หนังน่าดูในเทศกาล HONG KONG INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2024

หนังน่าดูในเทศกาล HONG KONG INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2024

เทศกาล HONG KONG INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2024 กับจุดเด่นในการกวาดหนังดี หนังเด็ด ที่บรรจุอยู่ในโปรแกรมการฉายของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติอื่น ๆ มาให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับชมกัน

ในขณะที่บ้านเรากำลังเฝ้ารอการกลับคืนมาของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ทางฮ่องกงเขาก็ได้ประกาศศักดาจัดงานเทศกาล Hong Kong International Film Festival 2024 ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 8 เมษายน ค.ศ. 2024 ไปเป็นที่เรียบร้อย

ตลอดระยะเวลา 12 วันเต็ม ๆ ของเทศกาล ก็มีหนังสั้นยาวเด่น ๆ ดี ๆ จากทุกมุมโลกมาร่วมฉายในโปรแกรมต่าง ๆ โดยจากจำนวนทั้งหมดกว่า 100 เรื่อง ก็มีหนังไทยเราร่วมขบวนด้วยจำนวน 1 เรื่องถ้วน นั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง RedLife ของผู้กำกับ เอกลักญ กรรณศรณ์ ซึ่งได้ลงโรงฉายในบ้านเราไปโดย RedLife ร่วมฉายในสายเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Fantastic Beats เล่าชีวิตเยาวชนคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย กับหนังเรื่องอื่น ๆ อย่าง 18x2 Beyond Youthful Days (2024) ของ Fujii Michihito, Masked Hearts (2023) ของ Ishii Yuya, Gold Boy (2023) ของ Kaneko Shusuke หรือ Between the White Key and the Black Key (2023) ของ Tominaga Masanoriแล้วตั้งแต่ปีกลาย และหลาย ๆ คนคงได้ดูกันแล้ว

สำหรับหนึ่งในหนังไฮไลท์เด็ดของงานเทศกาลในปีนี้ ก็ได้แก่หนังมหากาพย์สีขาวดำความยาวรวม 3 ชั่วโมง 35 นาทีเรื่อง Essential Truths of the Lake ของผู้กำกับฟิลิปปินส์ Lav Diaz ซึ่งได้เข้าประกวดในสายหนังนานาชาติที่เทศกาล Locarno Film Festival ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปีกลาย

 

หนังน่าดูในเทศกาล HONG KONG INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2024

 

ตัวละครหลักใน Essential Truths of the Lake ก็ยังคงเป็นร้อยโทตำรวจคนดีย์นาม Hermes Papuaran (แสดงโดย John Lloyd Cruz) ซึ่งเคยปรากฏตัวมาก่อนในหนังขาวดำความยาว 3 ชั่วโมง 7 นาที เรื่อง When the Waves Are Gone (2022) ของ Lav Diaz เอง โดยในเรื่องนี้ร้อยโท Hermes ได้คะยั้นคะยอเจ้านายของเขาให้เปิดคดีฆาตกรรมอำพราง ‘นางอินทรี’ ฟิลิปปินส์ Esmeralda Stuart นักกิจกรรมหญิงที่ถูกสังหารอย่างเป็นปริศนาเมื่อ 15 ปีที่แล้วกลับมาสอบสวนกันใหม่

 

โดยเขาอาสารับหน้าที่หาเบาะแสและพยานหลักฐานเพื่อควานหาตัวฆาตกรมาให้ได้ ภายใต้การบริหารงานอันอำมหิตโหดเหี้ยมโดยการวิสามัญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวพันกับการค้ายาของประธานาธิบดี Duterte ท้าทาย Hermes ว่าเขาจะเป็นตำรวจคนดีย์ผู้ตงฉินได้ไหมภายในรัฐบาลที่คอร์รัปกันขนาดนี้

 

 

ตลอดความยาวของหนังที่ถ่ายทอดกันด้วยภาพขาวดำกันตลอดทั้งเรื่อง จึงเรียงรายไปด้วยฉากการสัมภาษณ์พูดคุยของร้อยโท Hermes กับผู้ให้เบาะแสหรือร่องรอย ร้อยเรียงกับฉากนิมิตฝันแฟนตาซีที่นักกิจกรรม ‘นางอินทรี’ จะได้ปรากฏกายกับเหล่าสหายสยายปีกในสภาพไร้อาภรณ์กันอีกครั้ง แม้ยิ่งเขาไต่สวนก็จะยิ่งสิ้นหวัง ยิ่งห่างไกลจากทางสว่างว่าเขาจะไขคดีนี้ได้ในความมืดดำที่ยิ่งคว้าก็ยิ่งคลำหาอะไรไม่เจอ

 

หนังอาจจะมีจังหวะการเล่าที่ทอดน่องเอ้อระเหย เย้ยหยันขนบการเล่าของหนังแนวสืบสวนสอบสวนโดยทั่วไป แต่ในเรื่องของการกำกับภาพขาวดำของ Lav Diaz อันนี้คือว่าไม่ได้ เขาสามารถวางองค์ประกอบภาพให้งดงามจนน่าติดตามไปเสียทุก shot ทุก frame เรียกได้ว่า ต่อให้สุ่มภาพมา ณ วินาที ก็สามารถใช้เป็นภาพนิ่งประชาสัมพันธ์ได้โดยไม่ต้องเลือกอะไรกันอีก!

 

หนังน่าดูในเทศกาล HONG KONG INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2024

 

หนังที่น่าสนใจกลุ่มต่อมา เป็นงานในสาย Kaleidoscope กลุ่ม Midnight Heat ที่ถึงแม้จะไม่ได้ฉายรอบมิดไนท์ แต่แต่ละเรื่องก็มีความป่วนร้ายอันเป็นลีลาลวดลายเฉพาะของหนังเทศกาลสาย Midnight เขาหละ ซึ่งเรื่องที่ดูจะเป็นที่สนใจของผู้ชมในฮ่องกงอย่างคึกคักก็เห็นจะเป็นหนัง biopic ชีวประวัติที่จิกกัดบุคลิกอันสุดแอบเสิร์ดของจิตรกรสเปนสายเซอร์เรียล Salvador Dali ในหนังเรื่อง Daaaaaali! ของผู้กำกับฝรั่งเศส Quentin Dupieux

 

หนังน่าดูในเทศกาล HONG KONG INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2024

 

เนื้อหาเรื่องราวของ Daaaaaali! จับเหตุการณ์ไปที่ปฏิบัติการโกลาหลของ Judith นักข่าวสาวชาวฝรั่งเศสที่นัดพบกับท่าน Salvador Dali ณ โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง เพื่อเตรียมการสร้างหนังสารคดีที่ดูทีท่าแล้วไม่น่าจะทำออกมาได้สำเร็จเลย โดยหนังเน้นเล่าเรื่องราวเป็นสะเก็ดเหตุการณ์ในช่วงชีวิตต่าง ๆ ของ Salvador Dali เพื่อสำรวจว่าเขามีประสบการณ์เช่นใดที่หล่อหลอมให้เขามีบุคลิกเพี้ยนพิลึกเช่นนี้

 

หนังมีนักแสดงชายถึง 5 คนมารับบทบาทเป็น Salvador Dali ในสถานการณ์และช่วงวัยต่าง ๆ ได้แก่ Edouard Baer, Jonathan Cohen, Gilles Lellouche, Pio Marmai และ Didier Flamand เพิ่มความโกลาหลจนแทบจะจับต้นชนปลายอะไรไม่ได้ของเรื่องราว

 

ส่วนงานด้านภาพก็แพรวพราวไปด้วยการอ้างอิงงานภาพเขียนแนวเซอร์เรียลชิ้นดัง ๆ หลาย ๆ ชิ้นของ Salvador Dali โดยเฉพาะ motif ไม้ค้ำ แถมยังนำลีลาเหนือจริงในแบบผู้กำกับ Luis Bunuel มาทำให้หนังเป็นคล้ายภาพฝันร้ายในยามเวลาเที่ยงคืนกันเสียจริง ๆ!

 

 

หนังสาย Midnight Heat อีกเรื่องที่เฮี้ยนพอ ๆ กันก็คือ Aggro Dr1ft ของผู้กำกับอเมริกัน Harmony Korine ที่เล่าเรื่องราวชีวิตการทำงานและส่วนตัวของมือปืนจอมโหดนาม Bo ในไมอามี ที่แม้ว่าโดยหน้าที่แล้วเขาจะเป็นนักฆ่าที่มีใจอำมหิตโหดเหี้ยมเพียงไร แต่จุดที่จะทำให้เขาใจอ่อนได้ก็คือครอบครัวที่เขารักดังดวงใจ และจะไม่ยอมให้ใครมาแผ้วพานทำร้ายได้ แล้วเขาจะปฏิบัติภารกิจครั้งล่าสุดนี้ได้หรือไม่หากยังมีบ่วงภายในอันนี้อยู่

 

หนังน่าดูในเทศกาล HONG KONG INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2024

 

เนื้อหาอาจจะดูไม่หนีไปจากหนังอาชญากรรมที่เราเคยดูกันโดยทั่วไป แต่สิ่งที่แปลกใหม่คือหนังเรื่องนี้มีการใช้กล้องจับอุณหภูมิ หรือ thermal camera มาถ่ายทำกันตลอดทั้งเรื่อง ภาพฉากและตัวละครจึงจะดูเรืองแสงจากการ tint ย้อมละเลงสีสันกันด้วยงาน special effect กันอีกต่อ จนผู้จัดต้องขอมีคำเตือนกันเลยว่า ผู้ชมอาจรู้สึกปวดตาได้หากนั่งชมหนังไปตลอดความยาว 81 นาที!

 

 

ความโดดเด่นอย่างหนึ่งของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติแห่งฮ่องกง ก็คือการกวาดเอาโปรแกรมเด็ด ๆ ดี ๆ จากเทศกาลพรีเมียร์แห่งอื่น ๆ มาให้ทั้งชาวฮ่องกงและคอหนังต่างชาติที่เดินทางมาได้รับประสบการณ์เหมือนได้เยือนเทศกาลเหล่านั้นจริง ๆ

 

อย่างหนังในสายประกวดรอง Encounters ของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเบอร์ลินเมื่อต้นปี ก็ยกทัพมา Asian premier ที่นี่กันอย่างคับคั่ง

ทั้งสารคดีเล่าความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างคุณครูกับนักเรียนระดับประถมศึกษาจากออสเตรีย เรื่อง Favoriten ของผู้กำกับหญิง Ruth Beckermann ที่ติดตามการทำงานของคุณครู Ilkay กับลูกศิษย์ทั้งชั้นเรียนจำนวน 25 คน สอนครบทุกวิชาตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่สาม ขึ้นปีที่สี่ กระทั่งถึงปีที่ห้า รวบสามปี ที่แต่ละคนก็ใช่ว่าจะพูดภาษาเยอรมันกันได้ เพราะบางคนก็มาจากครอบครัวทั้งชาวตุรกี ซีเรีย และเซอร์เบีย ทำให้ครู Ilkay ต้องเสียสละเวลาให้กับการพัฒนาของลูกศิษย์ในช่วงวัยที่พวกเขาเติบโตกันแบบติดจรวด

 

หนังน่าดูในเทศกาล HONG KONG INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2024

 

หนังสารคดีเรื่องนี้ใช้เวลาถ่ายทำเพื่อติดตามเรื่องราวของครูและศิษย์ในชั้นเรียนนี้ตลอดระยะสามปีตามเวลาจริง ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องจากลา จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ทั้งคนในจอและนอกจอจะต้องบ่อน้ำตาแตก ซาบซึ้งไปกับความผูกพันที่ใกล้ชิดราวกับเป็นเครือญาติและไม่มีวันที่จะตัดขาดอะไรกันได้เลย

นับเป็นสารคดีน่ารัก ๆ มีเนื้อหาหลักที่เป็นสากลจนชนะใจผู้ชมได้ไม่ว่าจะตระเวนไปฉายที่เทศกาลไหน ๆ

 

หนังน่าดูในเทศกาล HONG KONG INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2024

 

หนังสาย Encounters เรื่องต่อมาก็เป็นงานจากเอเชียบูรพาเรื่อง Some Rain Must Fall ของผู้กำกับ Qiu Yang จากจีนแผ่นดินใหญ่ เล่าเรื่องราววิกฤติวัยกลางคนของ Cai ภรรยาและมารดาวัย 45 ปี ที่ชีวิตปัจจุบันเธอก็เซ็งชีวิตคิดจะทำอะไรก็ไม่อาจหาความสุขได้จนแทบจะเฉาตายกันอยู่แล้ว ยังมาเจอเหตุการณ์ที่เธอขว้างลูกบาสเก็ตบอลในงานแข่งของลูกสาวไปโดนหญิงชราจนต้องเข้าโรงพยาบาลกลายเป็นอุบัติเหตุบานปลายให้ชีวิตเธอยุ่งเหยิงเข้าไปอีกเหมือนชีวิตไม่อาจจะหลบหลีกความซวยไปได้เลย!

 

หนังน่าดูในเทศกาล HONG KONG INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2024

 

หนังให้ภาพตัวละครในช่วงวิกฤติเซ็งชีวิตที่นักแสดงนำติดจะเล่นด้วยอารมณ์เดียวมาดเดียวจนดูพยายามไปสักหน่อย จนไม่ค่อยเห็นมิติอันหลากหลายของตัวละครที่น่าสนใจรายนี้นัก

 

ส่วนเรื่อง Ivo ของผู้กำกับเยอรมัน Eva Trobisch จากสายเดียวกัน ตัวละครหลักที่ชื่อ Ivo ก็ทำงานแบบเดียวกันกับ ‘มุ่ย’ ในหนังไทยเรื่อง ‘หลานม่า’ ที่กำลังเข้าฉายในบ้านเราเลย

เธอเป็นพยาบาลที่ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย แต่รายได้หลักไม่ได้มาจากค่าตอบแทนรายชั่วโมง หากเป็นเงินประกันว่าถ้าวันไหนเธอไม่ต้องดูแลผู้ป่วยรายใดแล้ว เธอจะมีรายได้จากเงินประกันเลี้ยงตัวเองไปได้อีกพักใหญ่ ๆ 

กระทั่งวันหนึ่ง Ivo ได้ไปทำงานดูแลพยาบาลหญิงสาวฐานะดี Solveigh ที่ป่วยหนักและจะมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน Ivo จึงจัดการตีท้ายครัวแอบไปมั่วกับสามีของคนไข้รายนี้ วันดีคืนดี Solveigh จึงเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจาก Ivo ว่าช่วยทำการุณยฆาตปลดปล่อยเธอไปจากความทรมานครั้งนี้เสียที แล้ว Ivo จะตัดสินใจทำอย่างไร?

 

หนังน่าดูในเทศกาล HONG KONG INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2024

 

หนังวัดใจตัวละครกันด้วยคำถามทางศีลธรรมมากมาย โดยเฉพาะเมื่อ Ivo เลือกทำหน้าที่นี้เพียงเพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเอง โดยไม่ได้มีจิตใจใส่ใจดูแลคนไข้ของเธอให้หายจากโรคร้ายที่เป็นอยู่

 

หนังอีกเรื่องจากสาย Encounters เทศกาลเบอร์ลินที่มา Asian premier กันในเทศกาลนี้ ได้แก่ Arcadia ของผู้กำกับ Yorgos Zois จากกรีซ เล่าเรื่องราวของแพทย์ด้านประสาทวิทยาหญิงกับสามีแพทย์เกษียณอายุราชการของเธอ ที่ถูกเรียกตัวมาชันสูตรกรณีอุบัติเหตุรถยนต์วิ่งชนเชิงเทินสะพานจนตกน้ำ จนพวกเขาพบเงื่อนงำที่ทำให้รู้ว่า เหยื่อไม่น่าจะมีเพียงแค่คนเดียว

ฝ่ายหญิงได้เบาะแสข้อมูลมากขึ้นเมื่อเธอรู้ว่าบาร์ลับริมหาด ณ พื้นที่ละแวกนั้น แท้แล้วเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของสมาคมนิยมเซ็กซ์หมู่ จากเหตุการณ์ที่ดูจะเป็นอุบัติเหตุธรรมดา จึงมีอะไรมากกว่าสิ่งที่สองสามีภรรยาคู่นี้เห็นอย่างแน่แท้

 

หนังน่าดูในเทศกาล HONG KONG INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2024

 

 

หนังตีแผ่เรื่องราวลึกลับดำมืดด้วยภาพบรรยากาศอันขมุกขมัวสลัวรางของเมืองกลางแหล่งท่องเที่ยวริมทะเลของประเทศกรีซได้อย่างแสนหลอน เสียแต่ตัวละครทั้งหมดออกจะดูนิ่งเซื่องไปตลอดทั้งเรื่องจนคนดูอาจไม่รู้สึกอยากรู้หรืออยากลุ้นตามสักเท่าไหร่ ทั้ง ๆ ที่ตัวหนังเองก็มีปริศนาแฝงซ่อนเอาไว้อย่างมากมาย

 

ส่วนหนังที่น่าจะเรียกได้ว่า ‘ได้ใจ’ ผู้ชมไปมากที่สุดเรื่องหนึ่งในเทศกาล Hong Kong International Film Festival ในครั้งนี้ ก็เห็นจะเป็นหนังขาวดำเรื่อง Tatami ของสองผู้กำกับอิสราเอล-อิหร่าน Guy Nattiv และ Zar Amir ที่ได้เปิดตัวในสาย Orizzonti ที่เทศกาลเวนิสเมื่อปีกลาย

เล่าเรื่องราวชวนอกสั่นขวัญหายระหว่างการแข่งขันยูโดชิงแชมป์โลกจากอิหร่าน เมื่อนักกีฬาสาว Leila และโค้ชหญิงของเธอ Maryam ผ่านเข้ารอบได้เดินทางไปชิงเหรียญทอง ณ ต่างประเทศในนามอิหร่าน ทางการกลับออกคำสั่งให้ Leila แกล้งประสบอุบัติเหตุและถอนตัวจากการแข่งขัน

โดยเหตุผลสำคัญคือในการเข้าชิงเหรียญทอง Leila จะต้องประลองฝีมือกับทีมอิสราเอลคู่แข่ง และถ้า Leila แพ้ขึ้นมามันจะเป็นเรื่องเสียหน้าระดับนานาชาติอย่างรุนแรง รัฐบาลจึงต้องแถลงนโยบายให้ตัดไฟแต่ต้นลม

คำสั่งนี้สร้างความขื่นขมให้ Leila อย่างเหลือหลาย และแม้ว่าโค้ช Maryam จะพยายามกล่อมให้เธอยอมทำตามอย่างไร แต่นักสู้อย่าง Leila ก็จะไม่ยอมทรยศความตั้งใจของตัวเองเหมือนกันไม่ว่าจะต้องแลกมันมาด้วยอะไรก็ตาม!

 

หนังน่าดูในเทศกาล HONG KONG INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2024

 

 

บทหนังเอาเหตุการณ์ความจริงที่เคยขึ้นกับนักกีฬาชาวอิหร่านหลาย ๆ ทีมที่เคยเจอสถานการณ์แบบเดียวกันมาตีแผ่ให้เห็นอย่างน่าเศร้าว่าพวกเขาเคยถูกย่ำยีศักดิ์ศรีกันอย่างไรภายใต้คำขู่จากรัฐบาลประเทศตนเอง และแน่นอนหนังเรื่องนี้มิได้สร้างขึ้นและส่งประกวดเทศกาลในนามประเทศอิหร่าน แต่ถือเป็นผลงานจากสหรัฐอเมริกาที่มีชาวอิสราเอลและอิหร่านร่วมเป็นผู้กำกับเท่านั้น!

 

ปิดท้ายกันด้วยหนังฝรั่งเศสจากสาย Un Certain Regard เมื่อปีกลาย ได้แก่ All to Play For ของผู้กำกับ Delphine Deloget โดยได้นักแสดงดัง Virginie Efira มารับบทบาทเป็น Sylvie คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่อาศัยอยู่กับบุตรชายวัยรุ่นและกำลังจะเป็นวัยรุ่นสองนาย

กระทั่งคืนหนึ่งขณะที่คุณแม่ต้องปิดโทรศัพท์ออกไปทำงานนอกบ้าน Sofiane ลูกชายคนเล็กเกิดหิวอยากจะกินเฟรนช์ฟรายจึงแอบจุดไฟตั้งกระทะทอดกินเอง ปรากฏโดนน้ำมันร้อนลวกจนแดงไหม้ไปทั้งหน้าอก เดือดร้อนพี่ชายต้องจับใส่รถเข็นวิ่งไปโรงพยาบาล เมื่อมารดาได้ข่าวก็รีบบุกไปโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทันการณ์เมื่อการปล่อยปละละเลยครั้งนี้ทำให้หน่วยพิทักษ์เด็กต้องนำตัว Sofiane ไปดูแล

เมื่อฝ่ายผู้เป็นแม่มีท่าทีที่ไม่สามารถจะทำหน้าที่ผู้ปกครองได้ไหว Sylvie จึงจำเป็นต้อง ‘สู้ตาย’ ทำทุกวิถีทางให้ได้บุตรชายเธอคืนมา

 

 

หนังน่าดูในเทศกาล HONG KONG INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2024

 

แม้ว่าสถานการณ์จะชวนให้รู้สึก ‘มืดแปดด้าน’ อย่างไรก็ตาม หนังเล่าชีวิต single mom ที่โดยโครงเรื่องแล้วก็อาจจะไม่มีอะไรใหม่ แต่สุดท้ายคนทำหนังชาวฝรั่งเศสก็ยังสามารถใส่รายละเอียดที่แตกต่างทำให้หนังดูแปลกออกไปได้

เพราะอย่างน้อย ๆ เราก็ยังไม่เคยเห็นภาพชีวิตของตัวละครที่ต่างบุคลิกไปเหล่านี้ ในขณะที่ลีลาการกำกับก็ยังคงยึดมั่นกับความสมจริงยิ่งยวดแบบ cinema vérité ในทุกภาคส่วนอยู่ จนไม่มีอะไรที่ดู ‘ผิด’ หรือ ‘ปลอม’ เลย!