หัดปลูกผัก'สวนผักบ้านคุณตา' สุขุมวิท 62

หัดปลูกผัก'สวนผักบ้านคุณตา' สุขุมวิท 62

ชวนคนเมืองปลูกผัก ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร มีหลายแห่งในเมืองสอนปลูกผัก อย่างสวนผักบ้านคุณตา สุขุมวิท 62 สอนมานานหลายสิบปี

หลายคนอาจไม่รู้ว่า สวนผักบ้านคุณตา (สุขุมวิท 62) มีอบรมปลูกปลอดสารเคมีีมาหลายปีแล้ว รวมถึงคอร์สอื่นๆ ที่สอนให้คนเมืองพึ่งพิงตนเองแบบง่ายๆ ไม่ต้องใช้เงินเยอะ เนื่องจากคมสัน หุตะแพทย์ วิทยากรในการอบรมหลายโปรแกรม เคยเป็นผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์สื่อเพื่อการพัฒนาฯ และตอนนี้ลูกๆ ของเขาก็ช่วยสอนด้วย 

ผู้เขียนเคยเขียนถึงเรื่องราวที่คมสันทำมาหลายครั้ง จนเมื่อสองปีที่แล้วมีโอกาสไปเข้าคอร์สอบรมปลูกผักหนึ่งวัน ซึ่งเขาให้ความรู้อย่างเต็มที่​

ถ้ามีโอกาสจึงอยากชวนหาพื้นที่เล็กๆ ในบ้านปลูกผัก นั่นหมายถึงเราจะได้เห็นผีเสื้อ แมลง และหนอนในบ้านมากขึ้น และมีโอกาสสัมผัสพื้นดินและธรรมชาติ เหมือนเช่นที่คมสัน เคยบอกว่า พอเริ่มปลูกผัก ก็มีทั้งแมลงดี แมลงไม่ดี นก หนู และงู ก็ต้องทำใจว่า มันเป็นเพื่อนร่วมโลก

หัดปลูกผัก\'สวนผักบ้านคุณตา\' สุขุมวิท 62 สวนผักบ้านตาจึงเต็มไปด้วยผักในกระถาง ทำปุ๋ยทำสบู่ใช้เองในครัวเรือน พวกเขาทำมานานกว่าสิบปี และเผยแพร่ความรู้อย่างต่อเนื่อง จนคนที่มาเรียนเป็นเจ้าของกิจการผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษ

“สถานการณ์สารปนเปื้อนในผัก ไม่เคยเปลี่ยนยังคงเหมือนเดิม ผักบางชนิดไม่น่าเชื่อว่าจำเป็นต้องใช้สารเคมี อย่างใบกะเพรา เพราะความต้องการบริโภคมากขึ้น ” คมสัน เล่าไว้เช่นนั้น และตัวเขาเองก็เคยคิดว่า ชีวิตไม่มีทางเลือกเหมือนคนเมืองทั่วไป เพราะงานกับชีวิตสวนทางกัน เรื่องสารปนเปื้อนในผักกลายเป็นเรื่องปกติที่เราต้องกิน แม้เสี่ยงในการเป็นมะเร็ง

เมื่อไม่อยากให้ใครมากำหนดทางเลือกในชีวิต หลายสิบปีที่แล้ว คมสันจึงลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง ปลูกผักสวนครัวในบ้าน จากนั้นทดลองปลูกพืชอื่นๆ 

“เพราะชีวิตเราเริ่มออกห่างจากธรรมชาติ การทำการเกษตรทำให้เราย้อนกลับไปสัมผัสกับธรรมชาติ มนุษย์ทุกคนต้องทำการผลิต เพื่อสร้างอาหารที่ปลอดภัยให้ตัวเองและครอบครัว ผมคิดว่าไม่ค่อยมีใครพูดเรื่องนี้ เราคิดว่า อาชีพการงานสำคัญและมีคุณค่ามากกว่า จนกลายเป็นมายาภาพ เราไม่สามารถย้อนกลับมาที่ต้นตอของชีวิต”

หัดปลูกผัก\'สวนผักบ้านคุณตา\' สุขุมวิท 62 สำหรับคมสันแล้ว ต้นตอของชีวิตคือ การผลิตอาหารและพึ่งพาตัวเองบนพื้นที่เล็กๆ ในบ้าน และเชื่อมโยงกับสิ่งที่หลายคนเรียกร้อง ทั้งเรื่องโลกร้อน พลังงาน และเทคโนโลยี

เมื่ออาหารปนเปื้อนสารเคมีถูกกำหนดโดยปัจจัยราคา ประชากร และพลังงาน ถ้าเราเป็นผู้ซื้อ เราก็ต้องเจอภาวะแบบนี้ตลอดไป เราก็ต้องเริ่มลงมือทำเกษตรด้วยตัวเอง

เมื่อเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ก็เชื่อมโยงได้ทุกเรื่อง คมสันมองว่า ในอนาคตจะมีปัญหาหลายอย่างที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ถ้าป่าไม้หมดไป โลกร้อน ปลูกพืชผักตามฤดูกาลไม่ได้ นั่นหมายถึง เราไม่สามารถเรียกสิ่งเหล่านี้กลับคืนมาได้

"สิ่งที่ผมได้บทเรียนคือ ชีวิตเราต้องทำเรื่องปัจจัยสี่ เพื่อสนองตอบตามความจำเป็น เมื่อมีเวลาเหลือ ก็พัฒนาศักยภาพที่แต่ละคนมี เพื่อประโยชน์คนอื่น ถ้าเรากลัวว่า อาหารปนเปื้อนจะทำให้เราเป็นมะเร็ง ก็ต้องย้อนกลับไปถามตัวเองว่า ชีวิตนี้เกิดขึ้นมาเพื่ออะไร

หัดปลูกผัก\'สวนผักบ้านคุณตา\' สุขุมวิท 62 แม้จะเป็นคำถามพื้นๆ แต่ก็น่าสนใจ คมสันเริ่มจากการผลิตอาหาร เพราะเห็นว่า นี่แหละคือสิ่งจำเป็น และอธิบายง่ายๆ ต่อว่า เพราะคนต้องพึ่งพาสัตว์ สัตว์ต้องพึ่งพาพืช พืชต้องพึ่งพาธรรมชาติ นี่คือวัฎจักรของสิ่งมีชีวิต และสิ่งที่เขาทำก็ไม่ได้แยกออกจากสังคม คิดสร้างสรรค์ดัดแปลงเท่าที่ทำได้ จนปัจจุบันสามารถปลูกผักบนหลังคาพื้นที่ 24 ตารางเมตร

“เทคนิคไม่ใช่ปัญหา แต่ใช่ว่าพึ่งพาตัวเองได้หมด ต้องมีวิธีการจัดการ ในเชิงเทคนิคคนเมืองสามารถปลูกผักกินเองได้ อยู่ที่การแลกเปลี่ยนความคิดต้องลงมือทำก่อน สิ่งแรกที่ผมได้ คือ การสอนตัวเอง เพราะเมื่อก่อนผมก็เป็นคนเมืองที่เห็นแก่ตัว เอาเงินเป็นตัวตั้ง ซื้ออย่างเดียว”

นั่นเป็นทางเลือกของคมสัน ทั้งการปลูกผัก คิดดัดแปลงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเกษตรในการพึ่งพาตัวเอง ซึ่งเป็นที่มาของการนำความรู้ไปเผยแพร่

“ความรู้เกิดขึ้นตลอดเวลา ได้ความรู้ใหม่อยู่เรื่อยๆ ผมเชื่อว่า คนไทยไม่จนปัญญา และภูมิประเทศของเราได้เปรียบ สามารถเป็นหลักของชุมชนและโลกได้ ผมเริ่มจากสิ่งเล็กๆ และสามารถต่อยอดเชื่อมโยงกันได้”

....................

ดูได้ที่เฟซบุ๊ค สวนผักบ้านคุณตา