'ปอเมอฮรอล' 'ไวน์บอร์กโดซ์' ไวน์ตำบลพื้นที่เล็ก แต่ยิ่งใหญ่คับโลก
'ปอเมอฮรอล' เป็นพื้นที่ผลิตไวน์เล็กที่สุดของเขตผลิต 'ไวน์บอร์กโดซ์' (Bordeaux Wine Region) พื้นที่ประมาณ 12 ตร.กม. ปลูกองุ่นประมาณ 800 เฮกตาร์ แต่คนในแวดวงไวน์บอกว่าแค่ได้ยินชื่อก็น้ำลายสอ...
ปอเมอฮรอล (Pomerol) มีผู้ผลิตไวน์ประมาณ 150 ชาโต เป็นชาโตเล็ก ๆ เหมือนโรงรถ หรือกระท่อมปลายไร่องุ่น ทำไวน์ได้ไม่มาก แต่ทำได้ดีมาก
ในด้านภูมิศาสตร์การปกครอง ปอเมอฮรอล อยู่ในคอมมูนลิบูร์น (Libourne) สังกัดฌีฮรงด์ ดีพาร์ตเมนต์ (Gironde department) อยู่ในเขตผลิตไวน์บอร์กโดซ์
ปอเมอฮรอล เล็กนิดเดียว
ในด้านการผลิต ไวน์ปอเมอฮรอล เป็น 1 ใน 12 เขตย่อยของเขตควบคุมลิบูร์แนส์ (The Libournais Appellations) เหมือนกับแซง เตมิลยอง, ฟรองซัค, ลาลองด์ เดอ ปอเมอฮรอล, กัสติลยอง ฯลฯ ได้รับ AOC (Appellation d'origine contrôlée) มาในปี 1936
เขตผลิต ไวน์บอร์กโดซ์ นั้นแบ่งเป็น 2 ฝั่งของแม่น้ำฌีฮรงด์ (Gironde) ปอเมอฮรอลอยู่ฝั่งขวา (Right Bank) ร่วมกับเขตย่อยดังกล่าวข้างต้น ส่วนฝั่งซ้าย (Left Bank) มีเขตและตำบลดัง ๆ อย่างเมด็อก, ปุยญาค, แซงต์ ฌูเลียง, แซงต์ เตสเตฟ, มาร์โกซ์ ฯลฯ ทั้งสองฝั่งนั้นส่วนผสมขององุ่นที่ใช้ทำไวน์ต่างกัน
ฝั่งขวาใช้แมร์โลต์ (Merlot) เป็นหลัก ส่วนฝั่งซ้ายใช้กาแบร์เนต์ โซวีญยอง (cabernet Sauvignon) เป็นหลัก
อภิมหาไวน์แพง
ที่สำคัญ ปอเมอฮรอล ไม่มีครู (Cru) หรือบัญชีจัดเกรดใด ๆ รับรอง แต่เป็นแผ่นดินเกิดของไวน์แดงราคาแพงอันดับต้น ๆ ของโลกอย่าง ชาโต เปตรุส (Château Pétrus) และอีกมากมาย
ไวน์ปอเมอฮรอล ผลิตไวน์จากแมร์โลต์ 100 หรือเกือบ 100% เป็นแมร์โลต์ที่เติบโตบน ”ดินเหนียว” ชนิดพิเศษ ซึ่งในเขตอื่นไม่มี ทำให้ไวน์มีกลิ่นอบอวล รสชาติเข้มข้น แทนนินหนักแน่น ฯลฯ
ส่วน ชาโต เปตรุส ชาโตไวน์ที่ทำให้คนทั่วโลกรู้จักตำบลเล็ก ๆ รวมทั้งไวน์ชาโตอื่น ๆ ที่ก่อนหน้านั้นแทบจะไม่มีใครสนใจ
ชาโต เปตรุส
ชาโต เปตรุส ในยุคเริ่มแรกมีพื้นที่เพียง 7 เฮกตาร์ (17 เอเคอร์ / ปัจจุบัน 28 เอเคอร์) บุกเบิกโดยตระกูลอาร์โนด์ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา โดยชื่อเปตรุสเริ่มปรากฏครั้งแรกในสาระบบเมื่อปี 1837 ขณะที่ฉลากข้างขวด บางวินเทจใช้ชื่อว่า Petrus-Arnaud ตามชื่อของตระกูล
ไร่องุ่น ดินมีส่วนผสมดินเหนียว
ชาโต เปตรุส เริ่มโด่งดังจากได้เหรียญทอง ในงาน Paris Exposition Universelle 1878 และสามารถทำราคาขายได้เทียบกับ ไวน์กรองด์ ครู ชั้น 2 ตามบัญชีเมด็อก 1855 นับเป็นไวน์จากปอเมอโฮรลตัวแรกที่เชิดหน้าชูตาของเกษตรกรในปอเมอโฮรลอย่างมาก
อีกหนึ่งไวน์แพงของปอเมอฮรอล
ปี 1917 เป็นครั้งแรกที่ ชาโต เปตรุส ขายหุ้นและบริหารจัดการในนาม La Société Civile du Château Pétrus หลังจากนั้นก็มีผู้วนเวียนเข้ามาถือหุ้นอีกหลายคน เช่น ปี 1925 Edmond Loubat แม่หม้ายเจ้าของโรงแรม Hôtel Loubat ใน Liboure เข้ามาถือหุ้น และในปี 1940 ก็ได้เป็นเจ้าของเพียงคนเดียว
เมื่อเจ้าของเสียชีวิตหุ้นของ ชาโต เปตรุส ก็แบ่งให้หลานชายและหลานสาว ก่อนที่ภายหลัง ฌอง ปีแอร์ มูอิกซ์ (Jean-Pierre Moueix) จะไปซื้อหุ้นจากหลานสาว และนำทีมไวน์เมกเกอร์เข้ามาปรับปรุง
คริสเตียน มูอิกซ์
เช่นจ้าง เอมีล เปย์โนด์ (Émile Peynaud ) ปรมาจารย์การปลูกองุ่นและผลิตไวน์มาเป็นที่ปรึกษา และซื้อไร่องุ่นจากชาโต กาแซง (Château Gazin) ที่รั้วติดกันมาเพิ่มอีก 5 เฮกตาร์ เป็นต้น และตระกูล "มูอิกซ์" นี่เองเป็นผู้ที่ทำให้ชาโต เปตรุส กลายเป็นไวน์ที่ชาวโลกโหยหา
หลังจาก ฌอง ปีแอร์ มูอิกซ์ เสียชีวิตในปี 2003 ฌอง ฟรังซัวส์ มูอิกซ์ (Jean-François Moueix) ลูกชายคนโตก็เข้ามาดูแลด้านการขายไวน์ในบอร์กโดซ์ เพราะมีไวน์ในเครือหลายชาโต
ขณะที่ คริสเตียน มูอิกซ์ ลูกชายคนรองเป็นประธานบริหารธุรกิจของครอบครัว ก่อนจะไปทำ ไวน์โดมินุส (Dominus) ในแคลิฟอร์เนีย จนโด่งดังเช่นกัน
ฟิลิปป์ ดาร์แยต์
ในหนังสือ The great age of Pétrus ที่เขียนโดย เดวิด เปปเปอร์คอร์น (David Peppercorn) มาสเตอร์ ออฟ ไวน์ (MW) และนักเขียนชาวอังกฤษ ระบุว่า...
"ชาโต เปตรุส เริ่มมาโด่งดังหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และประสบผลสำเร็จดังสุดขีดด้วยวินเทจ 1945 ซึ่งในปีเดียวกันนั้นเอง ฌอง ปิแอร์ มูอิกซ์ ก็ก้าวเข้ามาก่อนจะกลายเป็นหนึ่งในตำนานอมตะของชาโต เปตรุส โดยเขาเป็นพ่อค้าคนกลาง (Négociant) แห่งบริษัท Établissements Jean-Pierre Moueix ในเมืองลีบูร์น (Libourne) ได้รับกรรมสิทธิ์ในการทำตลาด และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชาโต เปตรุสเติบโตและยิ่งใหญ่ในโลก
กล่องบรรจุ ชาโต เปตรุส ไปอวกาศ
ในปีต่อมา ฌอง ปิแอร์ มูอิกซ์ แนะนำ ชาโต เปตรุส สู่ตลาดอเมริกาเป็นครั้งแรก และปี 1947 ชาโต เปตรุส วินเทจ 1938 ขนาดแม็กนั่ม 2 ขวด ส่งมอบให้กับนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน เพื่องานอภิเษกสมรสเจ้าหญิงอลิซาเบธ (ต่อมาคือสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2)
เดือนกันยายน 2018 เกิดการเปลี่่ยนแปลงที่หน้าหนึ่งของวงการไวน์ต้องบันทึกไว้ ของชาโต เปตรุส ถูก อเลฆานโดร ซานโต โดมิงโก (Alejandro Santo Domingo) อภิมหาเศรษฐีชาวสหรัฐเชื้อสายโคลอมเบีย ซื้อหุ้นจากตระกูลมูอิกซ์ (Moueix) ถึง 20% ที่ผ่านมาการซื้อหุ้นในชาโต เปตรุส ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น การทำธุรกรรมดังกล่าวจึงทำสถิติเป็น ไร่องุ่นที่แพงที่สุดของการทำธุรกรรมซื้อขายไร่องุ่น
เปิดชิมไวน์ชาโต เปตรุส ที่ส่งไปอวกาศกลับมา
ประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว ชาโต เปตรุส วินเทจ 2000 จำนวน 1 ลัง (12 ขวด) นำไปบ่มบนสถานีอวกาศนานาชาติ (The International Space Station = ISS) เป็นเวลา 14 เดือน และไวน์ดังกล่าวได้ส่งกลับมายังโลกด้วยความปลอดภัยด้วยยานขนส่ง SpaceX “Dragon” เปิดชิมเมื่อเดือนมีนาคม 2021 ที่ผ่าน ณ สถาบัน ISVV (Institute of the Sciences of Vine and Wine University of Bordeaux) เมืองบอร์กโดซ์ มีผู้ได้รับเชิญร่วมชิม 12 คน
ศาตราจารย์ ฟีลิปป์ ดาร์แยต์ (Philippe Darriet) ประธานสถาบัน ISVV กล่าวว่า “ทุกคนลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า ไวน์ทั้ง 2 ตัวถือว่าเป็นไวน์ที่ยอดเยี่ยม นั่นหมายความว่าตลอด 14 เดือนที่อยู่บนอวกาศนั้นถือว่าประสบความสำเร็จ..
พูดมากน้ำลายสอ อย่ากระนั้นเลยเรามาชิมชาโต เปตรุส กันดีกว่า
ชาโต เปตรุส ปอเมอโฮรล 2015
ชาโต เปตรุส ปอเมอโฮรล 2015 (Château Pétrus Pomerol 2015) : บรรจุขวดเมื่อเดือนกรกฏาคม 2017… สีแดงเข้ม หอมกลิ่นผลไม้ โดยเฉพาะพลัม และมัลเบอร์รีค่อนข้างโดดเด่น ตามด้วย แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ และพรุน ดอกลาเวนเดอร์ วานิลลา สไปซี่เฮิร์บ ชะเอมเทศ จันทน์เทศ ใบไธม์ มิเนอรัล ทรัฟเฟิล มะกอกดำ ช็อกโกแลต โอ๊คยังค่อนข้างแรง ซีดาร์ แทนนินยังหนักแน่น ยังไม่เปิดตัวเต็มที่ น่าเริ่มดื่มได้บ้างในอีก 6-7 ปีข้างหน้า ใครมีอยู่ในเซลลาร์เก็บยาว ๆ ไปเลย 40-50 ปี แต่ถ้ามีแนะนำให้ขายดีกว่าดื่ม มูลค่าเกือบ ๆ ครึ่งล้าน ....20/20 คะแนน
นั่นเป็น ปอเมอฮรอล ราคาอภิมหาแพง แต่ปอเมอฮรอลที่ราคาไม่แพงสามารถจับต้องได้ก็มี
ชาโต บูร์จเนิฟ ปอเมอฮรอล 2018
ชาโต บูร์จเนิฟ ปอเมอฮรอล 2018 (Château Bourgneuf Pomerol 2018) : ทำจากแมร์โลต์ 80% และกาแบร์เนต์ ฟรอง 20% อายุขององุ่นประมาณ 40 ปี บ่มโอ๊ค 12-14 เดือน โดย 30% บ่มในโอ๊คใหม่ ที่สำคัญได้รับความช่วยเหลืออย่างดีจากทีมไวน์เมกเกอร์ของตระกูลมูอิกซ์ ที่ปลุกปั้นชาโต เปตรุส จนโด่งดังนั่นเอง
ชาโตนี้ได้ฉายาว่า เบบี้ เปตรุส
สีแดงเข้ม หอมกลิ่นผลไม้สุก พลัม แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี ราสพ์เบอร์รี ดอกลาเวนเดอร์ มิเนอรัล ทรัฟเฟิล ช็อกโกแลต ใบยาสูบ เกาลัด สไปซีเฮิร์บ เปปเปอร์ อบเชย ชะเอมเทศ วานิลลา มินต์ สไปซีโอ๊ค แอสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นเนียน จบด้วยผลไม้ มิเนอรัล สโมคกี้และสไปซีเฮิร์บ อาจจะยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก น่าจะประมาณ 2-3 ปีเป็นอย่างน้อย และสามารถเก็บได้ประมาณ 15-20 ปี เป็นหนึ่งในไวน์ปอเมอฮรอลที่คุณภาพเกินราคา......19.5/20 คะแนน
โคลส์ โบร์การ์ด ปอเมอฮรอล 2018
โคลส์ โบร์การ์ด ปอเมอฮรอล 2018 (Clos Beauregard Pomerol 2018) :
ทำจากแมร์โลต์ 93% กาแบร์เนต์ โซวีญยอง 4% กาแบร์เนต์ ฟรอง 3% เป็นแมร์โลต์อายุ 40 ปี เก็บด้วยมือหมักในถังสแตนเลสและถังโอ๊คขนาดเล็ก และบ่มในบาร์ริกฝรั่งเศสใหม่ 100%
สีแดงเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก พลัม แบล็คเชอร์รี บลูเบอรรี แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ และฟิก มิเนอรัล ดอกไม้แห้ง ๆ เอสเพรสโซ่ โกโก้ ใบไธม์ สไปซีเฮิร์บ พริกหยวกเขียว กานพลู ซีดาร์ หนังสัตว์ แอสิดสดชื่น แทนนินนุ่มเนียน จบด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซีเฮิร์บ วานิลลา เป็นไวน์ที่สามารถดื่มขณะที่เป็นไวน์ใหม่ (young wine) ได้ เป็นอีก 1 ในไวน์ปอเมอฮรอลที่ราคายังไม่แพงนักและน่าชิมอย่างยิ่ง.....19/20 คะแนน
โบสถ์หลังเล็กของปอเมอฮรอล
ไวน์ปอเมอฮรอล จากตำบลเล็ก ๆ แต่มีเรื่องราวอีกเยอะที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าเมื่อไรจะเล่าหมด ผมไปที่นี่มาแล้ว 12 ครั้ง ทุกวันนี้ก็ยังอยากไปไม่รู้เบื่อ