บทบาทใหม่ที่เปลี่ยนไปของ"แคเธอรีน" เจ้าหญิงแห่งเวลส์
"เจ้าหญิงแคเธอรีน" ทรงหลีกเลี่ยงการทำตัวให้อยู่ในจุดสนใจมาโดยตลอด แต่ก็เลี่ยงไม่ได้แล้ว ในฐานะ “เจ้าหญิงแห่งเวลส์” แม้จะชอบใช้ชีวิตเรียบง่าย แต่บทบาทใหม่เธอต้องรับผิดชอบมากกว่านั้น
คงปฎิเสธไม่ได้ว่าในบรรดา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ คงไม่มีใครมีชื่อเสียงมากเท่ากับเจ้าหญิงไดอาน่า อดีตพระชายาของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ แม้พระองค์จะสิ้นพระชนม์มากว่า 25 ปี แล้ว แต่เจ้าหญิงไดอาน่ายังทรงเป็นที่จดจำในฐานะ "เจ้าหญิงของประชาชน" และตอนนี้ตำแหน่งเจ้าหญิงแห่งเวลส์ก็ได้คนมารับช่วงต่อแล้วคือเจ้าหญิงแคเธอรีน
หลังจากการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ก็ทรงสถาปนาให้เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคเธอรีนดำรงพระอิสริยยศใหม่ ขึ้นเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์อย่างเป็นทางการ
ซึ่งหมายถึงตำแหน่งรัชทายาทลำดับสูงสุดของ ราชวงศ์อังกฤษ และจะเป็นผู้ที่ขึ้นเถลิงราชย์ในฐานะของกษัตริย์และราชินีองค์ต่อไปในภายภาคหน้า
จริงๆ แล้ว ทั้งเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์องค์ล่าสุด ไม่ใช่คนแปลกหน้าของเวลส์เลย ในทางตรงกันข้ามทั้งสองพระองค์ทรงเคยประทับอยู่บนเกาะแองเกิลซีย์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเวลส์ในฐานะคู่สมรสใหม่หมาดๆ และทรงใช้ชีวิตในฐานะพ่อแม่มือใหม่ที่นั่นด้วย
"แคเธอรีน"ทรงช่วยงานคณะลูกเสือ
ซูซาน เฮสเก็ธ หัวหน้าคณะลูกเสือเมนาย บริดจ์ที่ 1 มีโอกาสได้พบกับเจ้าหญิงแคเธอรีน ตั้งแต่ยังทรงเป็นดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ตอนที่เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ทรงงานเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยค้นหาและกู้ภัยของกองทัพอากาศ เฮสเก็ธจำได้ว่าเจ้าหญิงแคเธอรีนทรงตรัสกับคณะลูกเสือว่าทรงสนใจที่จะช่วยงาน
“มันเป็นเรื่องส่วนตัว พวกเราไม่ได้รับอนุญาตให้บอกคนอื่น” เธอกล่าว เจ้าหญิงแคเธอรีนทรงช่วยงานคณะลูกเสือประมาณ 12 ครั้ง
“เจ้าหญิงทรงมาร่วมงานในคืนแรก และทรงแนะนำตัวเอง พวกเราตื่นเต้นกันมาก ตอนนั้นบรรดาลูกเสือ... ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร และเมื่อพวกเขานั่งร่วมโต๊ะกับเธอ หนึ่งในนั้นก็พูดกับเธอว่า'สามีของคุณขับเฮลิคอปเตอร์หรือเปล่า'”
“เจ้าหญิงทรงตอบว่า 'ใช่' และลูกเสือคนนั้นก็พูด (กับเพื่อนๆ) ว่า 'ผมบอกคุณแล้ว!' เมื่อเขากลับบ้านและเล่าให้แม่ฟังว่า เจ้าหญิงแคเธอรีนไปที่นั่น แม่ก็หาว่าลูกชายโกหก เพราะเธอไม่เชื่อว่า พระองค์จะทรงไปที่นั่นจริงๆ”
เฮสเก็ธเล่าเสริมว่า เจ้าหญิงแคเธอรีนทรงทำทุกอย่างที่หัวหน้าคณะลูกเสือทำ พระองค์ทรงช่วยทำงานฝีมือและทรงร่วมเล่นเกมด้วย
“พระองค์ทรงช่วยผูกเงื่อนลูกเสือ ซึ่งพระองค์ทรงทำเป็น เพราะพ่อเป็นคนสอนตอนที่พวกเขาไปแล่นเรือใบ” เฮสเก็ธ กล่าว
ทรงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
ชีวิตที่เรียบง่ายบนเกาะแองเกิลซีย์ของดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ หลังจากพิธีเสกสมรสในปีค.ศ.2011 ช่วยสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกของการเชื่อมโยงระหว่างราชวงศ์อังกฤษกับเวลส์ โดยทั้งสองพระองค์ประทับอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 3 ปี และยังช่วยเน้นย้ำภาพลักษณ์ของความเป็นคนไม่ถือพระองค์และเข้ากับสามัญชนคนธรรมดาได้
ความเป็นคนติดดินของดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ถูกบอกเล่าผ่านความทรงจำของแอนน์ วิลสัน เชฟและเจ้าของบาร์ไลส์ เลเวลีน ซีกิ้นในย่านอะเบอรฟฟราว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์ของสองพระองค์ในโบดอร์แกน วิลสันเคยทำอาหารให้เสวยรวมถึงอาหารในงานพระราชสมภพครบรอบ 30 ปีของเจ้าชายวิลเลียมด้วย
วิลสันเล่าว่า เพื่อนของเธอเป็นพนักงานทำความสะอาดบ้านให้กับดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ และเมื่อเพื่อนได้เล่าให้ทั้งสองพระองค์ฟังว่า มีเพื่อนเป็นเชฟที่ร้านอาหาร พวกเขาก็ทรงต้องการสั่งอาหารแช่แข็ง
วิลสันไปที่คฤหาสน์ของพวกเขาครั้งสุดท้าย หลังจากที่เจ้าชายจอร์จประสูติในปีค.ศ. 2013 ซึ่งไม่นานก่อนที่จะทรงย้ายออกจากเกาะ เธอเล่าว่า นอกจากเธอจะต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัยแล้ว ทุกอย่างเป็นปกติมากๆ
“ฉันเอาอาหารเข้าไปส่ง เจ้าชายวิลเลียมก็บอกว่าเจ้าหญิงแคเธอรีนต้องการคุยกับฉัน ฉันจึงเข้าไปข้างในและเห็นเธอทรงกำลังป้อนนมเจ้าชายจอร์จ ส่วนเจ้าชายวิลเลียมก็กำลังนำอาหารไปไว้ในตู้เย็น” วิลสันเล่า
วิลสันเล่าด้วยว่า เธอเคยเห็นเจ้าหญิงแคเธอรีน ซึ่งแต่งตัวด้วยเสื้อผ้ามีสไตล์ออกมาปั่นจักรยานแถวๆ ร้าน ส่วนเจ้าชายวิลเลียม ก็เคยไปซื้อของที่ร้านค้าท้องถิ่น พวกเขายังทรงไปทานอาหารที่ร้านอาหารในท้องถิ่นด้วย
“ผู้คนต่างมีความสุขที่เห็นทั้งสองพระองค์ทรงดำเนินชีวิตต่อไปได้ พวกเขาเคยถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังมานาน”วิลสันกล่าว
ทรงช่วยงานกุศล
เจ้าหญิงแคเธอรีนยังทรงทำกิจกรรมกับคณะลูกเสือต่อไป แม้ว่าจะทรงย้ายออกจากแองเกิลซีย์ไปยังนอร์ฟอล์กในปีค.ศ. 2013 และในปีค.ศ. 2020 เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานสมาคมลูกเสือร่วมกับดยุกแห่งเคนต์
นอกจากนี้พระองค์ยังทรงช่วยงานการกุศลด้านอื่นๆ และทรงให้ความสำคัญกับประเด็นเด็กปฐมวัย ปัญหาสุขภาพจิตและกีฬา
เจ้าหญิงแคเธอรีนไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับประชาชนเหมือนกับไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์องค์ก่อน และไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ แบบที่ไดอาน่าเคยทำ เช่น การรณรงค์เรื่องเอชไอวีและโรคเอดส์และทุ่นระเบิด
หนึ่งในบทบาทด้านการกุศลที่เธอทรงทำหน้าที่แทนสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในปีค.ศ. 2016 คือผู้อุปถัมภ์องค์กรการกุศล Action for Children ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเด็กและวัยรุ่นกลุ่มเปราะบางและกลุ่มด้อยโอกาส
ให้ความสำคัญกับเวลส์มากขึ้น?
บริจิตต์ เกเตอร์ ผู้อำนวยการองค์กรการกุศล Action for Children แห่งเวลส์ ได้พบกับเจ้าหญิงแคเธอรีนในระหว่างการเยี่ยมเด็กและเยาวชนที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต
“พระองค์ทรงต้องการมีส่วนร่วมกับการแก้ปัญหาจริงๆ ฉันรู้สึกดีมากๆ เมื่อได้เห็นพระองค์ทรงมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กๆ และครอบครัว พระองค์ทรงดูสบายๆ และผ่อนคลายอยู่เสมอ และทรงสนใจรับฟังเรื่องราวของผู้คน”เกเตอร์กล่าว
เกเตอร์หวังว่าการได้รับการสถาปนาให้เป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ของแคเธอรีน อาจหมายถึงการที่พระองค์จะให้ความสำคัญกับเวลส์มากขึ้น
“ตอนนี้เธอเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์แล้ว บางทีเวลส์อาจจะกลายเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมบางอย่างและความสนใจของเธอ นั่นเป็นสิ่งที่วิเศษมาก” เกเตอร์กล่าว
ทรงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องกลายเป็นจุดสนใจ
ด้านฮิว โทมัส นักข่าวบีบีซีประจำประเทศเวลส์ซึ่งกำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับช่วงชีวิตของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 สมัยที่ยังทรงเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์และความสัมพันธ์ของราชวงศ์อังกฤษกับประเทศเวลส์แสดงทัศนะว่า จริงๆ แล้วในฐานะพระชายาของรัชทายาท เจ้าหญิงแคเธอรีนทรงหลีกเลี่ยงการทำตัวให้อยู่ในจุดสนใจมาตลอด
“ประเด็นหลักสำหรับเจ้าหญิงองค์ใหม่ล่าสุดคือ เธอเดินตามรอยเท้าไดอาน่า ซึ่งเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์” โทมัสกล่าว
เขามองว่า ยิ่งเจ้าหญิงแคเธอรีนมีการพัฒนาความสัมพันธ์กับพระสวามีอย่างเป็นธรรมชาติมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เส้นทางสู่ตำแหน่งของเธอราบรื่นขึ้นมาก
“ความจริงที่ว่าตอนนี้เธอทรงเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์แล้ว คำถามคือนั่นอาจทำให้ทรงกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หรือไม่” โทมัสกล่าว
เจ้าหญิงไดอาน่าสามารถทำลายอุปสรรคดังกล่าวได้ โทมัสจึงเชื่อว่านั่นอาจทำให้เส้นทางของแคเธอรีนง่ายขึ้นในการจัดการปัญหาต่างๆ ด้วยเช่นกัน
.............
ที่มา เว็บไซต์บีบีซี
เจ้าหญิงแคเธอรีนทรงทักทายเด็กน้อยระหว่างการเยือนองค์กรการกุศลที่ช่วยชีวิตคนในทะเลบนเกาะแองเกิลซีย์ ร่วมกับเจ้าชายวิลเลียม (ภาพเอเอฟพี)
