ดาวรุ่งTikTok "ลูกสาวนักบิน":ทำไมได้นั่งชั้นบิสสิเนสคลาสฟรี !
หลังจากแคโรไลน์ ดีไซเนอร์ โพสต์คลิปวิดีโอลงบนTikTok ในชื่อ “ลูกสาวนักบิน” มีคนเข้ามากดไลค์ 1.6 ล้านครั้ง เพราะคนอยากรู้ว่าเธอได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง และทำไมได้นั่งชั้นบิสสิเนสคลาสฟรี
แคโรไลน์ เดบอร่าห์ ไมโล ถึงกับร้องว้าว! เมื่อตัวเลขผู้ติดตามบัญชี TikTok ของเธอเพิ่มขึ้นจาก 100 คนเป็น 25,000 คนในชั่วข้ามคืน หลังจากที่เธอโพสต์วิดีโอที่นั่งเที่ยวบินชั้นธุรกิจของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ที่เธอได้ใช้บริการฟรีจากโควต้าตั๋วสแตนด์บายของพ่อที่เป็นกัปตันของสายการบิน
วิดีโอซึ่งถ่ายบนเที่ยวบินจากอัมสเตอร์ดัมไปนครนิวยอร์กภายใต้ชื่อ 'A day in my life as a pilot's daughter' หรือชีวิตวันหนึ่งของลูกสาวนักบินโชว์ภาพหญิงสาววัย 24ปี กล่าวทักทายไมเคิล ไมโล พ่อของเธอในห้องนักบินก่อนเครื่องจะบินขึ้น และภาพที่นั่งชั้นธุรกิจพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก
- วิดีโอ TikTok ชื่อ “ลูกสาวนักบิน”
แคโรไลน์ซึ่งเกิดในรัฐโอไฮโอแต่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในนิวยอร์กถึงกับบอกว่า วิดีโอของเธอได้รับกระแสตอบรับถึงขั้น“บ้าไปแล้ว” เพราะคลิปดังกล่าวมีคนกดไลค์ 1.6 ล้านครั้ง แสดงความคิดเห็นมากกว่า 4,000 ความเห็น และถูกแชร์ไปมากกว่า 5,000 ครั้ง
หลังจากนั้นเธอได้โพสต์วิดีโอลงบนTikTok ชื่อ “ลูกสาวนักบิน” อีกหลายคลิป จนตอนนี้มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเป็น 55,000 คน
“การเป็นลูกสาวของนักบินมีสิทธิประโยชน์หลายอย่าง สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ ครอบครัวและฉันมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วยกัน” แคโรไลน์กล่าว
แคโรไลน์ในวัยเด็กอยากเดินตามรอยเท้าพ่อเป็นนักบิน
แคโรไลน์อธิบายถึงขั้นตอนการจองตั๋วสแตนด์บายสำหรับพนักงานสายการบินและสมาชิกในครอบครัวว่า คนที่ต้องการสำรองที่นั่งจะต้องเข้าชื่อรอไว้ก่อน ซึ่งอายุการทำงานในสายการบินจะเป็นตัวกำหนดอันดับที่จะได้ตั๋ว
แคโรลีนตั้งข้อสังเกตว่า พ่อของเธอมักจะอยู่ในอันดับต้นๆ ที่จะได้รับที่นั่งฟรี เพราะทำงานที่ยูไนเต็ด แอร์ไลน์มานานกว่า 27 ปี ส่วนเธอมักจะอยู่ในอันดับที่ต่ำกว่าในฐานะลูกสาวของพนักงาน แต่โดยทั่วไปแล้ว สายการบินจะให้ความสำคัญกับลูกเรือก่อน เพราะหลายคนบินกลับไปสนามบินในเมืองที่ตัวเองอาศัยอยู่
ในขณะที่แคโรไลน์ได้ตั๋วฟรี พ่อของเธอต้องจ่ายภาษีตั๋วผ่านบัญชีเงินเดือน
แคโรไลน์บนที่นั่งชั้นธุรกิจจากตั๋วสแตนด์บาย
- ลูกสาวนักบิน : ประหยัดค่าเดินทางล้านกว่าบาท
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แคโรไลน์ซึ่งทำงานเป็นดีไซเนอร์และผู้จัดการโครงการของบริษัทออกแบบในนิวยอร์กแห่งหนึ่งประเมินว่า เธอสามารถประหยัดเงินค่าเดินทางได้ราว 40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากการเข้าชื่อ สแตนด์บายรอที่นั่งว่าง
แม้ว่าเธอจะไม่ได้รับการจัดสรรที่นั่งตั๋วชั้นธุรกิจแบบเข้าชื่อรอเสมอไป แต่เธอก็ได้รับบ่อยกว่าที่คิด แต่ไม่เกินครึ่งของตั๋วที่เข้าชื่อรอทั้งหมด
“ครอบครัวเราเรียกตั๋วแบบนั้นว่า‘ที่นั่งเจ้าหญิง’เพราะมันทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นผู้สูงส่งในที่นั่งชั้นธุรกิจ”เธอกล่าว
แคโรไลน์เล่าว่า พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมักจำเธอได้ว่าเป็นลูกสาวของนักบิน พวกเขาไม่ต้องเครียดมาก เพราะเธอไม่ใช่ผู้โดยสารจ่ายเงินที่ต้องคอยดูแลให้ผู้โดยสารมีความประทับใจให้มากที่สุด นอกจากนี้การเป็นผู้โดยสารตั๋วสแตนด์บาย ทำให้แคโรไลน์ได้รับไอศกรีมเพิ่มบางครั้งถ้าของเหลือ
ทุกครั้งที่บินพร้อมพ่อ แคโรไลน์มักจะทานอาหารกลางวันกับพ่อที่สนามบินก่อนที่พ่อจะเริ่มปฏิบัติงาน ทั้งตรวจสอบเครื่องบิน สภาพอากาศ เอกสาร และสิ่งจำเป็นก่อนออกเดินทาง เมื่ออยู่บนเครื่อง พ่อจะเดินมาทักทายเธอและบอกให้ลูกเรือรู้ว่าเธอเป็นใคร เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย แคโรไลน์ก็จะเข้าไปทักทายพ่อและนักบินคนอื่นๆ ก่อนจะกลับมานั่งที่นั่งก่อนเครื่องออก
“ฉันเคารพในข้อเท็จจริงที่ว่าพ่อกำลังทำงาน และพ่อต้องแน่ใจว่าเครื่องบินพร้อมสำหรับการบินขึ้นในเวลาที่เหมาะสมและปลอดภัย” แคโรไลน์พูดถึงการบินในขณะที่พ่อกำลังปฏิบัติหน้าที่
ครอบครัวไมโลออกทริปปีนเขาในฮาวาย
- ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของครอบครัวนักบิน
การเป็นนักบินแม้จะมีสิทธิประโยชน์มากกว่าบางอาชีพ แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง นอกเหนือจากต้องไปทำงานไกลจากครอบครัวครั้งละ 3-4 วันแล้ว แคโรไลน์บอกว่า พ่อของเธอมักจะต้องทำงานในวันหยุด ในขณะที่ครอบครัวอื่นๆ ส่วนใหญ่จะมีวันหยุดมากกว่าและสามารถเฉลิมฉลองได้ตามปกติ
เธอบอกว่าครอบครัวของเธอตกลงกันว่าจะเลื่อนการฉลองคริสต์มาสออกไปจนกว่าพ่อจะกลับมาและฉลองเป็นโอกาสพิเศษของพวกเขาเอง
“แน่นอนว่า มันไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ของทุกคน แต่มันเหมาะกับเรา” ลูกสาวนักบินกล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น หากเที่ยวบินถูกจองเต็มและแคโรไลน์ไม่สามารถหาที่นั่งจากตั๋วสแตนด์บายได้ เธอต้องวางแผนใหม่ทั้งหมด
“คุณต้องมีทั้งแผนเอ แผนบี และแผนซี ตลอดเมื่อต้องการบินด้วยตั๋วสแตนด์บาย ความยืดหยุ่นเป็นสิ่งสำคัญ แต่การเปิดรับความเป็นไปได้ทุกแผนจะช่วยได้เสมอ” แคโรไลน์กล่าว
อย่างไรก็ตาม แคโรไลน์ยินดีที่จะทนกับข้อเสียเหล่านั้นเมื่อเทียบกับไลฟ์สไตล์ระดับโลกที่เธอได้รับ ประเทศและเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางที่ “ว้าว” ที่เธอเคยไปคือ สวิตเซอร์แลนด์ เทล อาวีฟ และปักกิ่ง เธอวางแผนจะไปเที่ยวภูฏาน อินเดีย และปาตาโกเนียในอเมริกาใต้ ในขณะเดียวกันก็จะสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพิ่มเติมบนTikTokด้วย
วิดีโอชีวิต"ลูกสาวนักบิน"บน TikTok
- อยากเป็นนักบินเหมือนพ่อ
แคโรไลน์หลงใหลในการบินอย่างเห็นได้ชัด สมัยยังเด็ก เธออยากเป็นนักบินมากและอยากฝึกเป็นนักบินที่โรงเรียนนายเรือแห่งสหรัฐอเมริกาเหมือนพ่อของเธอ แต่แม่ของแคโรไลน์ซึ่งเป็นครูและพ่อของเธอต่างก็ต่อต้านความคิดนี้
แคโรไลน์เล่าถึงเหตุผลที่พ่อและแม่ลังเลไม่อยากให้เธอเดินตามรอยเท้าพ่อว่า ชีวิตนักบินรวมทั้งพ่อต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในอาชีพการงาน ช่วงเกิดวินาศกรรม 9/11 ปี 2001 เป็นช่วงเวลาที่น่าสะพรึงกลัวสำหรับครอบครัวของเธอ
“วันนั้นพ่อไปทำงานที่ชิคาโก ลูกเล็กๆ 2 คนอยู่ที่บ้าน และทุกอย่างก็พลิกผันในช่วงไม่กี่นาที ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างเปลี่ยนและพ่อเกือบจะต้องเปลี่ยนอาชีพ” แคโรไลน์เล่า
ไม่เพียงเท่านั้น อุตสาหกรรมการบินยังได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงที่ประเทศเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2008 และมาเจอโรคโควิด 19 ระบาดในช่วงเกือบ 3 ปีที่ผ่านมาอีก
“ทุกคนรู้ดีว่า สิ่งเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อการเดินทางอย่างไร ไม่มีอะไรง่ายเสมอไป” เธอกล่าว
พ่อแม่ของแคโรไลน์จึงสนับสนุนให้ลูกๆ ลองทำสิ่งที่ต่างออกไป พี่ชายของเธอทำงานเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นนอกตลาดให้โรงแรม น้องชายของเธอยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ส่วนเธอก็ทำงานด้านตกแต่งภายในให้กับโรงแรมทั่วโลก
ครอบครัวเธอเคยคุยกันขำๆ ว่า น่าจะรวบรวมความสามารถของสมาชิกครอบครัวทุกคนและมาเปิดโรงแรม
“ครอบครัวของเราชอบพูดติดตลกอยู่เสมอว่า พ่อของเราจะพาเราบินไปที่นั่น พี่ชายของฉันจะเป็นคนสนับสนุนเรื่องเงินลงทุนสร้างโรงแรม ตัวฉันจะเป็นคนออกแบบโรงแรม และแม่ของฉันจะสอนเราเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรม เราทำงานกันเป็นทีม!” แคโรไลน์กล่าว
............
ที่มา เว็บไซต์ เดลี่ เมล
แคโรไลน์กับพ่อในห้องนักบิน