ประสบการณ์ใช้'ฟรีวีซ่า'เที่ยวไห่หนาน เมืองท่าปลอดภาษีของจีน
เรื่องเล่าประสบการณ์ใช้ฟรีวีซ่าและเที่ยวไปในไห่หนาน ซึ่งทาง'จีน' ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะผลักดันให้เป็นเมืองท่าปลอดภาษีที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2035
ผู้เขียนเพิ่งกลับมาจากไห่หนาน หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม ไหหลำ ที่นั่นเป็นมณฑลเดียวที่เปิดฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย จีนยุคใหม่หลังจากโควิด-19 เป็นประเทศที่เข้ายาก คิวยาวมาก และมีค่าใช้จ่าย
แต่สำหรับไห่หนาน มณฑลที่มีขนาดเล็กสุดแค่ราว 22 ล้านไร่ (35,191ตร.กม./ โคราชกับชัยภูมิรวมกันก็เกือบๆ เท่าไห่หนานแล้ว ) รัฐบาลจีนอยากให้คนเข้าไปที่เกาะแห่งนี้มากๆ ชนิดเปิดทางสะดวก เปิดฟรีวีซ่าให้กับ 59 ประเทศ
เพราะเขามีเป้าหมายผลักดันให้ไห่หนานเป็นเกาะเมืองท่าปลอดภาษีที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2035 โดยรอบล่าสุด แทนที่จะต้องให้คนจาก 59 ประเทศติดต่อบริษัททัวร์รับรองเอกสารก็ยกเลิกระเบียบที่ว่า ให้ถือพาสปอร์ตเข้าไปเองได้โดยตรง
บรรยากาศในเมืองไห่หนาน
- ฟรีวีซ่าเมืองไห่หนาน
การถือพาสปอร์ตเข้าไปเองโดยตรงเป็นครั้งแรกของคนไทย คือประเด็นหลักที่จะเล่าสู่ในบทความ รวมถึงเรื่องราวอื่นของนักท่องเที่ยวไทยที่ไม่รู้ภาษาจีนเลย เป็นประเด็นแถม เป้าหมาย World’s largest free-trade port by 2035 ที่รัฐบาลจีนอยากให้ไห่หนานก้าวให้ถึง เป็นอะไรที่ท้าทายมาก
เพราะโลกนี้มีเมืองปลอดภาษีและเขตเศรษฐกิจพิเศษลักษณะคล้ายกันที่แข่งขันกันมากมาย เอาเฉพาะ SEZ ในจีนเองก็แข่งกันดุเดือดแล้ว ไห่หนานจะทำอย่างไร ?
คำตอบคือ เขาจะใช้ภูมิศาสตร์ความเป็นเกาะแยกออกมาของไห่หนานให้เป็นประโยชน์ โดยจะแยกระบบศุลกากรออกมาเฉพาะของตนเอง เป็นเอกเทศ การเข้าออกเมืองและระบบการค้าการลงทุนปลอดภาษีทุกชนิดจะไม่เกี่ยวกับระบบจีนแผนดินใหญ่ ซึ่งระบบที่ว่านั้นกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการอย่างเร่งรีบกำหนดแล้วเสร็จภายใน 2025 ในอีกสองปีข้างหน้า
ความฝันเนรมิตเกาะเมืองท่าปลอดภาษีใหญ่สุดในโลก คือให้เกาะมณฑลทั้งมณฑลเป็นเขตเศรษฐกิจปลอดภาษีเป็นไปได้ อย่าประมาทมหาอำนาจมังกร ขนาดของเกาะไหหลำใหญ่กว่าสิงคโปร์ 50 เท่าตัวย่อมขึ้นชั้นใหญ่ที่สุดในโลกในตัวอยู่แล้ว
ซึ่งเวลานี้กิจกรรมต่างๆ ของมาสเตอร์แปลนก็เริ่มดำเนินไป รวมทั้งการเปิดฟรีวีซ่าซึ่งเป็นอะไรที่ง่ายกว่าการก่อสร้างขนาดใหญ่ๆ
- ไหหนานประตูเชื่อมอาเซียน
นโยบายเปิดให้ต่างชาติการเข้าออกเมือง โดยไม่ต้องใช้วีซ่าของไห่หนานเริ่มดำเนินการมาก่อนหลายปีแล้ว ในช่วงก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนเปิดฟรีวีซ่าให้กับ 59 ประเทศ ส่วนใหญ่จากยุโรปอเมริกา และย่านอาเซียนของเรา
เพราะเขาวางตำแหน่งให้ไห่หนานเป็นประตูเชื่อมอาเซียน แค่สายสัมพันธ์ไหหลำโพ้นทะเลก็ครอบคลุมอาเซียนทั้งย่านแล้ว แต่อย่างไรก็ตามการเดินทางค่อนข้างยุ่งยาก เพราะต้องผ่านบริษัททัวร์หรือเอเยนต์ที่รัฐบาลแต่งตั้ง
จนกระทั่งปี 2023 ที่จีนเปิดประเทศใหม่หลังโควิด ก็ยกเลิกขั้นตอนให้ต่างชาติ 59 ประเทศที่จะเข้าไห่หนานต้องผ่านเอเยนต์ทัวร์ทางการทิ้งไป ถือเป็นปีแรกที่ต่างชาติสามารถถือพาสปอร์ตเข้าไปได้เองโดยตรงเลย !
ทั้งนี้คนไทยที่จะประสงค์จะใช้ฟรีวีซ่าจะต้องหาสายการบินที่บินตรงเข้าไปถึงสนามบินไหโข่วโดยไม่พักเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินอื่นภายในประเทศ มิฉะนั้นจะกลายเป็นเข้าเมืองผิดกฎหมาย ณ สนามบินที่เปลี่ยนเครื่องนั่นเอง
ปัญหาคือ มันมีสายการบินจากต่างชาติน้อยมากที่บินตรงเข้าไปถึงไหโข่ว จากสุวรรณภูมิก็มีแค่ไห่หนานแอร์ไลน์ ลำเล็กและไม่มีบินทุกวัน ที่สะดวกสุดคือไปต่อเครื่องที่ฮ่องกง ซึ่งคนไทยเข้าไปได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าและต่อเครื่องจากที่นั่น
มีพรรคพวกที่ไปด้วยกันซื้อตั๋วผิด บินจากสุวรรณภูมิไปต่อเครื่องเซินเจิ้น พอจะเช็คอินเคาท์เตอร์สายการบินถามหาวีซ่า ไม่มีก็ต้องทิ้งตั๋ว ซื้อใหม่ และไม่เฉพาะคนต่างชาติที่งงกับฟรีวีซ่าต้องบินตรงเข้าไป ประสบการณ์หยกๆ เจ้าหน้าที่ ต.ม.ของไห่หนานก็งงกับระเบียบที่เพิ่งประกาศปรับปรุง ถามหาวีซ่าจากคนไทยเพื่อนร่วมคณะของผู้เขียน
เราตอบไปว่า มาโดยฟรีวีซ่า เจ้าหนุ่มเจ้าหน้าที่ ต.ม. รายนั้นส่ายหน้า แล้วเรียกชาวคณะคนไทยที่เดินทางไปด้วยกัน (และไม่มีวีซ่า) ทั้งหมดมาเข้าแถวแยก ให้รอจนผู้โดยสารอื่นผ่านไปหมด
สังเกต ต.ม.ในวันนั้นเหมือนว่าไม่มีใครมั่นใจว่า จะต้องมีขั้นตอนปฏิบัติอย่างไรกับคณะคนไทยที่ใช้ฟรีวีซ่า (ต่างจากของเดิมที่ต้องมีเอกสารของเอเยนต์ทัวร์แนบมา) เห็นเจ้าหน้าที่บางคนเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วมุงดูกันเพื่ออ่านระเบียบใหม่
ที่สุดกว่าจะผ่านได้ เขาต้อนคนที่มารับเข้ามารับรองคณะคนไทยว่ามาเที่ยวจริงและรับปากว่าไม่ออกจากเกาะไห่หนาน ซึ่งที่จริงแล้ว ระบบเข้าเมืองมันไม่จำเป็นต้องมารับปากหรือต้องมีประชาชนเจ้าถิ่นมาการันตีอะไรแบบนี้
- เมืองท่าปลอดภาษีใหญ่สุดในโลก
ไห่หนาน วางตำแหน่งตัวเองให้เป็นเมืองท่าปลอดภาษีใหญ่ที่สุดในโลก เป็นอะไรที่น่าตื่นตามาก เพราะแผนพัฒนาของเขาได้เริ่มสร้างสาธารณูปโภคหลักเป็นเรื่องเป็นราว
มีถนนใหม่ทันสมัยรอบเกาะที่ใหญ่โตสวยงามแบ่งเลนให้กับรถยนต์ มอเตอร์ไซด์ ทางจักรยานที่ร่มรื่น ไห่หนานประกาศว่าตัวเองเป็นฮาวายแดนมังกร China’s Hawaii ก็สมแล้ว
เพราะเขาดึงจุดเด่นของเมืองท่องเที่ยวชายทะเลใหญ่ ริเวียร่า ไมอามี่ ฮาวาย ไปสร้างใหม่ บรรยากาศบางเขต มีตึกสูงมากมายเป็นเมืองชายทะเลทันสมัยสวยงามไม่แพ้ไมอามี่ ย่านถิ่นชายทะเลเป็นเขตเศรษฐกิจท่องเที่ยวสำคัญ ๆ เกิดขึ้นตลอดแนวชายฝั่ง
โดยเฉพาะที่ โปอ๋าว Bo'aozhen เคยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมนานาชาติมาแล้ว มีดิวตี้ฟรีใหญ่สุดในโลก มีแผนสร้างท่าเรือใหม่ ฯลฯ
แต่ก็สังเกตว่าบางทำเลมีการลงทุนใหญ่มากมาย ก็จริงแต่ไม่คึกคักบางอาคารทิ้งร้างอาจจะกระทบจากโควิดทำให้ชะงักไป เช่น หมู่ตึกสูงโรงแรมที่พักตากอากาศชายทะเล Wenchang เป็นต้น
ในภาพรวม ไห่หนานมีความทันสมัย มีโครงสร้างสาธารณูปโภคใหญ่โต มีการลงทุน และพยายามจะเป็นนานาชาติ แฟรนไชส์ใหญ่ๆ ที่เราคุ้นเคย หาได้ที่นั่น KFC McDonald Starbuck
- เมืองท่านานาชาติไห่หนาน
แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญของการก้าวสู่เมืองท่านานาชาติของไห่หนาน อีกประการหนึ่งคือ ภาษา และการบริการต่างชาติ ที่ใช้ภาษาจีนไม่ได้
นี่เป็นเรื่องที่พัฒนาได้ แต่ตอนนี้ ยัง... !
คนไทยหากแยกหมู่คณะไม่มีคนพูดจีนได้แยกเดินทางคนเดียว หากชี้ไปที่ตัวเองบอกว่า ไท่กั๋ว จะได้รับการต้อนรับที่ดี ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส และเข้าใจที่ไม่สามารถใช้ภาษาได้
หากเป็นการจับจ่ายซื้อของทั่วๆ ไป ภาษาใบ้สามารถใช้การได้ ชี้ๆ สิ่งของแล้วสแกนจ่ายเงินด้วยแอพพลิเคชั่น หรือเงินสดในบางกรณี แม้จีนเปลี่ยนเป็นสังคมไร้เงินสดแล้ว แต่ก็พอมีร้านที่ยังรับเงินสดอยู่
บางร้านย่อยขอให้เรารอแล้วไปแลก อาจจะมียกเว้นในร้านใหญ่ที่มีระบบตายตัว ไปซื้อ อาหารแฟรนไชส์ใหญ่ ในสถานีรถไฟซานย่า เขาต้องกดสั่งจากหน้าจอและจ่ายเงินด้วยแอพพลิเคชั่นเอง
หากทำไม่ได้หรือไม่มี ก็สั่งกินไม่ได้ ระบบมันเซ็ตไว้ ขณะที่พนักงานแฟรนไชส์ขายไก่อีกเจ้าหนึ่ง ทราบว่าเราไม่มีแอพฯและสั่งของไม่เป็น เธอหาวิธีแก้ด้วยการใช้มือถือของเธอเองช่วยสั่ง แล้วรับเงินสดจากมือเราไปแทน
อย่างที่บอกการซื้อหาสิ่งของเครื่องใช้ประจำวันไม่ยาก แต่ที่ยากคือ การสัญจร เพราะระบบแท็กซี่ ระบบรถเมล์ ไม่มีภาษาอังกฤษช่วยเลย ต้องอาศัยคนท้องถิ่นนำทางและสื่อสาร
คนรุ่นใหม่ที่เจอ มีคนพูดอังกฤษสื่อสารได้ค่อนข้างดี คนรุ่นใหม่พยายามใช้อังกฤษสื่อสารสำเนียงดีทีเดียว แต่โดยรวมยังน้อยมาก
สรุปว่าไห่หนานตั้งเป้าจะเป็นเมืองท่าปลอดภาษีนานาชาติที่ใหญ่สุดในโลก พยายามเปิดรับต่างชาติขนาดที่ให้ฟรีวีซ่ามากถึง 59 ประเทศ แต่ความเป็นนานาชาติยังต้องเติมใส่ลงไปอีกพอสมควร
หรือหากมองเฉพาะการต้อนรับคนไทยในฐานะ 1 ใน 59 ประเทศที่ไห่หนานประกาศฟรีวีซ่ารับ การเดินทาง สายการบินและตั๋วเครื่องบินตรงยังแพงพอสมควรเพราะแข่งขันน้อย
ไห่หนานยังมีไฟลท์บินตรงต่างประเทศน้อยไปหน่อย เมื่อเทียบสถานะความเป็นมณฑล ที่สุดในแล้วในบรรดานานาชาติทั้งหลาย คนที่นั่นคุ้นเคยและเป็นมิตรกับไท่กั๋วสายสัมพันธ์ไหหลำโพ้นทะเลช่วยปูพื้นไว้เยอะ