พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ กับคอร์กี้แสนรัก ฝันเป็นจริงเมื่อมี วากิว โกเบ มิยอง
พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ย้อนวันแอบซื้อ “คอร์กี้” เมื่ออายุ 26 โดยไม่บอกคุณแม่ ความฝันที่อยากเลี้ยงสุนัขมาแต่วัยเด็ก “เขาเหมือนเป็นเพื่อนสนิท กลับบ้านมาก็อยู่ตรงนั้น ทำให้เรามีความสุข”
พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ หรือ “พรหม” สร้างความฮือฮาให้บรรดาคอการเมืองไทยหลังเปิดตัวในฐานะ “ทีมงาน” ของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในการลงพื้นที่หาเสียงสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเมื่อปี 2565
เนื่องจากก่อนหน้านี้ พรพรหมเคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม New Dem (นิวเดม) ย่อมาจาก New Democrat Party หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ นำเสนอนโยบายจากคนรุ่นใหม่ในพรรคการเมืองที่มีอายุกว่า 70 ปี ในศึกเลือกตั้งปี 2562 และยังเป็นบุตรชายของ “พนิต วิกิตเศรษฐ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่ง ผู้ว่า กทม. ด้วยเช่นกัน
พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ เมื่อครั้งก่อตั้งกลุ่ม New Dem
แต่ไม่มีอะไรในกอไผ่ พรพรหมลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้วตั้งแต่กลางปี 2565
หลังการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครเสร็จสิ้นลง พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ สร้างความฮือฮาอีกครั้ง เมื่อเข้ารับตำแหน่งคณะที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ ชัชชาติ และได้ชื่อว่าเป็น “ที่ปรึกษา” ซึ่งมีอายุน้อยที่สุดขณะเข้ารับตำแหน่งในปี 2565 คือมีอายุเพียง 30 ปีเท่านั้น
พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ กับสุนัขคอร์กี้ในฝัน
นอกจากความสนใจด้านการเมืองและนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่อยากทำเพื่อสังคมส่วนรวม บุคลิกภาพภายนอกที่ดูเยือกเย็น สุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใส อ่อนน้อมถ่อมตนสมเป็นหนุ่มราศีมีนแบบนี้ "พรพรหม" มีความฝันอย่างหนึ่งที่อยากทำตามใจตัวเองมานานแล้ว คือการได้เลี้ยง สุนัข เป็นของตนเอง
เด็กคนอื่นอาจเลี้ยงหมาได้ตามใจชอบตั้งแต่อายุ 10 กว่าขวบ หรือน้อยกว่านั้น แต่เขาทำไม่ได้ เพราะต้องไปเรียนหนังสือที่ประเทศอังกฤษตั้งแต่เด็ก การไม่อยู่กับบ้านต่อเนื่อง ไม่เหมาะกับการเลี้ยงสุนัข
แต่วันนี้ฝันเป็นจริงแล้ว ลองมาฟังนักการเมืองหนุ่ม "พรพรหม วิกิตเศรษฐ์" เล่าถึง สุนัขตัวโปรด อีกมุมหนึ่งที่อาจทำให้คุณรู้จักหัวใจเขามากขึ้น
พรพรหม วิกิตเศรษฐ์, มิยอง (ซ้าย), วากิว (ขวา)
“ผมเพิ่งเริ่มเลี้ยงหมาเป็นของตัวเองครั้งแรกเมื่อตอนผมอายุ 26 เพิ่งเรียนจบกลับมาจากอังกฤษ อยากได้ เพราะเราย้ายกลับมาประเทศไทยถาวร เหมือนเป็นความรับผิดชอบชิ้นแรกของตัวเอง ดูแลหมาสองตัว ตอนแรกมีสองตัว” พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ เริ่มเล่าถึงการเลี้ยงสุนัขครั้งแรกของเขา พลางชี้ไปที่ สุนัขคอร์กี้ (Corgi) จำนวน 2 ตัว ที่นำมาร่วมกิจกรรมในงานเปิด Dog Park สวนป่าเบญจกิติ แต่จริงๆ แล้วเขามีคอร์กี้ด้วยกัน 3 ตัว
“ไม่มีเหตุผลอะไรมากครับ เป็นพันธุ์ที่เห็นแล้วถูกใจ" พรพรหมตอบคำถามทำไมถึงเลือกเลี้ยงสุนัขพันธุ์ คอร์กี้ มีเหตุผลอะไรพิเศษหรือไม่
"ชอบสายพันธุ์นี้ตั้งแต่เด็ก อาจเป็นเพราะเคยเห็นมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษตอนนั้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับเป็นสุนัขทรงเลี้ยงของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แต่สุนัขสายพันธุ์นี้ก็เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของประเทศอังกฤษระดับหนึ่ง”
“ขาสั้นๆ น่ารักดี” พรพรหมพูดถึงเจ้าคอร์กี้ โดยสองตัวแรกซื้อมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี และเป็นการแอบซื้อโดยไม่บอกคุณแม่
“ซื้อจากที่สุพรรณบุรี เป็นคอกที่เลี้ยงคอร์กี้โดยเฉพาะ น้องสาวเห็นในเฟซบุ๊ก เราก็ขับรถไปเลยโดยไม่ได้บอกคุณแม่ (พัชรีภรณ์) ทราบว่าถ้าบอกคุณแม่ ก็อาจจะบ้านแตก แม่ไม่ค่อยอยากให้เลี้ยง ซื้อมาก่อน เอากลับมาบ้านตอนตัวเล็กๆ เลย แล้วให้คุณแม่ใจอ่อนเองตอนเขาอยู่ที่บ้านแล้ว” ที่ปรึกษาผู้ว่า กทม. เล่าถึงที่มาของเจ้าคอร์กี้ 2 ตัวแรก
พรพรหม วิกิตเศรษฐ์, มิยอง, วากิว ที่สวนป่าเบญจกิติ
“คุณแม่ก็รักน้องหมานะครับ คุณยายก็เลี้ยง แต่แค่คุณแม่ยังกลัว ไม่มั่นใจว่าเราเลี้ยงได้หรือเปล่า กลัวน้องหมาจะตาย คุณแม่ก็จะคิดมาก แต่พอเจอปุ๊บก็ใจอ่อนเลยใน 30 วิ (วินาที)” พรพรหมย้อนอดีตว่าทุกอย่างผ่านพ้นมาด้วยดี
ตอนนี้เขามีสุนัขในความดูแล 3 ตัว เป็นสายพันธุ์คอร์กี้ทั้งสามตัว
“นิสัยทั้งสามตัวไม่เหมือนกัน ตัวหลังสีดำเหมือนเป็นอัลฟ่าหน่อย ๆ เป็นพี่ใหญ่ของบ้าน ส่วนอีกตัวที่เป็นคู่แฝดกัน เป็นครอกเดียวกัน ไม่ได้เอามาในวันนี้ เหมือนโดนพี่แกล้งตั้งแต่เด็ก ก็อาจจะมีปมนิดหน่อย แต่ก็น่ารักทั้งคู่
ส่วนตัวนี้สีขาวดำเพิ่งขวบกว่า ซื้อมาจากที่อื่น คนละคอกกัน เป็นคอร์กี้คนละ subbreed กับสองตัวแรกที่เหมือนของควีน (ควีนเอลิซาเบธ) เขาเรียก Pembroke Welsh Corgi แต่ตัวนี้เป็น Cardigan Welsh Corgi จะหางยาว ถ้าโตเต็มวัยจะตัวใหญ่กว่า สังเกตว่าหูก็จะใหญ่กว่าหน่อย สีก็จะไม่เหมือนคอร์กี้ที่เห็นทั่วไป
ตัวหลังสีดำนี้ชื่อ วากิว คู่แฝดของเขาชื่อโกเบ ตอนที่มาคู่กัน เราอยากได้ชื่อที่คู่กัน ก็เลยเป็น วากิว-โกเบ เป็นชื่อเนื้อ(เนื้อวัว) ฟังดูก็อ้วนดี (พูดไปยิ้มไป) ตัวที่สามชื่อ มิยอง (mignon ภาษาฝรั่งเศส ความหมายเกี่ยวกับเนื้อวัวอีกเหมือนกัน) แต่พอพูดเร็วๆ เหมือนภาษาเกาหลี มินยอน เป็นชื่อที่คุณแม่ตั้ง”
พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ สำเร็จการศึกษากระดับปริญญาตรีด้านรัฐศาสตร์ จากประเทศอังกฤษ และปริญญาโทด้านพลังงานและสิ่งแสดล้อม จากประเทศสหรัฐอเมริกา เคยทำงานเป็น "ผู้ช่วย ส.ส." ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ดูแลด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งผ่านการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมให้องค์การสหประชาชาติ (UN) และอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“ช่วงโควิด ผมได้ใช้เวลาอยู่กับเขาเยอะ เพราะตอนนั้นเวิร์คฟรอมโฮมที่ยูเอ็นก็อยู่ที่บ้านตลอด” พรพรหมเล่าถึงการใช้เวลาอยู่กับเจ้าคอร์กี้ทั้งสามตัว
“ยอมรับว่าช่วงนี้ก็เจอน้อย เสาร์อาทิตย์ก็ยังไม่ค่อยได้เจอ เขานอนแยก มีที่เล็กๆ ของเขา ถ้าจะได้เจอผมก็ต้องเอามานอนด้วย ตื่นเช้ามาผมก็ไปทำงาน
ตั้งแต่มี สวนป่าเบญจกิติ ที่เราทำงานกันมาเพื่อให้เป็น Pocket Park ผมก็พยายามพามาทุกอาทิตย์ พามาเดิน พามาเจอเพื่อน มีคนแนะนำว่าควรพาหมาออกมามีสังคมของเขา เวลาจำเป็นที่ต้องพาออกไปข้างนอกจริงๆ จะได้ไม่ตื่นกลัวหรือตื่นตัวไปงับกัดคนอื่น
ถ้าหมาไม่ได้เจอใคร อยู่กันเอง พอออกไปข้างนอก เขาอาจจะดุได้ เพราะตกใจ พอเขามาแบบนี้ก็ไม่ตกใจแล้ว”
สำหรับเรื่องอาหารการกินของน้องๆ ทั้ง 3 ตัว คุณพรหมจัดให้ 3 มื้อ และพยายามลดขนมลง
“เมื่อก่อนใจอ่อนให้ขนมเยอะ ตอนนี้ก็พยายามไม่ให้ เพราะตัวเริ่มอ้วนเกินไปหน่อย” คุณพรหมหมายถึงน้องทั้งสามตัว
หลังจากได้เลี้ยงสุนัขสมตามความตั้งใจมาระยะหนึ่งแล้ว นักการเมืองหัวใจสีเขียวยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงในตัวเขาอยู่เหมือนกัน
“ถึงผมยังไม่มีครอบครัว แต่ก็ต้องมีความรับผิดชอบระดับหนึ่งมากขึ้นเลย อันนี้เป็นความรับผิดชอบของเราจริงๆ ถ้าไม่มีเรา เขาก็อยู่ไม่ได้
โดยเฉพาะช่วงโควิดอยู่ที่บ้าน เขาก็อยู่ในห้องผมตลอด ตื่นเช้ามาเราก็ต้องพาเขาออกไปฉี่ ก่อนนอนก็ต้องพาออกไปฉี่อีกรอบ
เพิ่มวินัยให้เราทำตามเวลา บางครั้งจะนอนแล้วง่วงมาก แต่เราก็ต้องรอจนถึงเวลาที่ผมพาเขาออกไปตอนสี่ทุ่มครึ่งทุกวันก่อนนอน”
"เขาก็อยู่ตรงนั้น ทำให้เรามีความสุข"
สุดท้าย พรพรหม กล่าวถึงเจ้าตัวเล็กสามตัว วากิว โกเบ และ มิยอง ว่า
“เขาเป็นเหมือนเพื่อนสนิท กลับมาบ้านเจอ ไม่ต้องคิดอะไรมาก เขาก็อยู่ตรงนั้น ทำให้เรามีความสุข และเราก็ทำให้เขามีความสุขเช่นกัน”