นอย่างน้อย เป็นอีกวินเทจหนึ่งที่ควรชิม....19.5/100 คะแนน
ไวเนอรีในทัสคานี
ซูเปอร์ ทัสคัน ในบ้านเรานั้นหลายยี่ห้อที่ดัง ๆ เรียกว่า ซูเปอร์ ไพรซ์ ราคาโหดเกินจริง เกินคุณภาพ ด้วยสาเหตุบางประการ ขณะที่บางยี่ห้อ ชื่อเสียงเป็นรอง แต่คุณภาพและราคาสมเหตุสมผล อยู่ที่ว่าใครจะค้นเจอ