‘ป๋อมแป๋ม-นิติ’ สุขง่ายๆ ไม่โกรธโลก แบบเทยๆ
ป๋อมแป๋ม-นิติ ‘เทยอารมณ์ดี’ ที่ทำให้คนหลงรักและมีความสุข รวมถึงส่งต่อความสุข เพราะเป็นคนสุขง่ายๆ กับทุกเรื่องที่อยู่ตรงหน้า
นักแสดงอารมณ์ดี ป๋อมแป๋ม-นิติ ชัยชิตาทร เป็นที่รู้จักกันในรายการ เทยเที่ยวไทย’ เปิดโลก LGBT ที่สดใสเมื่อ 12 ปีก่อนและเพิ่งปิดฉากไปเมื่อไม่นาน ล่าสุดแจ้งเกิดในวงการแสดง บท คิตตี้ ในละครดัง มาตาลดา
จากคนทำงานเบื้องหลังในวงการบันเทิง กลายเป็นคนเบื้องหน้าที่ประสบความสำเร็จ ด้วยทัศนคติที่ดี มีความสุขง่ายๆในทุกเรื่องที่อยู่ตรงหน้า
ป๋อมแป๋ม-นิติ เรียนจบคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เคยทำงานที่บริษัทเครือเนชั่น 6 เดือน (Media Magnet) งานสุดท้ายก่อนลาออกก็คือ งานครบรอบ 15 ปี หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ จากนั้นไปทำงานที่ GMM Grammy ได้ 21 ปีจนถึงปัจจุบัน รับตำแหน่งผู้ช่วยรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทจีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด (GMMTV)
วันนี้ จุดประกาย กรุงเทพธุรกิจ มีบทสนทนาที่ทำให้หลายคนรู้จัก ‘ป๋อมแป๋ม’ มากขึ้น...
ชีวิตจริง ‘ป๋อมแป๋ม’ ในมุม LGBTเป็นแบบไหน
เป็น กระเทย ใจดี ไม่ได้น่ากลัว ลูกน้องบอกว่า มันกลัวเรา มันกลัวหรือมันเกลียดก็ไม่รู้ (หัวเราะ) ถ้าสมัยก่อนเป็นคนค่อนข้างพลังงานเยอะ แอคทีฟ เป็นคนแอดเวนเจอร์ เปิดประสบการณ์ พอเราอายุย่าง 42 ปี ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา ผ่านช่วงโควิด ก็กลายเป็นกระเทยที่เริ่มมองหาความมั่นคง เริ่มคิดถึงวัยเกษียณแล้ว
เราเริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 20 และทำงานอยู่อย่างเดียว มาอยู่หน้ากล้องตอนอายุ 30 นิดๆ แต่ก็ยังเป็นงานที่อยู่ในแวดวงเดิม ความรู้และ ทักษะของเราก็ยังใช้แบบเดิม ทั้งเรื่องของแรง คลังข้อมูลในหัว ทำอะไรซ้ำๆ ก็เริ่มเบื่อตัวเอง จะให้ทำอะไรใหม่ตลอดเวลาก็รู้สึกว่าของมันกำลังจะร่อยหรอ
ช่วงโควิดก็เลยกลับไปเรียนแอคติ้ง เรียนเขียนบทละคร เขียนบทภาพยนตร์ ไปเรียนทำอาหาร ที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ เรียนมา 4 ปีใกล้จบแล้ว ไปเรียนกีตาร์ เปียโน และกลับไปตีเทนนิสใหม่ อยากเป็นโปรในรุ่นซีเนียร์ ไปเรียนไว้ก่อน อะไรที่ไม่ใช่เราค่อยตัดออกไป
‘ป๋อมแป๋ม-นิติ ชัยชิตาทร’
ป๋อมแป๋ม-นิติ เป็นคนอารมณ์ดี มองโลกแง่บวก เพราะมาจากครอบครัวที่อบอุ่น ?
ก็อาจจะเป็นได้ เพราะครอบครัวเรา พ่อ แม่ น้องอยู่ด้วยกัน แต่ก็มีโหมดไม่คุยกับพ่อ เพราะว่าเราเป็น กระเทย ตุ้งติ้งมาตั้งแต่เด็ก แล้วแม่ก็มีวิธีการ ไม่ใช่ปรับความเข้าใจกันนะ ก็บอกพ่อว่าไม่ต้องคุยกับลูก แต่ก็คุยกันเฉพาะจำเป็น เช่น พ่อโทรศัพท์มา ไม่ต้องไปรู้เรื่องของกันและกันเยอะ อยู่บ้านหลังเดียวกันไม่คุย แต่ไม่ทะเลาะ 7-8 ปี แล้วค่อยคลี่คลายตอนโต
พ่อกับแม่เขาจะสอนให้เราทำอะไรเอง อย่างไปโรงเรียนก็ให้กลับบ้านเองตั้งแต่ ป.6 ถึง ม.1 ที่ทำงานพ่อกับแม่ก็อยู่ใกล้โรงเรียนฝั่งตรงข้าม (เรียนสาธิตเกษตร) ตอนนั้นแม่ทำงานอยู่โรงพยาบาลวิภาวดี พ่อทำที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บ้านอยู่รามอินทรา พ่อแม่ไม่ชอบให้เราไปกวนคนอื่น ถ้าเที่ยวติดรถคนนั้นคนนี้กลับก็จะโดนดุ ส่งผลให้เวลามาทำงาน เราไม่เรื่องมาก อะไรก็ได้
เราทำเองได้ เราก็ทำ บอกน้องๆไม่ต้องดูแลพี่มาก อย่างถ่ายละครหมดซีน น้องวิ่งมากางร่มให้ ก็บอกน้องว่าไม่เป็นไร พี่ไม่ร้อน มีน้องผู้หญิงตัวเล็กนิดเดียวสูงเท่านมเรา จะมาช่วยถือกระเป๋า ซึ่งหนักมากในนั้นมีไวน์อยู่สองขวด (หัวเราะ) บอกน้องว่าไม่เป็นไร พี่ถือเอง
อีกอย่างเราเคยเป็นคนทำงานเบื้องหลังมาก่อนเป็น 10 กว่าปี ก็คงติดนิสัยคนเบื้องหลัง เพราะเราไม่ค่อยสปอยพิธีกร(หัวเราะ) ก็คงติดนิสัยไม่ต้องให้ใครมาสปอยเรา
อยากให้เล่าถึงตอนที่ไปบวชสักนิด ตอนนั้นได้ฉายาว่า 'ฐิติโก' (ผู้ตั้งมั่น) ?
บวชเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนบวชไม่ได้มีอะไร จุดประกาย แต่จำได้ตอนที่เป็นเด็ก เราเป็นตุ๊ด ปู่เสีย ที่บ้านเขาก็บังคับให้หลานคนโตบวชหน้าไฟ บวชเช้า สึกเย็น บวชแล้วเราก็นั่งเล่น ไม่รู้สึกอินอะไร นั่งเหม่อลอยคิดถึงผู้ชายบ้าง ละครละเม็งบ้าง ก็มีคุณทวดคนหนึ่งเข้ามากราบเราตกใจรีบรับไหว้ ตอนนั้นรู้สึกแขยงตัวเอง คนเฒ่าคนแก่มากราบ
พอตอนคุณตาเสีย ก็เลยบอกพ่อไปว่าไม่บวช ไม่พร้อม ถ้าพร้อมจะทำเอง ธรรมเนียมแบบนี้ไม่ต้องมาใช้กับเรา ขอเป็นคนดีในชีวิตประจำวัน น่าจะได้บุญมากกว่า
นั่นเป็นเรื่องตอนเด็ก จนกระทั่ง 2 ปีที่แล้วไปดื่มเหล้ากับลูกน้อง หรือเพื่อนนี่แหละ พูดตอนเมาเรื่องบวช ส่วนมากตื่นมามักจะลืม เพราะพูดตอนเมา แต่ปรากฏว่าไม่ลืม นึกถึงเรื่องนี้วนไปมาเป็นสัปดาห์ ก็เลยคิดว่าสงสัยตอนที่พูดคงเป็นจิตใต้สำนึกจริงๆ ไม่ได้พูดไปเรื่อย ก็เลยจัดแจงให้คนสนิทไปหาวัด
โจทย์แรกคือ ไม่อยากบวชในกรุงเทพฯ ไม่อยากรับแขก เพราะเราเองก็เคยไปเยี่ยมเพื่อนที่บวชในกรุงเทพฯ ก็นั่งเมาท์กันถึงคนนั้นคนนี้ จนมาเจอวัดที่ต่างจังหวัด ชื่อวัดเกาะนัมมทาปทวลัญชาราม ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ติดต่อหาฤกษ์ เสร็จแล้วก็แจ้งแม่ ทางโทรศัพท์ น้ำเสียงของแม่ค่อนข้างชื่นใจ
บวชนานไหม แล้วได้อะไรกลับมาบ้าง
บวชอยู่ 2 อาทิตย์ วัดนี้จะมีเทศน์ทุกวันอาทิตย์ ทุกวันพระจะมีสวดปาฏิโมกข์ รับกิจนิมนต์ ใครให้เราช่วยอะไรเราก็ทำ สวดหน้าศพ เราก็ลง แต่บวชเสร็จเราก็ไม่ได้ดวงตาเห็นธรรมอะไรนะ ถามว่าใจเย็นลงไหม ก็ไม่ใช่ เพียงแต่ตอนที่บวชเราห่มจีวร อยู่ในเครื่องแบบพระ ตอนนั้นก็จะรู้ตัวเองว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้
อย่างเช่นไปบวชวันแรก เวลายุงมากัด เราก็จะเผลอตี อ้าว !ตายโหงเราเป็นพระ วันถัดมายุงมาเกาะ แทนที่เราจะใช้สัญชาตญาณในการดำเนินชีวิต เราก็พบว่ามันก็มีโหมดในการใช้สติได้ หรือโหมดที่ทุกอย่างจะช้าลง เวลาลงสวด หรือเทศน์ ไม่มีอะไรให้ฟุ้งซ่านเราต้องโฟกัสตรงนั้น
อยากจะเล่าตอนลงสวดศพ วัดนี้ไม่มีคนตายมาพักใหญ่ๆ พอเราบวชวันแรกมีมา 1 ศพ วันที่ 2 มาอีก 1 ศพ พระไม่พอต้องลง เรายังสวดไม่เป็นเพิ่งบวชวันแรก ก็ใส่แมสลิปซิงค์ ถั่วงา เจ้าภาพมาถวายซอง เรารู้สึกว่าน่าเกลียดจังเลย เมื่อกี้ฉันสวดถั่วงาลิปซิงค์ ก็เลยไปซ้อม โดยคุณป้าซุ้มโค้ก เขาซ้อมให้ตอนบ่ายๆ วันสองวันก็ได้แล้ว
แปลกใจเหมือนกัน ทำไมสวดได้ พอสึกออกมา ก็ไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตเปลี่ยนไป แต่เราได้เจอโหมดหนึ่งของชีวิต ที่ไม่ใช่โหมดสัญชาตญาณ ถ้าต้องการมีสติ ดึงโหมดนี้มาใช้ได้ ตัดปัจจัยรอบข้างออกไป ตลอดเวลาที่บวช เราไม่ใช้มือถือเลย อาจจะมีบ้าง อ่านไลน์ ก็คือมีธุระ
นอกจากเลี้ยงกระต่าย งานอดิเรกมีอะไรอีก
คือนอนค่ะ กระต่ายไม่นับว่าเป็นงานอดิเรก เป็นสัตว์เลี้ยง ถ้าเราอยู่บ้าน เราก็เปิดกรงทิ้งไว้ แล้วนอนดูหนัง เขาก็จะวิ่งขึ้นมาบนตัว ไม่ได้พาไปเดินเล่น เพราะกระต่ายไม่ชอบอยู่แล้ว
งานอดิเรกตอนนี้ทำกับข้าว ทำขนมบ่อยๆ รู้สึกอินขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเทนนิสตอนนี้ก็เริ่มตีหนัก 2 ทุ่มก็ไปกินเหล้า (หัวเราะ)เปิดบาร์ไง มี Mutual Bar สุขุมวิท 24 และ OFTR Bar สุขุมวิท 31 และมีที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ด้วย ช่วงโควิดหนีตายไปอยู่กับแก๊งค์นักเซิร์ฟ จริงๆ ตอนนี้เวลาไม่ค่อยมีหรอก ถ้ามีปุ๊บ ขอนอน ของีบ
มีอะไรที่อยากทำ แล้วยังไม่ได้ทำอีกไหม?
ยังนึกไม่ออก อยากเยอะไปหมด ก็ค่อยๆ หักๆไป อันไหนที่ไม่ใช่จริงๆ คงต้องบ๊ายบาย ตอนนี้ต้องเขียนบทหนังให้เสร็จ เป็นซีรีย์ 6 ตอน เฟสแรก 20 เปอร์เซ็นต์เรียบร้อยแล้ว และยังมีหนังที่จะไปช่วยเขา ก็กำลังจะเริ่มตุลาคมนี้เรื่อง เพื่อน(ไม่)สนิท หนังของ GDH ช่วงเมษายน- พฤษภาคม
ทำเชฟเทเบิ้ลการกุศล มูลนิธิเดอะวอยส์เพื่อช่วยเหลือหมาและแมว เอาเพื่อนเลอ กอร์ดอง เบลอมาช่วย ไม่หักค่าใช้จ่ายเลย เรื่องที่ดีสู้คนอื่นไม่ได้คือทำอาหาร อะไรวางตรงไหน หยิบอะไรเรียงอะไร เราทำได้ดี แต่พออยู่หน้าเตารู้สึกเรางกๆเงิ่นๆ
อีกอย่างที่อยากทำคือ เคยเขียนหนังสือเล่มแรก มะงุมมะงาหรา ขายดี ได้พิมพ์หลายครั้ง เก็บไว้ภูมิใจ เป็นการรวมคอลัมน์ที่เราเขียนในนิตยสารเปรียว 3 ปี เล่มสองที่จะเขียนบอกเลยเริ่มจากศูนย์ อยากทำแต่ยังไม่รู้ว่าจะเขียนอะไร เพราะไม่อยากเล่าเรื่องของตัวเอง อยากให้เห็นมุมมอง ทัศนคติที่เราค่อนข้างภูมิใจในตัวเอง เพราะเราค่อนข้าง เป็นคนที่ไม่โกรธโลก เป็นคนที่ หาความสุขในชีวิตได้ง่าย ก็เลยรู้สึกอยากถ่ายทอดออกมาเป็นหนังสือ แต่ก็ยังไม่ได้เริ่ม ยังนึกไม่ออก
แสดงว่าเราเป็นคนไม่ค่อยโมโห ไม่ค่อยโกรธใคร
โมโหบ่อย โกรธก็บ่อย แต่ก็จะไปด้วยความรวดเร็ว รู้สึกตัวแล้วตั้งใจว่าจะไม่ทำอีก แล้วก็ไม่ทำจริงๆ คือการด่า หรือบ่น ลงโซเชียลมีเดีย เราเคยทำ เหมือนได้พ่น ได้ระบาย รู้สึกสะใจ แต่ว่าไม่ได้ช่วยให้มีความสุขขึ้น พอเรามาอ่านที่เคยเขียนไปก็รู้สึกว่า เออ !เราก็โชว์โง่ไปเหมือนกันเนอะ ไม่ได้ฉลาดเลย แค่อยากเอาชนะ
หยุดเล่นเฟซบุ๊คไป 10 ปี พอหยุดเล่น รู้สึกว่าเราอารมณ์ดีขึ้น อารมณ์เสียน้อยลง หรืออารมณ์เสียก็จะเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับลง ในเวลาอันรวดเร็ว ไม่ใช่คนที่ไม่โกรธ ไม่อารมณ์เสีย เป็นธรรมดาของมนุษย์ แต่เราไม่จำเป็นต้องประกาศเรื่องนี้ให้คนอื่นต้องอารมณ์เสียไปด้วย บางครั้งมีเรื่องหงุดหงิด เราก็บ่นออกมาพรวด ก็สบายใจแล้ว ไม่ต้องขอความเห็น
หนังสือเล่มถัดไป ก็คงจะพูดเรื่องนี้ อยากจะพูดเรื่องการส่งต่อความสุขเล็กๆน้อยๆ เพราะบางทีคนเราอย่าไปคาดหวังความฝันอันยิ่งใหญ่ สุขง่ายๆ ตอนปวดท้อง มันคือความไม่สุข พอถ่ายออกหมดท้อง มันคือความสุข
บางคนไม่ได้มองตรงนี้ ไม่ได้เห็นว่ามันเป็นความสุข คนอื่นไม่รู้สึกไม่เป็นไร แต่สำหรับเรา วันนี้ชงกาแฟแล้วพอดีจัง ก็มีความสุข ไม่ได้มโน โลกสวยหรืออะไร มันคือความสุขที่อยู่ตรงหน้า อยู่ที่เราลืมมองหรือเลือกที่จะลืมมองหรือไม่ได้สนใจหรือเปล่า กาแฟที่อร่อย ไม่ได้เป็นอากาศธาตุ มันวางให้เราเห็นอยู่ แต่เราไม่ได้ชื่นชม (Appreciate) มันเอง
ย้อนมาเรื่องชีวิตการทำงาน เริ่มจากตำแหน่งครีเอทีฟที่แกรมมี่?
ใช่ เป็นครีเอทีฟรายการไฟว์ไลฟ์ (ปีพ.ศ 2545) และรายการเกมฮอตเพลงฮิต รายการ OIC และมี รายการคอซองเกม ไปช่วยเขาเขียน แล้วย้ายไปช่วยบริหารช่อง Bang Channel จนได้มาทำรายการ เทยเที่ยวไทย เพิ่งจบไป เพราะทำมาทั้งหมด 12 ปี เราได้รับสิ่งที่สมควรได้รับมาเยอะ เกินฝัน เป็นฝันที่ไม่กล้าฝัน พิธีกรเองก็มีงานการอย่างอื่น มีชื่อเสียงมีรางวัล
ก็เลยพร้อมที่จะส่งไม้ต่อให้ LGBT รุ่นหลัง เพราะแต่ละคนก็เริ่มแก่แล้ว เหนื่อยเกินที่จะไปตะลอนเที่ยว กอล์ฟ ก็อตจิ เจนนี่ เขาก็มีที่ทางเหมาะสม คนทั่วไปก็ยอมรับในความสามารถ ความจริงเราก็ยังเจอกันดื่มเหล้า กอล์ฟ ก็อตจิก็เป็นพนักงานยังเจอกันในบริษัท
ตอนนี้เฉพาะงานที่ต้องทำมีอะไรบ้าง
ตอนนี้ยังทำรายการ ทอล์ก กะ เทย และรายการ รถ 2 แต๋ว ทำกับเจนนี่ ปิงปอง มาดามมด หลังจากเลิกทำรายการเทยเที่ยวไทย ก็จะกลับมาทำรายการสดที่เราไม่ได้ทำมาพักใหญ่ ยังมีพื้นที่ให้สนุกอีกเยอะ ชื่อรายการ GMMTV LIVE HOUSE เริ่มวันที่ 4 กันยายน 2566 นี้เป็นเทปแรก เป็นรายการสดทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เวลา 22.00 น. ทางช่อง You Tube: GMMTV
แล้วเรื่องการแสดงยังรับอยู่ไหม
ก็ยังรับอยู่ค่ะ ปลายปี 2565 มีติดต่อเข้ามาชนกัน ตอนไม่มีก็ไม่มี๊ (เสียงสูง) สี่คนที่มาชวน เป็นคณะผู้จัดที่เราอยากทำงานร่วมกับเขามาแต่ไหนแต่ไร แต่ละงานก็น่าสนใจ อย่าง มาตาลดา คุณจ๋า (ยศสินี ณ นคร) ก็เป็นเพื่อนกัน ชวนไปรับบท คิตตี้ เห็นบทแล้วก็คิดถึงเราเลย เล่นกับเต้ย (จรินทร์พร จุนเกียรติ)ก็เป็นเพื่อนกันอีก
และมีละครเรื่อง รักร้าย ของพี่ปุ๊ย ผอูน จันทรศิริ เจอกันบ่อยแต่ไม่เคยทำงานด้วยกัน เป็นรุ่นพี่อักษร จุฬาฯ ด้วย ติดตามกันมาตั้งแต่ 3 คนอลเวง และมีเรื่อง สืบลับหมอระบาด มีณเดชน์ กับน้องคิมเบอร์ลี่ ซึ่งพี่อ้อม (พิยดา อัครเศรณี) ก็นับถือกัน ให้เราเล่นละคร 2 เรื่องติดกัน เขาเป็นนักแสดงมืออาชีพ ค่อนข้างเข้มงวด มีวิธีคุมการแสดงที่เราอยากหาประสบการณ์
แล้วยังมีหนังเรื่อง ลอง ลีฟ เลิฟว์ เข้ามาอีก มุก-ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ (ผู้กำกับซิทคอมเนื้อคู่ประตูถัดไป) ก็เป็นเพื่อนกันอีก แอบนัดมาแล้ว ยื่นบทให้เอาไปอ่านก่อน เขาบอกว่าตอนที่เขาเขียน ๆไป หน้าเราออกมาเรื่อยๆ แล้วผลงานก็ออกมาใกล้ๆ กัน ตอนนี้รู้สึกชอบการแสดง
ตอนนี้มีละครที่กำลังถ่ายอยู่ไหม
ปีนี้ยังไม่รับ คงจะเริ่มปีหน้า ถ้าเลือกได้ บทที่เล่นเป็นพี่ป๋อมแป๋ม ‘กระเทย’ แบบเดิม ตลกขบขัน ก็คงไม่อยากเล่น เพราะเคยทำมาแล้ว และคนก็เห็นมาแล้ว ถ้าถามว่าอยากเล่นบทไหนบ้าง ก็คือบทพีเรียด ซึ่งตอนนี้เราก็แก่พอ ตัวของเราก็พีเรียดพอแล้วล่ะ (หัวเราะ) อยากเล่นเป็นผู้ชายบ้าง แต่ไม่ใช่ผู้ช๊ายผู้ชาย มีเมียนะ เอาแค่บทที่เราไม่ต้องตุ๊ดขนาดนั้นก็ได้ หรือ เป็นเกย์ธรรมดาก็ได้ ไม่ใช่อ๊าย (ทำท่าประกอบ)เพราะตัวเรายังมีอีกโหมดหนึ่ง
‘ป๋อมแป๋ม-นิติ’ สุขง่ายๆ ไม่โกรธโลก