โฟรฟองสนาน เผยดวงเมืองรัตนโกสินทร์ พระสยามฯ ภาคกาลีอาละวาด-ดุ
โฟรฟองสนาน เผยดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ พระสยามฯ ภาคกาลีอาละวาด - ดุ เตือนผู้มีอำนาจ คนเด่นดังในเมือง - วงการเมืองให้ระวังตัว
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 "โหรฟองสนาน" เปิดเผยคำทำนายผ่านบทความ แม่หมอสมัครเล่นตอนที่517 โดยฟองสนาน จามรจันทร์ ระบุ พระสยามฯภาคกาลีอาละวาด-ดุ ตั้งแต่ปลายปี 2565 แล้วที่ผู้เขียนทำนายดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ เพื่อเตือนผู้มีอำนาจ คนเด่นดังในเมือง - วงการเมืองให้ระวังตัวในการใช้อำนาจ - หรือกฎหมายหรือระเบียบ เพราะหากทำผิดหรือไม่อยู่ในขอบเขต - เกิน - ขาดอาจจะสร้างความความเดือดร้อนระยะยาวให้
โดยได้ยกประเด็นที่คลาสสิก - โดดเด่นที่สุดที่เคยเกิดในอดีตมาเป็นตัวอย่าง คือ กรณีคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้เซ็นต์คำสั่งย้ายคุณถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติจนเป็นเรื่องราวให้เดือดร้อน แม้ล่าสุดศาลจะบอกว่าการย้ายไม่มีความผิดแต่ก็ใช้เวลายืดเยื้อยาวนานมาก อีกทั้งคุณถวิลก็ยังไม่ยอมแพ้สู้ต่อ
ทั้งนี้ เพราะในบรรดาเรื่อง ดี-ร้าย ที่สามารถเกิดในเมืองได้ตลอดเวลานั้นมีเกณฑ์สำคัญทาง ดวงชะตาเมือง และหลักทักษา ที่เด่นชัดออกมาว่าอาจจะซ้ำรอยเดิมคือระหว่างวันเกิดเมืองที่ 21 เมษายน 2566 - 21 เมษายน 2567 เกิดปรากฎการณ์สำคัญที่ออกแนวร้าย คือ เมืองต้องเกณฑ์ร้ายที่เรียกว่า - ปัสสะวะชีโว
อธิบายหลักเพื่อไม่ให้เป็นการโมเมทำนายคือ เมืองรัตนโกสินทร์ ที่ถือกำเนิดวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 น.ลัคนาสถิตราศีเมษ ซึ่งมีสัตว์สี่เท้า คือ แพะ หรือ แกะ เป็นสัญลักษณ์นั้น
อ้างอิงหลักโหรจากตำราโหราศาสตร์ปริทรรศน์เล่ม 1 ของ อ.เทพย์ สาริกบุตร ครูโหรผู้ล่วงลับว่า หากปีใดถึงคราวเคราะห์ที่ในรอบเก้าปีจะมีหนึ่งปีที่พฤหัสบดีจะเป็นกาลกิณีจรหาก บังเอิญมาทับลัคนาดวงเมืองเข้า โป๊ะเช๊ะ ถือว่า เมืองต้องฆาฎ ที่ทางโหรเรียก - ปัสสะวะชีโว เป็นเวลาหนึ่งปี ที่จะยังผลวิบัติต่างๆนาให้เกิดในเมือง
โดยไล่เรียงปรกฎการณ์ลางร้ายทางโหร คือ บังเอิญลงล็อคแรกที่อุบัติคือตั้งแต่วันคล้ายวันเกิดเมืองที่ 21 เมษายน 2566 พฤหัสบดี(5) ซึ่งเปรียบเหมือนหัวหน้าเทวดาประจำเมือง - คอยคุ้มครองเมือง เริ่มเป็นกาลิกณีจร พลิกเป็นหัวหน้าเทวดาประจำเมืองภาค ร้าย-ดุ และจะเป็นไปถึงวันคล้ายวันเกิดเมืองที่ 21 เมษายน 2567
ลงล็อคที่สอง พฤหัสบดีกาลกิณีจรนี้กำลังเดินอยู่ในราศีเมษที่ลัคนาเมืองตั้งอยู่ นั่นคือหัวหน้าเทวดาประจำเมืองภาค ร้าย-ดุ ทับลัคนาเมืองต้องปัสสะวะชีโวเต็มรัก
ลงล็อคที่สาม พฤหัสบดีกาลกิณีจรเดินในราศีเมษยังทับพระอาทิตย์ดวงเดิม(๑) ที่อยู่ราศีเมษคู่กับลัคนาเมือง ซึ่งพระอาทิตย์นี้เป็นที่ตัวแทนการเมือง และบุคคลสำคัญ - โดดเด่น - คนมียศศักดิ์ - ตำแหน่งสำคัญ- ผู้นำในระดับต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน - วัยรุ่นหรือเด็กๆของเมือง ความเป็นกาลกิณีจึงพาโชคร้ายมาสู่คนกลุ่มนี้ที่หาก ทำเรื่องสุ่มเสี่ยงระเบียบหรือกฎหมาย
และเน้นรวมไปที่กลุ่มคนที่พฤหัสบดีเป็นตัวแทนอยู่คือนักบวช - บุคคลในวงการตุลาการ หรือบุคคลในกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งพวกนักร้อง - นักตรวจสอบทั้งหลาย - สมาชิกวุฒิสภา - ที่ปรึกษา - ทนายความ - หมอหรือบุคลากรทางสาธารณสุข - นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย - อาจารย์ระดับสอนมหาวิทยาลัย เป็นต้น
ลงล็อคที่สี่ พระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง(๑) ที่พฤหัสบดีกาลกิณีจรทับอยู่นี้ยังเป็นตัวแทนจิตใจ(ตนุเศษ) คนในเมืองโดยภาพรวมด้วย
ผลก็คือ หากจิตใจของบุคคลใดที่กล่าวมาแล้วข้างต้นไม่เข้มแข็งพอแล้ว คงจะถูกอำนาจใฝ่ต่ำครอบงำทำเรื่องสุ่มเสี่ยง ต้องเดือดร้อนทางระเบียบกฎหมายไปอีกยาว หรือเกิดมาก่อนแล้วผลมาโผล่ระยะนี้ชุกผิดปกติ ตัวอย่าง ความกาลกิณีที่เกิดแล้วในช่วงที่พฤหัสบดีจร - หัวหน้าเทวดาประจำเมืองพลิกเป็นภาคกาลี - ดุ ที่เดินในราศีเมษเกิดแล้ว เช่น
คุกห้าปีอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีตส.ส.เพื่อไทย เรียกรับสินบนอธิบดีกรมน้ำบาดาล - แอม ไซยาไนต์ความแตก - ปรากฎการณ์พระป่าชื่อดัง - แอบอ้างเบื้องบน พระอาจารย์คม รักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี ไม่ใช่ของจริงความแตก พร้อมกับมีการปลดข้าราชการในกองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ที่ชักนำพระรูปนี้เข้าในราชสำนัก - สัมมนาเอกราชปาตานีสะเทือนพรรคเป็นธรรม - จำคุกไพร พัฒโน 9 ปี - จำคุกคนฆ่าเตี้ยมช. ไม่รอลงอาญา - เพิกถอนใบอนุญาตแอชตันอโศกเป็นที่ฮือฮา ฯลฯ
ส่วนกรณีที่จะส่งผลยืดเยื้อยืดไปอีกยาวแม้หลังจาก 21 เมษายน 2567 ที่พฤหัสบดีหยุดเป็นกาลกิณีจรแล้ว ที่เห็นๆอยู่ และน่าหวาดเสียวคือ กรณีนักโทษเด็ดขาดชายชั้นสิบสี่โรงพยาบาลตำรวจที่ขนาดคุณชวน หลีกภัย ซือแป๋ทางการเมืองออกปากเตือนกลุ่มคนร่วมกระบวนการว่า อย่าทำ - กรณีรวบขบวนการนักร้องตบทรัพย์ข้าราชการ ซึ่งเชื่อได้ว่าน่าจะเละทั้งฝ่ายให้รวบ และฝ่ายถูกรวบแม้แต่ฝ่ายร่วมกันรวบเอง - และกรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งพรรคก้าวไกลให้หยุดเรื่อง ม.112 ที่อาจเป็นจุดตั้งต้นไปสู่การยุบพรรค รวมทั้งเรื่องสำคัญเช่นเงินหมื่นดิจิตัลที่ต้องดูกันว่าจะออกทรงไหน? รวมทั้งกรณีซ่อนทรัพย์สินคุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ
แต่ก็อีกนั่นแหละคำเตือนก็เหมือนลองวิชาโหรอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดคนเขาจะทำเขาก็ทำ หรือทำมานานแล้วถอยไปบวชก็ไม่ทันก็ให้คนกลุ่มนี้ที่ชะตาตก (มีบางคนบาปค้ำอยู่) ต้องฆาฎกันไปตามโฉลกคำทำนาย
…ท่านว่าชาตาฆาฎ ต้องอุบาทว์ร้ายหนักหนา ทุกข์โศกโรคบีฑา ชีพชีวาอาจวอดวาย หรือไม่บุตรภรรยา ทรัพย์โภคาจะเสียหาย พรากพลัดจัดกระจาย ป่นปี้ร้ายไม่เป็นอัน…
ส่วนพวกเราคนเดินดินธรรมดาไม่ใช่บุคคลสำคัญทั้งหลายก็ตั้งตาอยู่ในธรรมให้เป็นเกราะคุ้มครองและเป็นฝ่ายเฝ้าดูไม่ว่าหัวหน้าเทวดาประจำเมืองท่านจะมาในภาคดุหรือภาคดีก็ไม่คงเดือดร้อนกัน
ฟองสนาน จามรจันทร์
2 กุมภาพันธ์ 2567