‘สำรับข้าวแช่’ รอยัล โอชา (Royal Osha) ต้อนรับ คิมหันต์ฤดู

เปิด สำรับข้าวแช่ ตำรับ รอยัล โอชา ถ่ายทอดความเป็นไทยสไตล์พรีเมียมเป็นประจำทุกปี  ปีนี้ทาง ร้านรอยัล โอชา ต้อนรับ คิมหันต์ฤดู กับเมนู อาหารไทย คลายร้อนที่รังสรรค์กันมาตั้งแต่โบราณ หมูหวานชวนชิม ขอการันตีว่า เป็นอีกหนึ่ง ความอร่อย ที่ต้องรอคอยทุกปี

ขอบอกว่าปีนี้พิเศษไม่เหมือนที่ผ่านมาเพราะ เมนูข้าวแช่ ตำรับรอยัล โอชา จะเสิร์ฟตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2568

ท่ามกลางบรรยากาศจาก ซีรีส์ชื่อดัง The white lotus ซีซั่น 3 ได้มาถ่ายทำที่ Royal Osha ร้านอาหารไทยเจ้าของรางวัล มิชลิน 7 ปีซ้อน แห่งนี้

เชฟวิชิต มุกุระ Executive Chef ผู้มีประสบการณ์ด้าน อาหารไทย มานานกว่า 40  ปี ถ่ายทอด อาหารไทย สไตล์พรีเมียมวิจิตรบรรจง หมูหวานชวนชิม อิ่มเอมไปกับเครื่องเคียง ที่ เชฟวิชิต รังสรรค์ 7 อย่างตามตำรับชาววัง  

ส่วนเพื่อนร่วมโต๊ะเพลิดเพลินกับเครื่องเคียงพิเศษลำดับที่ 8 เห็ดหวาน ทรงเครื่อง เหมาะสำหรับชาวแพลนต์เบส อีกอย่าง ‘เห็ด’ มาจากฟาร์มที่บ้านของเชฟวิชิตเอง ช่างมีความพิเศษจริงๆ

เมนูเรียกน้ำย่อย 'ม้าฮ่อ' และ 'มะม่วงน้ำปลาหวาน' แสนอร่อย

และสำหรับฤดูร้อน คนไทยคุ้นเคยกับผลไม้ที่ออกในช่วงนี้ ดังนั้นเราจะได้รับประทาน มะม่วงน้ำปลาหวาน และ ฝรั่งสีชมพู ที่ถูกนำมาทำเป็น ม้าฮ่อ แทนสับปะรด ไม่น่าเชื่อเข้ากั๊นเข้ากันมากๆ  

นอกจากนี้เชฟยังได้รังสรรค์ของว่าง ยำมะยงชิด เพื่อเปิดต่อมรับรส ด้วยอาหารไทยรสชาติจัดจ้าน เหมาะกับฤดูกาลก่อนเข้าสู่ สำรับข้าวแช่ อย่างเป็นทางการ

เชฟวิชิต มุกุระ กล่าวว่า “รอยัล โอชา ได้สืบสานประเพณีความอร่อย ของตำรับไทยคลายร้อนมาให้ทุกคนได้ลิ้มลองต่อเนื่องกันมาทุกปี

ครั้งนี้นับเป็นปีที่ 5 แล้ว เนื่องจากได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าอย่างเหนียวแน่น ดังนั้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่น่ารัก ทางเราจึงขยายเวลาความอิ่มเอมยาวนานขึ้น เรียกว่า มาเร็วกลับช้า  เริ่มเปิดสำรับตั้งแต่วันนี้ถึง 15 กรกฎาคม 2568 พร้อมเสิร์ฟทั้งมื้อกลางวัน และมื้อเย็น สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้กันได้นะครับ”

เชฟวิชิต มุกุระ Executive Chef ผู้มีประสบการณ์ด้าน อาหารไทย มานานกว่า 40  ปี

หมูหวานชวนชิม ประทับใจตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย คำแรกที่เป็น ม้าฮ่อ อาหารว่างโบราณไส้รสหวานเค็มรสชาติคล้ายไส้สาคู ทว่าละเอียดนุ่มละมุน มากๆ จับคู่มากับผลไม้อย่าง ฝรั่งสีชมพู  ที่โดดเด่นทั้งรสและกลิ่นหอม นำมาแกะสลักอย่างประณีตเป็นรูปใบไม้  

มะม่วงน้ำปลาหวาน และ ม้าฮ่อ

จานนี้เสิร์ฟมามาพร้อมกับ มะม่วงน้ำปลาหวาน อีกหนึ่งผลไม้ประจำฤดูร้อน ใช้มะม่วงสองแบบเป็นมะม่วงอมเปรี้ยว กับมะม่วงมัน ทั้งพันธุ์เขียวเสวย และพันธุ์แก้วขมิ้น ฝานบางเป็นแผ่นแล้วบรรจงม้วนเป็นกรวย  ด้านในสอดไส้น้ำปลาหวาน กุ้งเสียบ หอมแดง พริกสด  อร่อย จนอยากสั่งพิเศษเพราะคำเดียวไม่พอ (ฮา)

ยำมะยงชิด

จานถัดมาเป็น ยำมะยงชิด เชฟวิชิต ได้นำผลไม้หน้าร้อนอย่าง มะยงชิด ผลโตๆทรงรูปไข่มีสีเหลืองส้ม รสชาติเปรี้ยวอมหวาน คัดสรรมาเป็นอย่างดีจากแหล่งปลูกในจังหวัดนครนายกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI

นำมารังสรรค์เป็นเมนูยำ ด้วยการคว้านเมล็ดออกแล้วสอดไส้ด้วยน้ำยำรสชาติจัดจ้านครบเครื่อง เวลารับประทานให้ เคล้า ทั้งพริกและหอมแดงซอยละเอียด โรยหน้าด้วยกุ้งเสียบ และกุ้งแห้งป่น ให้เข้ากัน สองเท็กเจอร์ที่สร้างความแตกต่าง ส่วนมะยงชิดเปรี้ยวฉ่ำหอมกับน้ำปลาหวานนัวลิ้นเข้ากันสุดๆ

จากนั้นเข้าสู่เมนูไฮไลต์ ข้าวแช่ตำรับชาววัง  อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้น  รอยัล โอชา ยังคงเอกลักษณ์ของเครื่องเคียงแต่โบราณทั้งหมด 7 อย่าง ได้แก่

ลูกกะปิ หัวใจสำคัญของข้าวแช่  ซึ่งเป็นกับข้าวที่คนนิยมประชันฝีมือแข่งขันกัน ความโดดเด่นของลูกกะปิ รังสรรค์ขึ้นมาจากส่วนผสมของกระชาย หอมแดง กระเทียม ปลาดุกนาย่าง และมะพร้าวขูด นำมาผัดใส่กะทิ

ปรุงรสให้กลมกล่อมด้วยน้ำตาล  ปั้นเป็นก้อนกลมพอดีคำ ส่วนเคล็ดลับการทำกะปิ ก็คือนำมาห่อใบตองย่างไฟ เพื่อเพิ่มความหอมและอรรถรส ต้องบอกเลยว่า ขอยกให้ ‘ลูกกะปิ’ ที่นี่เป็นที่หนึ่งในดวงใจ เนื่องจากมีกลิ่นหอมของกะปิยั่วยวนใจจริงๆ แถมยังมีรสชาติของกะปิเบาๆอีกด้วย

หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง เชฟวิชิต เลือกใช้หอมจุกซึ่งเป็นหอมโทนลูกใหญ่ นำมาตัดรากออก จากนั้นค่อยๆ เลาะเปลือกแห้งออกจนเหลือติดไว้เพียงเปลือกบางก่อนจะถึงเนื้อของหัวหอม

จากนั้นตัดไส้ในออกแล้วจึงค่อยนำปลาแห้งใส่ลงไป พร้อมกับใช้ไม้จิ้มฟันเสียบให้ติดกัน ชุบแป้งบางๆ ทอด จะได้หอมสอดไส้ปลาแห้ง ซึ่งทำจากปลาช่อนนา นำมาย่างให้สุก ตำแล้วคั่วในกระทะจนกลิ่นหอม

ใส่หอมแดง กระเทียมเจียว น้ำตาลทราย ตามปกติปลาแห้งที่นำมาสอดไส้ในหัวหอมนั้นจะร่วนหลุดออกมาง่าย เชฟวิชิตใช้เทคนิคเฉพาะตัวด้วยการตอกไข่แดงผสม เพื่อให้ปลาแห้งจับตัวกัน

ถัดมาเป็น พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง โดยปกติทั่วไปมักจะเป็นพริกหยวกสอดไส้ห่อหรุ่ม หากข้าวแช่ตำรับรอยัล โอชา ใช้ความประณีตบรรจงในการทำเส้นไข่ ตัวเส้นทำจากไข่เป็ดผสมกับไข่ไก่

โดยทำเป็นแห่บนน้ำมันที่ท่วม เมื่อตัวเส้นของไข่ฟูจึงค่อยมาห่อกับพริกหยวกเม็ดใหญ่ แล้วทอดให้กลิ้งบนน้ำมัน จนเส้นไข่รัดพอดีตัวกับพริกหยวกเม็ดใหญ่จนแน่น ส่วนพริกหยวกกรีดตรงกลางเพื่อนำเมล็ดออก

สอดไส้ด้วยเนื้อหมูบดผสมกับเนื้อกุ้งสับ ตามด้วยรากผักชี กระเทียม พริกไทย และไข่เป็ดตัวช่วยเพิ่มความหนึบ เวลารับประทานเส้นไข่จะไม่ร่นหลุด ทำให้ได้อรรถรสของพริกหยวกสอดไส้อย่างแท้จริง

ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด นำไข่แดงเค็มไชยาอันเลื่องชื่อที่มีความมัน ความแน่นหนึบ และเค็มเล็กน้อย มาตีและปั้นเป็นเม็ดพอดีคำ จากนั้นนำไปชุบแป้งที่มีส่วนผสมของไข่ขาวจากไข่เค็ม แล้วนำไปทอดให้ด้านนอกเหลืองทองอร่าม เวลารับประทานจะได้รสสัมผัสที่แตกต่างกันตรงที่ด้านนอกจะกรอบ และด้านในจะให้ความนุ่มหนึบ

หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม เป็นการหลบหลีกจากการทำ หมูฝอย ธรรมดาๆ ด้วยการนำหมูมาต้มฉีกทำฝอยแล้วคั่ว เพิ่มรสชาติไม่ซ้ำใครด้วยการผัดน้ำพริกมะขามกับหมูฝอย ก็จะได้หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขามรสเข้มข้น สัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากหมูฝอยทั่วไป

ปลายี่สนผัดหวาน เชฟวิชิต ได้นำปลากระเบนแห้งมาแช่น้ำให้เนื้อนิ่ม หลังจากนั้นนำมาตำจนเนื้อนุ่มฟู แล้วผัดกับส่วนผสมและเครื่องปรุงรสเข้มข้น ผัดจนเครื่องซึมเข้าในเนื้อปลาจนแห้ง ขณะที่

เวลคัมดริ๊ง

หัวไชโป๊วผัดหวาน พิถีพิถันตั้งแต่การเลือกหัวไชโป๊วที่ไม่เค็มนัก ล้างทำความสะอาดอย่างดี นำมาหั่นเป็นเส้นฝอย หลังจากนั้นนำมาผัดกับกระเทียม และน้ำตาลปี๊บ ใช้ไฟอ่อนผัดพอให้กรึบๆ สลับการโรยน้ำตาลปี๊บให้ค่อยๆ เคลือบจนน้ำตาลรัด จนเส้นไช้โป๊วมีความเงาขึ้นมาเอง พร้อมโรยด้วยกระเทียมเจียวหอมๆ

อย่างที่บอกเครื่องเคียงพิเศษ สำหรับปีนี้เชฟได้รังสรรค์ เห็ดหวาน ทรงเครื่อง นำมาเป็นทางเลือกของคนรักสุขภาพ โดยนำเห็ดโคนหลวงมาทำให้แห้ง (Dehydration) ฉีกเป็นเส้นๆ  ก่อนนำลงทอดและเคลือบด้วยงากับน้ำตาล จนกรอบและมีกลิ่นหอม

ภายในสำรับมาพร้อมกับ ผักแกะสลัก สุดประณีต ทั้งกระชายแกะสลักดอกจำปี ต้นหอมม้วน มะม่วงเปรี้ยวและแตงกวาแกะสลักรูปใบไม้ รับประทานกับข้าวหอมมะลิเสาไห้ในน้ำลอยดอกไม้ไทย 4 ชนิด ได้แก่

ชมนาด กระดังงา กุหลาบมอญ และมะลิ ซึ่งชมนาดเป็นดอกไม้ประจำฤดูร้อน โดยรอยัลโอชาเป็นหนึ่งในร้านที่สืบเสาะหา นำดอกชมนาดมารังสรรค์ใน สำรับข้าวแช่

หากท่านได้มีโอกาสรับประทาน ข้าวแช่ตำรับชาววัง ที่ รอยัล โอชา แล้ว จะต้องรับรู้ถึงความหอมที่พิเศษกว่าที่ใดอย่างแน่นอน และด้วย น้ำแร่ ค่า pH 8.8

ซึ่งสามารถสกัดกลิ่นอันหอมหวานของดอกชมนาดที่มีกลิ่นคล้ายคลึงกับใบเตยและมะลิ หรือที่เรียกว่า “กลิ่นข้าวใหม่” ด้วยการลอยน้ำแร่แช่ข้ามคืน จนได้กลิ่นหอมออกมารัญจวนใจ

วัตถุดิบที่เชฟนำมารังสรรค์เป็นเมนูอร่อย

“สมุนไพรหลักในเครื่องของข้าวแช่ เราใช้ภูมิปัญญาของชาวบ้านมาสื่อถึงการทำอาหาร จะมีพวกตะไคร้ กระชาย หอมแดง กระเทียม นำมาเป็นส่วนผสมอยู่ในนั้น

โดยเฉพาะกระชายเมื่อรับประทานแล้วจะช่วยขับลมในกระเพาะ เพราะเครื่องเคียงเป็นของผัดของทอดทั้งหมด กระชายจะทำให้เกิดความสมดุลในกระเพาะ

ป้องกันท้องไม่อืดเฟ้อหรือย่อยยาก ส่วนต้นหอมกินเพื่อเพิ่มความเผ็ดร้อนเข้ามา องค์รวมของข้าวแช่คือการสืบสานทางภูมิปัญญาไทย เรียกได้ว่าเป็นอาหารชาววังสู่ชาวบ้าน นี่คือสิ่งที่เรานำเสนอ” เชฟวิชิตกล่าว

สำหรับวิธีรับประทานข้าวแช่ เชฟวิชิต มุกุระ แนะนำเคล็ดลับว่า “ควรไล่ลำดับการรับประทานเครื่องเคียงจากรสคาวที่สุดก่อน จนไปถึงเครื่องเคียงรสหวาน ลูกกะปิ รับประทานคู่กับกระชายและดอกจำปี,

หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง รับประทานคู่กับแตงกวา ต้นหอมม้วน, พริกหยวกสอดไส้ รับประทานคู่กับแตงกวา มะม่วง, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด รับประทานคู่กับมะม่วงเปรี้ยว ต้นหอมม้วน,

หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม รับประทานคู่กับแตงกวา, ปลายี่สนหวาน รับประทานคู่กับมะม่วงเปรี้ยว และหัวไชโป๊วผัดหวาน รับประทานคู่กับแตงกวา ต้นหอมม้วน ทุกครั้งๆ ที่รับประทานเครื่องเคียง ให้รับประทานข้าวแช่สลับกันไปเพื่อล้างปาก และรอรับรสสัมผัสของการรับประทานคำต่อไป”

กรานิต้าส้มฉุน

ด้านเมนูขนมหวานตบท้าย ท้าพิสูจน์ความฟินด้วย กรานิต้าส้มฉุน  มีลูกเล่นอันน่าตื่นตาตื่นใจ เชฟวิชิตครีเอทการทำ น้ำลอยแก้ว ออกมาในรูปแบบ กรานิต้า  คล้ายไอศกรีมอิตาเลียน มีกลิ่นหอมละมุน

รับประทานง่าย ได้รสธรรมชาติ รู้สึกสดชื่น คลุกเคล้ากับผลไม้รสหวานอมเปรี้ยวหลายชนิด ได้แก่ สตรอว์เบอร์รี, ส้ม, บลูเบอร์รี, ราสเบอร์รี, เงาะ, สละ และส้มโอ ด้านบนโรยขิงซอย มะม่วงซอย และหอมเจียว

เพราะเมืองไทยยังรุ่มรวยด้วยไอศกรีมต่างๆ ในช่วงฤดูร้อนเฉพาะเดือนเมษายนนี้ จะมีเมนู ไอศกรีมส่ายก้น มาเสิร์ฟดับร้อนอีกด้วย

ข้าวแช่ Take Away 

ข้าวแช่ แบบ  Take away  ปีนี้ทาง ร้านรอยัลโอชา มีกล่องของขวัญดีไซน์สวยงามคล้ายปิ่นโตทรงเหลี่ยมสีทองปั๊มจมลายชฎาร้อยเรียงกันรอบกล่องที่เป็นเอกลักษณ์ของ Royal Osha จัดสำรับเป็นชั้นจากวัตถุดิบที่รังสรรค์ขึ้นด้วยความประณีตและพิถีพิถัน 7 อย่างตามตำรับชาววัง และเครื่องเคียงพิเศษประจำปี

สำหรับสินค้า Take away ทางรอยัล โอชา มอบ Gift Voucher เป็นของขวัญพิเศษให้กับลูกค้าคนสำคัญ  ให้ได้มาลิ้มรสอาหารสุดยอดรสชาติแห่งฤดูกาล ณ ร้านรอยัล โอชา ในโอกาสสำคัญ วันสำคัญ กับคนสำคัญอีกด้วย 

หมูหวานชวนชิม ขอชวนทุกท่านมาสัมผัส ความอร่อย ของ สำรับข้าวแช่ตำรับชาววัง ที่ ร้านรอยัล โอชา เสิร์ฟทั้งมื้อกลางวัน และมื้อเย็น (สำรองที่นั่งล่วงหน้า) ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 กรกฎาคม 2568 ภายใน 1 สำรับ ประกอบด้วย ของว่าง 2 ชนิด ข้าวแช่ และผลไม้ลอยแก้ว ราคาชุดละ 1,350++ บาท/ท่าน

และข้าวแช่บรรจุในกล่องของขวัญดีไซน์สวยงามคล้ายปิ่นโตทรงเหลี่ยม ราคา 2,300 บาทสุทธิ/กล่อง เหมาะสำหรับรับประทาน 2 ท่านหรือมอบเป็นของขวัญให้ผู้ใหญ่ในโอกาสสำคัญ สามารถสั่งพวงมาลัยคล้องมือเพิ่มเติม ในราคา 300 บาท

ชั้น 2 ของร้านรอยัล โอชา

มุมดังจากซีรีส์ The white lotus ซีซั่น 3

ร้านรอยัล โอชา ซอยร่วมฤดี (ถนนวิทยุ) โทร.0-2256-6555 หรือ 08-5489-0571