ถึงเวลาเปลี่ยน เลิกเที่ยว ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ เป็นไปตาม ‘เทรนด์โลก’

ถึงเวลาเปลี่ยน เลิกเที่ยว ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ เป็นไปตาม ‘เทรนด์โลก’

การท่องเที่ยว ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ กำลังมาถึงจุดเปลี่ยน ด้วย ‘เทรนด์โลก’ ที่เปลี่ยนไป ถ้าไม่ปรับ ก็ไม่ได้ไปต่อ เมื่อนักท่องเที่ยวปัจจุบันห่วงใยสวัสดิภาพสัตว์มากขึ้น

‘เทรนด์โลก’ ที่เปลี่ยนแปลงไป คนรุ่นเก่าอายุมากขึ้นเลิกท่องเที่ยว คนรุ่นใหม่สนใจท่องเที่ยวแบบรักสัตว์ ห่วงใยสวัสดิภาพสัตว์ รักธรรมชาติ การ ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ จึงไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไป  

มีการพูดคุยเรื่องนี้ในเฟสบุ๊ค World Animal Protection เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565

 

แสงเดือน ชัยเลิศ ประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ยิ่งนักท่องเที่ยวชอบลูกช้างขนาดไหน ลูกช้างก็ยิ่งถูกพรากจากแม่ช้างมากขึ้นเท่านั้น ในเมื่อลูกช้างอยู่ตรงนั้น แล้วแม่ช้างไปไหน

"ในอดีต ช้างป่าอยู่กันเป็นโขลง เป็นครอบครัว เราจับเขามาฝึกใช้ในอุตสาหกรรมการทำไม้ ฝึกลูกช้างที่ 8 ขวบ ต้องมีแม่อยู่ด้วย เพราะการแยกลูกช้างออกมาเป็นความทุกข์ทรมานมากที่สุดสำหรับแม่ช้าง

ถึงเวลาเปลี่ยน เลิกเที่ยว ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ เป็นไปตาม ‘เทรนด์โลก’

เมื่อถูกพรากจากแม่ ลูกช้างจะเจ็บปวดอย่างหนัก หลังออกจากคอกมาแล้ว ช้างบางเชือกแทบไม่รู้จักแม่หรือโขลงเลย หรือรู้ แต่ทำเป็นไม่รู้

เพราะเขาบาดเจ็บอย่างหนัก เรียนรู้ว่าต้องอยู่ให้ได้ การฝึกเองก็มีโปรแกรมต่อเนื่องไปไม่เคยหยุด เต้นฮูลาฮูป, วาดรูป, ปาเป้า, ไต่เชือก, ขึ้นอยู่บนโต๊ะ ฯลฯ นี่คือสิ่งที่ทำกันมานาน

นักอนุรักษ์สัตว์ทั่วโลก ติดตามเรื่องนี้ เข้ามาเป็นนักท่องเที่ยว มาถ่ายรูป ช้างตาบอดทั้งสองข้างที่บรรทุกนักท่องเที่ยว การใช้ช้างขาหัก ขากะเผลก สะโพกหัก ไปบรรทุกนักท่องเที่ยว ช้างเดินอย่างนั้น เขาก็ถ่ายภาพไว้

ถึงเวลาเปลี่ยน เลิกเที่ยว ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ เป็นไปตาม ‘เทรนด์โลก’ Cr. Kanok Shokjaratkul

 

ช้างตาบอดก็ใช้วิธีจูงหูเอา บังคับเดินตามซองที่เขาทำ การขี่ช้าง บางเชือกให้คนขี่วันละ 30 รอบ เช้ายันเย็น แม่ช้างตั้งท้องใกล้คลอด แหย่งจะไปกดอยู่ ลูกช้างต้องเคลื่อนไหว คนก็ไปนั่งตรงนั้น 2-3 คน รวมทั้งควาญด้วย เคยมีการแท้ง มีลูกตายในท้อง แต่ถูกปกปิดมาตลอด

หลังโควิด นักอนุรักษ์ทั่วโลก ขับเคลื่อนกดดันประเทศต่าง ๆ ไม่ให้ใช้อุตสาหกรรมเกี่ยวกับช้าง อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, เบลเยี่ยม กำลังจะประกาศแบนการแสดงสัตว์

อินเดียตอนนี้ แบนละครสัตว์ (Circus) แล้ว แต่ประเทศไทยยังสนุกสนานกับเรื่องนี้อยู่ รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์ เวลาเราไปพูดทีหนึ่งก็บอกว่า เอาไว้ก่อน เรื่องของคน ปากท้องต้องมาก่อน

ถึงเวลาเปลี่ยน เลิกเที่ยว ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ เป็นไปตาม ‘เทรนด์โลก’

Cr. Kanok Shokjaratkul

 

หารู้ไม่ว่าเรื่องสวัสดิภาพสัตว์มันโยงใยไปถึงเรื่องสาธารณสุข เศรษฐกิจ ถ้าคุณไม่ดูแลช้าง ต่างชาติก็จะโจมตี และสวนสัตว์ก็ไม่ใช่สถานที่ให้ศึกษาหรืออนุรักษ์ แต่เป็นเรื่องทรมานสัตว์

ประเทศเราเปิด Mini Zoo ขึ้นมาเยอะแยะ ช่วงโควิด มีการนำเข้าสัตว์ที่ไม่มีการตรวจสอบ นำเข้าม้าลายจากประเทศนามีเบียที่มีการระบาดของกาฬโรคม้า ทำให้ม้าไทยตายไป 700 ตัว

การเอาลูกเสือมาป้อนนม ป้อนอาหาร แล้วมันหายไปไหน มันช้ำตาย เพราะป้อนนมอยู่ตลอดเวลา คนต่างชาติถามว่าคนไทยเคารพช้างว่าเป็นพระพิคเณศ ช้างเป็นส่วนหนึ่งของพระพุทธเจ้า

ถึงเวลาเปลี่ยน เลิกเที่ยว ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ เป็นไปตาม ‘เทรนด์โลก’ Cr. Kanok Shokjaratkul

 

แต่ชีวิตจริงหลังเลิกงานช้างถูกมัดถูกล่ามถูกทุบตีถูกบังคับสารพัด ปีนี้ช้างป่าตายเยอะสุดเนื่องจากถูกรุกรานพื้นที่ จากโครงการเมกกะโปรเจ็กท์ จากโครงการน้ำในภาคตะวันออก

ดิฉันได้ช่วยช้างมา 85 เปอร์เซนต์ที่เดินเข้ามูลนิธิมา ไม่รู้จักตัวเอง บางทีงวงจับอาหารอยู่แต่ตาอยู่ที่ไหนไม่รู้ เหมือนซอมบี้ นี่คือสิ่งที่มนุษย์ทำร้ายเขา ช้างมีชีวิตจิตใจเหมือนเรา รักลูก รักโขลง รักครอบครัว

เวลาแม่ช้างคลอดลูก ลูกตกลงมา คนต้องรีบไปเอาออก เพราะแม่ช้างจะฆ่าลูกในนาทีแรก ไม่อยากให้ลูกเป็นเครื่องมือทำเงินให้กับมนุษย์

พอลูกโตเป็นสาวก็บังคับผสมพันธุ์ อยู่ในวงจรนี้มาตลอด เรื่องสวัสดิภาพสัตว์ทั่วโลกกำลังขับเคลื่อนกัน ถ้าเราตามเขาไม่ทัน เราก็ไม่สามารถไปค้าขายกับต่างประเทศได้"

เมื่อสองปีที่แล้ว กัมพูชา ยกเลิกการขี่ช้างเที่ยวนครวัด มีการออกกฎหมายมา ในหลายๆ ประเทศก็มีการยกเลิกการแสดงโชว์ช้าง โชว์สัตว์ป่า

ถึงเวลาเปลี่ยน เลิกเที่ยว ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ เป็นไปตาม ‘เทรนด์โลก’ Cr. Kanok Shokjaratkul

 

  • ถ้าไม่มี ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ แล้วปางช้างจะทำอะไร

แสงเดือน กล่าวว่า ประเทศไทยเราเป็นต้นตำรับ ในการฝึกช้าง เรามีควาญช้างไปอยู่หลายประเทศ ทั้งจีน ญี่ปุ่น ยุโรป แอฟริกา

"ที่ประเทศศรีลังกา มีสงครามมานาน แต่ปีหนึ่งเขาทำเงินมหาศาลเพราะนักท่องเที่ยวแห่ไปดูช้างถูกปล่อยที่ Udawalawa และ Yala King Safari ที่เป็นอุทยาน

คนไปดูเป็นล้าน ๆ คนต่อปี เขาต้องการดูช้างที่เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องการดูช้างที่ยืนสองขา เอาหัวปักดิน ว่ายน้ำในแทงค์ ช้างเป็นสัตว์ใหญ่แต่ใจเขาอ่อนโยนมาก

ถึงเวลาเปลี่ยน เลิกเที่ยว ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ เป็นไปตาม ‘เทรนด์โลก’ Cr. Kanok Shokjaratkul

 

ถ้ามีอาหารและความปลอดภัยตรงไหน เขาจะอยู่ตรงนั้น เป็นโขลง มูลนิธิเราปล่อยช้างอยู่อย่างอิสระ ถามว่าทำได้ยังไง สิ่งแรกต้องเปิดใจก่อน สอง.รัฐบาลต้องส่งเสริม ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์ช้างที่มีการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์

เชียงใหม่วันนี้กับ 15 ปีที่แล้วไม่เหมือนกัน เมื่อก่อนทุกคนแข่งขันมีช้างโชว์ แต่ทุกวันนี้ No Show, No Hook, No Chain นี่เป็นภาพที่เริ่มดีขึ้น ถ้าเราไม่ปรับเปลี่ยน ตลาดก็อยู่ไม่ได้

ก่อนโควิดมีปางช้างเกิดขึ้นเยอะมาก มีอยู่สามส่วน นายทุน, เจ้าของช้าง (เอาช้างมาให้เช่า), ควาญช้าง (นายทุนจ้างมา) แต่สามส่วนนี้ไม่ประสานกันเลย

ความผูกพันกับช้างก็ไม่มี ดูแลช้างแบบธุรกิจ เร่งให้เกิดความสูญเสีย พอเกิดโควิดขึ้น ผู้ประกอบการไปต่อไม่ไหว เจ้าของช้างพาช้างกลับบ้าน

ถึงเวลาเปลี่ยน เลิกเที่ยว ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ เป็นไปตาม ‘เทรนด์โลก’ Cr. Kanok Shokjaratkul

 

ดิฉันเขียนจดหมายถึงหน่วยงานรัฐ ขอพื้นที่ป่าชุมชน ให้ช้างเหล่านี้ที่กลับบ้านได้มีที่อยู่ ก็ไม่มีคำตอบ ไม่มีใครมาดูแล ช้างบาดเจ็บ ล้มตาย ช้างป่วย มีแต่มูลนิธิทั้งนั้นที่วิ่งนำช้างไปรพ. ส่งไม่ทันก็ตาย คนเลี้ยงช้างเป็นอาชีพที่รัฐบาลไม่เคยเข้าไปช่วยเหลือ

อีกเรื่องหนึ่ง รัฐบาลไทยส่งช้างไปต่างประเทศเป็นพัน ๆ เชือก 'แฮปปี้' ในสวนสัตว์ Bronx Zoo กำลังหนาวเหน็บอยู่ในนิวยอร์ค (ตอนนี้เราต่อสู้ไปถึงศาลฎีกาแล้ว)

'ซากุระ' ถูกส่งไปญี่ปุ่น ในนามการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ แล้วถูกส่งต่อไปอยู่ Circus ไปอยู่เกาหลี หนาวเหน็บอยู่ที่กรุงโซล ยังมีช้างไทยไปทุกข์ทรมานในจีน, เยอรมัน ในหลายประเทศ

ถึงเวลาเปลี่ยน เลิกเที่ยว ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ เป็นไปตาม ‘เทรนด์โลก’ Cr. Kanok Shokjaratkul

 

รัฐบาลไทยควรยกเลิกการส่งช้างไปได้แล้ว ทุกชีวิตที่ส่งไป ทุกข์ทรมาน ไปตาย ไม่มีโอกาสได้กลับบ้าน ไปอยู่ในสภาพที่มีหิมะสูงเป็นเมตร อาหารก็ไม่ใช่ที่เขาเคยอยู่

ยังมีอุตสาหกรรมการส่งช้างไทยไปสู่ Circus อีก เช่น ‘ฟรีบิลลี่’ ที่กำลังมีแคมเปญในเวลานี้

ประเทศจีนส่งแพนด้าไปประเทศต่าง ๆ เขาก็ตามไปดูสวัสดิภาพ แต่ไทยไม่เคยตามไปดูช้างไทย เราส่งช้างไปจีนหลายร้อยตัว ตอนนี้คนจีนไม่มาดูช้างไทยในประเทศไทยแล้ว เขาเพาะช้างไทยได้แล้ว แล้วเอาควาญไทยเราไปฝึก

ถ้ายกเลิกการ ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้างแล้ว จะทำอะไรต่อ รัฐบาลไทยมีป่ามากมาย เปิดเป็นป่าชุมชน แล้วเอาช้างเข้าไปอยู่เหมือนที่ศรีลังกา เราเรียกร้องเรื่องนี้กันมานาน เราก็จะมีที่อนุรักษ์ช้างที่ดีที่สุดในเอเชีย"

ถึงเวลาเปลี่ยน เลิกเที่ยว ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ เป็นไปตาม ‘เทรนด์โลก’

 

  • อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวช้าง ทำร้ายช้างไทย

ฉัตรณรงค์ เมืองวงษ์ ผู้จัดการ แคมเปญสัตว์ป่า องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลช้างตั้งแต่เกิดจนตายพบว่า ทุกขั้นตอนของธุรกิจการท่องเที่ยวเกี่ยวกับช้างมีความโหดร้ายทารุณ

"ไม่ว่าการฝึก, ความเป็นอยู่ในปางช้าง, อาหารที่กิน ส่วนใหญ่ให้ กล้วย, อ้อย, สับปะรด, เปลือกแตงโม บางทีเปื้อนสารเคมีทำให้ช้างป่วย ปกติช้างต้องกินเยอะกว่านี้

แล้วมีกิจกรรมอาบน้ำช้าง ที่บ่อยเกินไป มีปางช้างข้างถนน พื้นที่ 20 ตารางวา ขังช้างไว้ ให้คนขับผ่านมาเห็นแล้วอยากแวะ ช้างก็ยืนอยู่ตรงนั้นตลอด พื้นที่แคบ มีเสียงรถวิ่งไปมา นี่คือสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่รู้ว่าเรากำลังสนับสนุนความโหดร้ายทารุณต่อช้าง

ถึงเวลาเปลี่ยน เลิกเที่ยว ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ เป็นไปตาม ‘เทรนด์โลก’ Cr. Kanok Shokjaratkul

 

ผลสำรวจ 5-6 ปีก่อนโควิดพบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยากมาขี่ช้างในประเทศไทยลดลงเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง กลุ่มตะวันตกจะรักสัตว์ชัดเจนมาก หลีกเลี่ยงการทำร้ายสัตว์

กลุ่มเอเชีย ชาวจีน ชาวอินเดีย ชาวไทย มีความตระหนักรู้น้อยกว่า เทรนด์โลกกำลังไปในทิศทางการท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น ไม่ทำร้ายสัตว์ ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม

เราได้เสนอกฎหมาย ร่าง พ.ร.บ.ช้างไทย (ยุติการผสมพันธุ์เชิงพาณิชย์, การปฎิบัติต่อช้าง, การฝึก, การใช้งาน, การจัดสภาพแวดล้อม) มีการเข้ารายชื่อ 16,000 คน เสนอต่อรัฐสภาแล้ว

ตอนนี้อยู่บนโต๊ะของนายกรัฐมนตรี ขอฝากให้นายกรัฐมนตรีช่วยพิจารณาโดยเร็ว เพราะมีผลต่อชื่อเสียงของประเทศ ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ต่อเศรษฐกิจไทย ถ้าไม่ทำ เราจะแย่ ในอนาคต"

ถึงเวลาเปลี่ยน เลิกเที่ยว ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ เป็นไปตาม ‘เทรนด์โลก’

 

  • ประชาชนอยากให้ดูแลช้าง

ดร. ณัฐพล แย้มฉิม ประธานสวนดุสิตโพล รายงานผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ต่อการนำช้างมาใช้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กรณีศึกษา การแสดงโชว์ช้างและขี่ช้าง ว่า

พฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนไทย

1.สาเหตุที่นักท่องเที่ยวตัดสินใจไปท่องเที่ยวเกี่ยวกับช้างคือ เพื่อใช้เวลากับครอบครัว 24.40% เพื่อความสนุกเพลิดเพลิน 19.94% เพื่อพาลูกหลานไปเที่ยว 15.07%

2.คนไทยไม่เห็นด้วยกับการทารุณช้างในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 48.12% เห็นว่าการนำช้างมาฝึกเพื่อแสดงโชว์ให้คนดูเป็นการทำลายสวัสดิภาพสัตว์

3.คนไทยต้องการเที่ยวแบบไม่ทำร้ายช้าง ต้องการปกป้องช้างที่เข้มแข็งขึ้น 89 % สนใจการท่องเที่ยวแบบไม่ต้องแสดงโชว์ช้าง 88 % เห็นด้วย ต่อการมีกฎหมายกำหนดวิธีการ ดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพช้าง

4.มีคนไทยจำนวนมากที่ยังไม่รู้ว่า การใช้งานช้างมีความโหดร้ายทารุณ 81% ไปท่องเที่ยวแต่ไม่เคยรับรู้ถึงขึ้นตอนการฝึกช้างเพื่อใช้ในสถานที่ท่องเที่ยว

5. ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐและภาคเอกชน ควรยุติกิจกรรมแสดงโชว์ช้าง หรือกิจกรรมที่มีการบังคับช้างให้แสดงพฤติกรรมผิดธรรมชาติ และภาครัฐควรเร่งผ่าน ร่าง พ.ร.บ. ช้างไทย เพื่อยกระดับสวัสดิภาพของช้างเลี้ยงในประเทศไทย

ถึงเวลาเปลี่ยน เลิกเที่ยว ‘ขี่ช้าง-ดูโชว์ช้าง’ เป็นไปตาม ‘เทรนด์โลก’ Cr. Kanok Shokjaratkul

 

  • ปางช้างที่เป็นมิตร สวัสดิภาพสูง

ในประเทศไทยมีปางช้างที่เป็นมิตรกับช้างอยู่หลายที่ นักท่องเที่ยวจะเป็นผู้สังเกตการณ์ ไปเรียนรู้ ไม่ได้ไปหาความบันเทิงจากช้าง ได้เห็นช้างมีความสนุกสนาน ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข 

ได้แก่  ChangChill, Boon Lott’s Elephant, ปางช้างบี Burn and Emily’s Elephant Santuaty (BEES), Elephant Naturr Park, Follow Giants, Global Vision International,

Kindred Spirit Elephant Sanctury, Mahouts Elephant Foundation, Phuket Elephant Sanctuary, Somboon Lagasy Foundation, Tree Tops Elephant Reserve Phuket