'ธรรมดา การ์เด้น' โบรกเกอร์หนุ่มหนีตลาดหุ้นไปปลูก 'ข้าวอินทรีย์'

อัครเดช ม่วงไม้ ทิ้งอาชีพโบรกเกอร์ไปเข้าสวนปลูกผัก ปลูก 'ข้าวอินทรีย์' เลี้ยงไก่ เป็น 'เกษตรกรออร์แกนิค' อย่างเต็มตัว
เวลาผ่านไปเกือบ 5 ปี โอ – อัครเดช ม่วงไม้ ก่อตั้ง ธรรมดา การ์เด้น (Tammada Garden) ค้นพบวิถี เกษตรกรรมยั่งยืน คนได้กินข้าวสะอาด ผักปลอดภัย ไข่ไก่ออร์แกนิค อีกทั้งทำมาหาเลี้ยงตัวเองได้อย่างยั่งยืน
ในฟาร์มธรรมดา ๆ ของเขา ปลูกข้าวอินทรีย์ ผักออร์แกนิค และเลี้ยงไก่ด้วยอาหารไก่อินทรีย์
“ก่อนหน้านั้นอยู่วงการหุ้น มีหลายปัจจัยทำให้ผมอิ่มตัวกับงาน บวกกับความอึดอัดในเมือง คุณแม่ไม่สบายต้องมาดูแลเลยตัดสินใจออกจากงาน”
ผู้ก่อตั้ง ธรรมดา การ์เด้น เล่าย้อนเวลาเมื่อเกือบ 5 ปีก่อน
คนพูดว่าผักไฮโดรยังมีรสชาติขมอยู่ ยังล้างปุ๋ยเคมีไม่ออก ส่งผลให้ราคาช่วงนั้นตกมาก เคยทำส่งร้านสเต๊กกิโลละ 150-200 บาท ช่วงนั้นนะครับ ช่วงหลังเหลือ 40-50 บาท ผมเลยตัดสินใจเลิก”
ผนวกกับออกจากตลาดหุ้นมาทำนาจริงจัง ไม่ใช่เกาะกระแสคนกรุงไปปลูกผักทำนา หากที่บ้านคุณพ่อก็มีนาข้าวอยู่ แต่พอคุณลูกตัดสินใจทำเกษตรอินทรีย์ จึงต้องวางแผนใหม่หมด ไปอบรมเข้าคลาส เรียนรู้วิถีอินทรีย์อย่างแท้จริง ชาวนาอินทรีย์บอกว่า
“การปลูกพืชมี 3 ระดับ คือพืชทั่วไป ใส่ปุ๋ยเคมี ฉีดยาฆ่าแมลง พืชเกรดปลอดสารคือใส่ปุ๋ยเคมีได้แต่ไม่สามารถฉีดยาฆ่าแมลงและฉีดฮอร์โมนได้ อีกเกรดหนึ่งคือออร์แกนิค ไม่สามารถใช้อะไรได้เลย เป็นธรรมชาติทั้งหมด
ส่วนผักไฮโดรจะอยู่ในเกรดปลอดสารคือใส่ปุ๋ยเคมีแต่ฉีดยาไม่ได้ ฮอร์โมนไม่ได้ แล้วถ้าจะปลูกผักไฮโดรให้ปลอดภัยคือต้องเคลียร์ปุ๋ยก่อน 1-2 สัปดาห์ ต้องเคลียร์เป็นน้ำเปล่า 100% แต่ในบางที่เขาทำไม่ทันเลยไม่ได้ปล่อยน้ำเคลียร์ปุ่ยออก พอไปสุ่มตรวจก็เจอเยอะ”
“เป็นแนวคิดของเราเลยครับ เพราะทุกวันนี้เราอยู่กับสารเร่ง หรือฮอร์โมนเร่งโต ทั้งผัก เนื้อวัว หมู ไก่ ทุกอย่างอยู่ในระบบอุตสาหกรรมอาหารของเรา แล้วเราไม่มีทางรู้เลย
พวกอาหารพืชแม้กับผักไฮโดรจริง ๆ ไม่ได้มีผลต่อร่างกายหรือทำให้เราเป็นอะไรมากมาย แต่สิ่งที่อันตรายคือยาฆ่าแมลง กับฮอร์โมนเร่งโตต่าง ๆ เพราะมันจะไปอยู่ในยีนของต้นไม้เลย ล้างออกไม่ออก
แต่ฟาร์มของอดีตโบรกเกอร์หนุ่ม ไร้สารทุกชนิดอย่างสิ้นเชิง
“ความจริงยาฆ่าแมลงเราก็ไม่รู้ ทุกวันนี้ยังใช้กันอยู่เป็นปกติ แต่ฟาร์มเรามีฮอร์โมนจากธรรมชาติ เป็นออร์แกนิค เราไม่ฉีดยาฆ่าแมลงด้วย เน้นทำดินให้ดีอย่างเดียวเลย ไม่แม้กระทั่งฉีดน้ำอินทรีย์ต่าง ๆ หรือฉีดสารสะเดาไล่แมลง มันจะไปชะงักการเจริญเติบโตของพืช
เกษตรกรอินทรีย์ บอกว่า วิธีไล่แมลงของเขาคือลงสวนหยิบแมลงออก ถ้าไม่มีเวลาก็ต้องปล่อยให้แมลงกินใบ (ไปบ้าง) ผักในสวนนี้อาจไม่สวย ใหญ่ กรอบ เหมือนที่อื่น
“หลังจากเอาต้นกล้าไปลงแปลงแล้วก็ให้น้ำอย่างเดียว เมื่อเราทำดินให้สมบูรณ์แล้วจะไม่ฉีดอะไรเลย ฟาร์มออร์แกนิคถ้าทำไปสักระยะหนึ่ง แมลงจะไม่เยอะมากแล้วนะครับ เพราะมีจุลินทรีย์ มีแมลงมาสู้กับแมลงเองในแปลง เช่น มีเต่าทองมากินไรแดง กินเพลี้ยเล็ก ๆ ซึ่งจะวนเวียนอยู่ในระบบนิเวศ”
“ยาฆ่าแมลงทำให้ระบบนิเวศบางส่วนหายไป สมัยก่อนในนาข้าวมีปูนาเยอะมาก พอคนทำเคมี ปูนาไม่มีแล้ว ทุกวันนี้คนต้องเลี้ยงปูนาเพื่อเอาไปขาย สมัยก่อนที่บ้านผมปูนาเต็มไปหมด มีรอบบ้านเลย แต่พอระบบนิเวศมา ปูนาจะค่อย ๆ คืนมาแต่ใช้เวลา”
“กฎออร์แกนิคบ้านเราสำคัญที่น้ำ สมัยนี้ใช้วิธีตรวจเร็วสุด ความยากคือการควบคุมน้ำ ถ้ามีค่าเคมีเกินจะไม่ได้มาตรฐานออร์แกนิค ที่ฟาร์มเราขุดบ่อ 3 บ่อ ให้น้ำมาพัก บ่อหนึ่งปลูกหญ้าแฝกริมบ่อ อีกบ่อปลูกผักตบเพื่อดึงสารเหล่านี้ออกไป
น้ำที่เราใช้มาจากคลองประปาหรือบ่อบาดาลทั่วไป จะดึงเข้ามาหมุนวนในสวนของเราใน 3 บ่อ จนมาถึงบ่อที่เราใช้จริง ๆ แต่ปีหนึ่งเราอาจวิดน้ำเข้ามาครั้งเดียวเพื่อให้อยู่ในบ่อ ผ่านหญ้าแฝก ผักตบชวา”
ธรรมดา การ์เด้น มีพื้นที่ 40 ไร่ ปลูกข้าวหอมปทุมอินทรีย์ 35 ไร่ อีก 5 ไร่ เป็นพื้นที่ปลูกผักและเลี้ยงไก่เพื่อ ไข่ออร์แกนิค
“ฟาร์มเน้นข้าวใหม่ครับ ข้าวกล้องหรือข้าวขาวแล้วแต่ลูกค้าสั่ง เราจะเกี่ยวข้าวแล้วนำไปอบเก็บเป็นข้าวเปลือกในโกดัง พอลูกค้าสั่งก็จะสีใหม่ ๆ ให้เขาเลย
ข้าวใหม่มีทั้งข้าวกล้องและข้าวขาว จะเป็นข้าวใหม่ขึ้นอยู่กับอายุการเก็บเกี่ยว เช่น เก็บมา 1 เดือน เริ่มสีเดือนที่ 2 จะเป็นข้าวใหม่ ซึ่งมีอายุราว 6 เดือน (หลังจากเก็บเกี่ยว) ถ้าซื้อข้าวใหม่มาเก็บไว้ที่บ้าน เอาใส่ตู้เย็นจะมีอายุ 3-4 เดือน ยังเป็นข้าวใหม่อยู่ แต่ถ้าอุณหภูมิปกติจะเหลือ 2 เดือน”
เฉลี่ยปีหนึ่งปลูกข้าว 2 ครั้ง รอบ 6 เดือนจะสีขายหมด เนื่องจากเป็นฟาร์มเล็ก ผลผลิตไม่มาก แต่ละปีได้ผลผลิตไม่เท่ากัน เพราะธรรมชาติมอบให้
อาหารไก่ต้องปรับเปลี่ยนทุกฤดูกาล ร้อนมากลดเกลือเพิ่มกระถิน สมุนไพรทำให้เย็นหน่อย ฤดูฝนเน้นฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน ไม่ทำให้มันซึม ไก่จะป่วยบ่อย หน้าฝนเป็นหวัด สัตว์จะไม่ชอบอากาศสวิง คนก็เหมือนกัน...
ตอนนี้เลี้ยงไก่ 200-350 ตัว ไก่ออกไข่ทุกวัน ถ้าออร์แกนิคจะออกวันละ 50% จะไม่เยอะเหมือนให้อาหารทั่วไปที่ออกไข่ 80-90% เราจะได้ครึ่งหนึ่ง
วิตามินไก่ก็มาจากธรรมชาติ เราไม่สามารถใส่วิตามินสังเคราะห์ต่าง ๆ ได้ ไก่จะแข็งแรงถ้าออกไปกินยอดหญ้า ไก่ก็เหมือนคนครับ ถ้ากินอาหารครบ 5 หมู่จะออกไข่ได้ค่อนข้างเยอะ”
ไก่แต่ละตัวออกไข่ประมาณ 1 ปี ปลดเกษียณแล้วก็อยู่ในฟาร์ม ธรรมดาการ์เด้น วิ่งเล่นเพลินไป
“ถ้าเลี้ยงออร์แกนิคอาจได้ถึง 2 ปี แต่ไข่ไซส์เล็กลง ถ้าอายุ 1 ปี ไก่ที่สมบูรณ์ได้ไข่เบอร์ 0 ได้ โดยทั่วไปเบอร์ 1 ถ้าอายุต่ำกว่า 1 ปี เบอร์ 3-4
ถึงไก่ไม่ออกไข่แล้วเราก็เลี้ยงไปยาว ๆ ครับ อายุไก่อยู่ได้ 7-8 ปี ถ้าอากาศสวิงก็มีป่วยตาย จากฝนเป็นหนาวแล้วร้อนในวันเดียว ถ้าไก่อายุเยอะจะป่วยตาย”
ออร์แกนิคฟาร์มครบเครื่องอาหารการกิน รวมถึงผักปลอดสารเคมี ปลอดฮอร์โมนเร่งโต
“ผักส่วนใหญ่ปลูกตามฤดูกาล เช่น หน้าร้อนมีพวกผักเถา แตงกวา ถั่วฝักยาว ผักที่มีทุกฤดูได้แก่ คะน้า ผักกาดใบ มะเขือเทศจะยากหน่อย พริกขี้หนูสวน พริกจินดา พริกกะเหรี่ยง มีตลอด เราปลูกวนไป”
จากปีที่เริ่มต้นถึงตอนนี้ ธรรมดา การ์เด้น เป็นที่รู้จักแค่ไหน
ถ้าสั่งขั้นต่ำ 400 บาท (ข้าว-ไข่-ผัก) ส่งฟรีครับ ถ้าไม่ถึงบวกค่าส่ง 80 บาท ถือว่าลูกค้าเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคก็จะราคาสูงกว่าราคาตลาดนิดหน่อย”
ช่วงโควิดที่ผ่านมา ถือว่าข้าว-ไข่-ผักออร์แกนิค ขายดีจนผลิตไม่ทัน
คนปลูกปลอดภัย คนกินก็อร่อย สบายใจ ถ้าผนวกวิถีเกษตรอินทรีย์เข้าไปอยู่ในวิถีชีวิตคนได้อย่างยั่งยืน ล้วนดีต่อเรา ดีต่อโลก
หมายเหตุ : FB: Tammada Garden สั่งข้าว-ไข่-ผัก ส่งถึงบ้านและจัดเวิร์คช็อปให้ความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์