'ญี่ปุ่น' ประเทศแห่งร่มและความรัก (ร่ม)

'ญี่ปุ่น' ประเทศแห่งร่มและความรัก (ร่ม)

คนญี่ปุ่นมักพกร่มติดตัวตลอดเวลา ร่มที่ใช้ในหน้าร้อนกับหน้าฝนก็เป็นคนละชนิดกัน ด้วยเหตุนี้ในญี่ปุ่นจึงมีธุรกิจให้บริการเช่าร่ม เพราะร่มเป็นสิ่งเดียวที่ลืมไว้ที่ไหน จะไม่ได้คืน

หลายคนอาจเคยได้ยินว่า เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ที่ญี่ปุ่นมีธุรกิจให้บริการเช่าร่มในรูปแบบ Umbrella-sharing โดยมีชื่อว่า ไอคาสะ(IKasa) คำว่า ไอคาสะนี้ก็แปลว่า ร่มนั่นเอง การให้บริการนี้จะตั้งอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของโตเกียว

คนที่ต้องการใช้ร่มจะต้องแอดเฟรนด์กับ iKasa ผ่านทาง LINE ก่อนจึงจะสามารถเช่าร่มไปใช้งานได้ ในระบบจะแสดงแผนที่เพื่อบอกว่า จุดให้เช่าร่มจุดไหนที่ใกล้เราที่สุด เมื่อเราไปถึงจุดที่ตั้งร่ม ก็เพียงสแกนคิวอาร์โค้ดแล้วก็ดึงร่มออกมาใช้งานได้เลย และเมื่อใช้ร่มเสร็จ ก็สามารถนำไปคืนโดยการสแกน QR Code ที่แท่นวางร่มอีกครั้งที่จุดให้บริการจุดไหนก็ได้ก็เป็นอันเสร็จพิธี

ค่าเช่าร่มจะประมาณ 20 บาทเท่านั้น ส่วนใครที่ลืมนำมาคืนก็จะมีค่าปรับสูงสุดไม่เกิน 120 บาท บริษัทที่ให้บริการเช่าร่มนี้รายงานอย่างภาคภูมิใจว่า 100% ของชาวญี่ปุ่นที่เช่าร่มไปนั้นนำร่มมาคืน ไม่เหมือนในประเทศอื่นๆ ที่มีจำนวนคนไม่ยอมเอาร่มมาคืนจำนวนมาก

\'ญี่ปุ่น\' ประเทศแห่งร่มและความรัก (ร่ม) อิซากิ ให้บริการร่มให้เช่าเป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่น

บริการให้เช่าร่มในญี่ปุ่น

ธุรกิจให้เช่าร่มนี้เป็นผลมาจากความจริงที่ว่า คนญี่ปุ่นกับร่มนั้นเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร คนที่เคยอ่านการ์ตูนหรือชื่นชอบซีรีย์สหรือภาพยนตร์แนวโรแมนติกของญี่ปุ่นน่าจะเคยสังเกตว่า ตัวละครในเรื่องต่างๆ นั้น มีการใช้ร่มเป็นพร็อพประกอบในหลายๆ ตอน

ยิ่งในตอนที่เกี่ยวข้องกับความรักก็จะเห็นตัวเอกฝ่ายชายถือร่มมายืนกลางฝนเพื่อคอยนางเอก หรือเมื่ออกหัก ก็จะมีการถือร่มออกไปยืนท่ามกลางสายลมหนาวเพื่อแสดงถึงความเศร้าสร้อยที่เกิดจากความรักที่ไม่สมหวัง

จริงอยู่ที่ญี่ปุ่นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องฝนฟ้าพายุแรงๆ เท่าไหร่ แต่คนญี่ปุ่นก็มักจะพกร่มติดตัวไว้ตลอดเวลา ร่มที่ใช้ในหน้าร้อนกับหน้าฝนจะเป็นคนละชนิดกัน ผลิตจากวัสดุคนละแบบกัน การสำรวจการมีร่มไว้ในครอบครองจากทั่วโลก (Global Umbrella Survey) รายงานว่า คนญี่ปุ่น 1 คนจะมีร่ม 3 คัน

 

\'ญี่ปุ่น\' ประเทศแห่งร่มและความรัก (ร่ม) บริการให้เช่าร่ม อิซากิ พบได้ทั่วไปในโตเกียว

ว่ากันว่า ในวัฒนธรรมตะวันตก การเปิดประตูรถให้สุภาพสตรีหรือการเดินด้านนอกของฟุตบาทเพื่อให้สุภาพสตรีเดินด้านในเป็นมารยาทที่น่าชมเชย สำหรับในญี่ปุ่นการอนุญาตให้คนอื่นมาร่วมแชร์ร่มกับคุณเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง

และยิ่งถ้าเป็นชาย-หญิง หญิง-ชาย หรือเพศเดียวกันก็ตาม นั่นอาจจะทำให้เกิดเรื่องโรแมนติกตามมาขึ้นได้ ชื่อของธุรกิจการให้เช่าร่มในภาษาญี่ปุ่นนั้นสามารถมีความหมายว่า “ความรัก” หรือ “ร่มแห่งความรัก” ได้ด้วย

สาวๆ ญี่ปุ่นหลายๆ คนมักจะแกล้งลืมนำร่มติดตัวไปด้วยในหน้าร้อนหรือหน้าฝน โดยหวังว่า จะมีหนุ่มๆ มาให้พวกเธอร่วมแชร์ใต้ร่มเดียวกัน ถ้าพวกเขาทำอย่างนั้น นั่นเป็นสัญญาณที่ดีว่า ทั้งสองอาจจะออกเดตด้วยกันหรือสานต่อความสัมพันธ์กันหลังจากนั้น

สำหรับสายมูบางคนก็จะชอบวาดรูปร่มและเขียนชื่อตัวเองและชื่อคนที่ตนเองหมายปองไว้ใต้ร่มหรือไว้ในรูปหัวใจเพื่อขอให้ความฝันเป็นจริง 

\'ญี่ปุ่น\' ประเทศแห่งร่มและความรัก (ร่ม)

การแชร์ร่มร่วมกันของหนุ่มและสาวเป็นสัญลักษณ์ของความรักอันสวยงาม แม้แต่ในอะนิเมะของญี่ปุ่น

  • ร่มเป็นสิ่งเดียวที่ถูกขโมยได้ในญี่ปุ่น

เป็นที่รู้กันว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยขั้นสูงสุดประเทศหนึ่งของโลก ถ้าใครลืมอะไรไว้ในที่ต่างๆ มักจะได้คืน นักท่องเที่ยวก็เที่ยวได้อย่างสบายใจเพราะอัตราอาชญากรรมในประเทศนี้ต่ำมาก

แต่เว็บไซต์ Smilewallet รายงานว่า ร่มเป็นสิ่งเดียวที่สามารถถูกขโมยได้ในญี่ปุ่น ถ้าคุณวางร่มไว้ภายนอกห้าง มันก็อาจจะหายไปได้อย่างรวดเร็ว (ผู้เขียนเรื่องเว็บไซต์นี้ เขียนด้วยความมั่นใจ เพราะร่มของเขาหรือเธอเคยถูกขโมย)

หลายๆ ร้านที่ญี่ปุ่น ที่หน้าร้านจะมีที่ล็อกร่มให้ลูกค้า เมื่อลูกค้าจะเข้าไปในร้านก็ล็อกร่มโดยใส่รหัสไว้ และเมื่อออกมาจากร้านก็มาใส่รหัสอีกครั้ง เพื่อปลดล็อกและนำร่มไป นอกจากนี้ ยังมีบริการเตรียมถุงพลาสติกไว้ให้ลูกค้าใส่ร่มเปียกๆ อีกด้วย

ถ้าใครต้องการซื้อร่มก็สามารถซื้อร่มได้แทบจะทุกที่ โดยราคาจะประมาณคันละ 25 บาท นอกจากนี้ที่ญี่ปุ่นมีร้านที่ขายร่มโดยเฉพาะด้วย แสดงให้เห็นว่า ร่มเป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นต้องมีและเป็นที่ต้องการ หลังฝนตกหนัก มักจะเห็นร่มที่โดนลมหรือฝนทำให้พังถูกทิ้งอยู่ในถังขยะเต็มไปหมด นั่นเพราะคนญี่ปุ่นสามารถซื้อหาร่มได้ทั่วไป

\'ญี่ปุ่น\' ประเทศแห่งร่มและความรัก (ร่ม) คนญี่ปุ่นกับร่มเป็นของคู่กัน

ในช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ญี่ปุ่นก็เป็นประเทศหนึ่งที่รณรงค์ให้ใส่หน้ากากเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสนี้ แต่ทางการญี่ปุ่นก็มีความละเอียดรอบคอบ เป็นห่วงเป็นใยผู้คนที่ต้องใส่หน้ากากในช่วงที่อากาศร้อน เพราะอาจทำจะให้เป็นลมแดดได้

ทางการญี่ปุ่นจึงออกแคมเปญว่า “เพื่อป้องกันไวรัสโควิด ให้รักษาระยะห่างจากกันและกันโดยใช้ร่มกันแดด” คือ ถ้าต้องเดินไปในที่สาธารณะและไม่สะดวกที่จะใส่หน้ากากก็ให้กางร่มและไม่ให้ใครเข้ามาในรัศมีร่มของเรา ซึ่งนั่นก็เป็นการรักษาระยะห่างระหว่างกันแล้ว

สาวคนหนึ่งในโตเกียวให้สัมภาษณ์ว่า เธอมักจะพกร่มเล็กๆ พับได้ แต่เมื่อมีการระบาดเธอจึงตัดสินใจซื้อร่มคันใหญ่ เส้นศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร “เมื่อฉันมีร่มคันใหญ่ ฉันก็ถอดหน้ากากออกได้โดยไม่ลังเลเลย” 

ว่ากันว่า ร่มนั้นเหมือน “อากาศ” สำหรับคนญี่ปุ่น จะขาดซึ่งกันและกันไม่ได้ ใครที่จะไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นควรมีร่มติดตัวไปด้วย เพื่อจะได้เที่ยวได้อย่างสนุกสนาน ไม่ต้องกลัวฝนหรือแดด แต่ถ้าจะไปหาทางแชร์ร่มกับหนุ่มๆ หรือสาวๆ ที่นั่นก็ขอให้โชคดี 
...........
รูปและเรื่อง : เว็บไซต์ SKDESU, Asahi Shimbun, Smileswallet, mothership

 

\'ญี่ปุ่น\' ประเทศแห่งร่มและความรัก (ร่ม)

ประกาศของทางการญี่ปุ่นให้เว้นระยะห่างโดยใช้ร่มเป็นตัวชี้วัดระยะในช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาด

\'ญี่ปุ่น\' ประเทศแห่งร่มและความรัก (ร่ม) คนญี่ปุ่นใส่หน้ากากและใช้ร่มเพื่อรักษาระยะห่างในช่วงการระบาดของโควิด-19

\'ญี่ปุ่น\' ประเทศแห่งร่มและความรัก (ร่ม) การวาดรูปร่มและมีชื่อของชายหญิงอยู่ใต้ร่มมีความหมายแสดงว่า มีความรักเกิดขึ้นแล้ว