“จันทร์ซ้อนจันทร์” 10 ต.ค.65 ปรากฏการณ์ 3 ฤกษ์มงคลในวันเดียว
“จันทร์ซ้อนจันทร์” 10 ต.ค.2565 ปรากฏการณ์ วันเพ็ญ วันจันทร์ วันออกพรรษา สามฤกษ์มงคลในวันเดียวกัน เผยพิธีกรรมคติโบราณให้อาบแสงจันทร์ อาบน้ำมนต์น้ำเพ็ญ เสริมสิริมหาเสน่ห์
จันทร์ซ้อนจันทร์ หมายถึง ปรากฏการณ์วันที่พระจันทร์เต็มดวง ซึ่งก็คือ วันขึ้น 15 ค่ำ และ วันขึ้น 15 ค่ำนั้นยังตรงกับ วันจันทร์ อีกด้วย จึงเรียก “จันทร์ซ้อนจันทร์” นอกจากเป็นวันที่พระจันทร์งดงามที่สุดตามปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของวันขึ้น 15 ค่ำ ยังเป็นวันทรงพลังที่สุดในเชิงโหราศาสตร์
อ.คฑา ชินบัญชร อธิบายไว้ใน “เพจ คฑา ชินบัญชร” เกี่ยวกับ “จันทร์ซ้อนจันทร์” ว่าเป็นมหาฤกษ์มงคล คติความเชื่อโบราณใช้ฤกษ์นี้สร้างวัตถุมงคลทางเมตตามหานิยมและทางโชคลาภทั้งปวง มีคุณเกี่ยวกับอำนาจ มหาเสน่ห์ ซึ่งในแต่ละปีจะมีฤกษ์ จันทร์ซ้อนจันทร์ แค่วันเดียว หรือสองวันเท่านั้น
สำหรับปี 2565 ฤกษ์ “จันทร์ซ้อนจันทร์” มีด้วยกัน 2 วัน วันแรกของปีนี้เกิดขึ้นไปแล้วเมื่อเดือนมกราคม และฤกษ์จันทร์ซ้อนจันทร์ครั้งที่ 2 คือ วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2565 ซึ่งบังเอิญตรงกับ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 (ตามปฏิทินจันทรคติไทย) ซึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนาอีกด้วย นั่นก็คือ วันออกพรรษา จึงกลายเป็น 3 ฤกษ์มงคลในวันเดียวกัน
อ.คฑา กล่าวว่า ดวงจันทร์ หรือ "พระจันทร์" ในทางโหราศาสตร์ มีรูปกายผุดผ่องสวยงาม เกิดจากองค์ศิวะเทพได้เสกเทพบุตรทั้ง 15 ตนห่อด้วยผ้าขาวขึ้นมาเป็น "เทพพระจันทร์" มีการพูดจาที่ดี มีเสน่ห์ชวนหลงใหล
วันเพ็ญ วันขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์เต็มดวง
สำหรับเคล็ดลับดีๆ ในคืนวัน จันทร์ซ้อนจันทร์ เราสามารถรับพลังแห่ง “จันทราเทพ” ด้วยการออกมายืนกลางแจ้ง รับพลังแห่งแสงจันทร์ อ.คฑา กล่าว
"ทางโหราศาสตร์จีน ลักษณะของโหงวเฮ้งมีเนินพระอาทิตย์และเนินจันทร์ เนินพระอาทิตย์คือ ไท้เอี๊ยง (หน้าผาก) เนินจันทร์คือบริเวณท้ายทอย ไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็สามารถจะเปิดเนินจันทร์ หรือ “ท้ายทอย” ของเรา ใครไว้ผมยาวก็เกล้าผมหรือรวบผมขึ้นไปได้ รับพลังแสงจันทร์ 2-3 นาที"
อ.คฑา แนะนำด้วยว่า สำหรับผู้สนใจทำสมาธิให้มีจิตนิ่งและดึงพลังบวกดีๆ จากแสงจันทร์ให้กับตนเรา ก็สามารถทำได้โดยเพิ่มการสวดคาถา “โอมจันทรา ศศิประภา นะมะฮา” 1 จบก็ได้ หรือ 15 จบ ตามกำลังของพระจันทร์
นอกจากนี้ยังสามารถใช้บทสวด “นำมอ ไท้อิม ผู่สัก ม่อฮอสัก” ซึ่งเป็นบทสวดเจ้าแม่กวนอิม สรรเสริญพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ เ่ทพแห่งความเมตตา
รวมทั้งสวดบท อภยปริตร (อะ-พะ-ยะ-ปะ-ริด) คาถายันทุนนิมิตตังก็เรียก เป็นบทสวดบูชาให้พ้นจากภัยพิบัติทั้งปวง ซึ่งเป็นคาถาประจำวันจันทร์ ตั้งนะโม 3 จบ แล้วสวดตามนี้
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
อ.คฑา ชินบัญชร
อ.คฑา กล่าวด้วยว่า ใครที่มีเครื่องรางของศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะในทางเมตามหานิยม หินธรรมชาติ และไพ่ยิปซี ก็สามารถนำออกมารับพลังจากแสงจันทร์ได้ เรียกว่าการอาบแสงจันทร์นั่นเอง
มีความเชื่อกันว่าจะส่งผลให้เครื่องรางของศักดิ์สิทธิ์มีพลังบวกดีๆ จากแสงจันทร์ และสามารถส่งพลังบวกดีๆ นี้ให้กับตัวผู้สวมใส่หรือผู้เป็นเจ้าของ
นอกจากการอาบแสงจันทร์ในวัน “จันทร์ซ้อนจันทร์” เฟซบุ๊กวัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร ยังมีการกล่าวถึง การอาบน้ำมนต์น้ำเพ็ญ หรือการอาบน้ำมนต์ในวันพระจันทร์เต็มดวง ซึ่งเป็นพิธีกรรมโบราณตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประกอบพิธีอาบให้กับผู้จะออกไปรบ เชื่อกันว่าเสริมบารมีและช่วยล้างบาป
ขั้นตอนพิธีนั้น ผู้อาบน้ำมนต์น้ำเพ็ญ ต้องดำน้ำท่องคาถา และน้ำนั้นต้องเป็นน้ำผุดจากพื้นดิน นัยที่ซ่อนอยู่คือเป็นน้ำที่ไหลออกจากมวยผมแม่พระธรณีและน้ำนั้นต้องไหลผ่านร่างกาย สถานที่ประกอบพิธีจึงมักเป็นแม่น้ำและน้ำตก ยิ่งถ้ามีต้นตะเคียนอยู่ด้วยยิ่งต้องตามตำรา
พิธีพุทธาภิเษก ก่อนอาบน้ำมนต์จันทร์เพ็ญ ณ พระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวราราม พ.ศ.2557
พิธีอาบน้ำเพ็ญที่เก่าแก่และสืบทอดมายาวนาน ต้องยกให้ วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร ย่านเสาชิงช้า กรุงเทพฯ จัดพิธีอาบน้ำเพ็ญตามตำรับของ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) ณ บริเวณลานว่างข้างพระอุโบสถ เริ่มตั้งแต่เวลา 21.00 น.เป็นต้นไป
เริ่มจากพระสงฆ์ทำสังฆกรรม สวดพระปาติโมกข์ คือ ศีล 227 ข้อ อันหมายถึง ความบริสุทธิ์แห่งสงฆ์ทั้งปวง
ต่อด้วยเจริญพระคาถาพุทธาภิเษก และเจริญพระคาถาภาณวาร เป็นพระคาถาที่สวดตามวาระ ไม่ค่อยสวดบ่อยนัก เป็นพระคาถาขับไล่เสนียด สิ่งอัปมงคล ป้องกันภัย และโรคร้ายต่างๆ และเจริญอายุวัฒนะ
สำหรับผู้ไม่สามารถไปร่วมพิธีที่ใดได้ และคนที่อยู่ในเมือง ก็สามารถ อาบน้ำมนต์น้ำเพ็ญ ได้เช่นกัน คติความเชื่อของคนโบราณมักตักน้ำจากแม่น้ำลำคลองที่ไหลผ่านหน้าบ้านในเวลาเที่ยงคืนพอดี ตักมาอาบน้ำตอนเที่ยงคืน
หรือให้นำภาชนะใส่น้ำ (ใส่น้ำมนต์ลงไปด้วยก็ได้ถ้ามี) นำไปตั้งไว้ยังกลางแจ้ง รอจนกระทั่งบังเกิดเงาของพระจันทร์ลอยเด่นอยู่ภายในภาชนะที่ใส่น้ำนั้น เป็นการนำเอาธาตุน้ำมารับแสงจันทร์ ธาตุน้ำในช่วงเวลาดังกล่าวจะซึมซับเอาพลังงานจากพระจันทร์ช่วงเต็มดวงไว้อย่างเต็มที่ จากนั้นกล่าวคำขอขมาพระแม่คงคงแล้วจึงตักน้ำนั้นอาบ ถือว่าเป็นสิริมงคลเช่นกัน
คำขอขมาพระแม่คงคา "สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต" เป็นภาษาบาลี จากคำบอกเล่าของ พระราชวิจิตรปฏิภาณ "เจ้าคุณพิพิธ" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม
ปัจจุบัน “การอาบน้ำมนต์น้ำเพ็ญ” กลายมาเป็นพิธีกรรมที่ได้รับความนิยมของคนในวงการบันเทิงและผู้ซึ่งมีความเชื่อส่วนบุคคล
- อ้างอิง : เฟซบุ๊กเพจ คฑา ชินบัญชร , เว็บไซต์ สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ , เฟซบุ๊ก สวดมนต์ วัดสุทัศน์ , เฟซบุ๊ก วัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร