จากช่างทำกีตาร์สู่ยูทูบเบอร์ 'หรั่ง พระนคร' : เส้นทางที่ทำเพื่อผู้พ้นโทษ
อีกเรื่องราวของนักโทษกลับใจ หรั่ง พระนคร เมื่อพ้นโทษแล้ว นอกจากเป็นช่างทำกีตาร์ ยังเป็นยูทูบเบอร์ ช่วยเหลือคนพ้นโทษเท่าที่จะทำได้
เมื่อ 12 ปีที่แล้ว หรั่ง พระนคร -อัครินทร์ ปูรี นักโทษคดียาเสพติดพ้นโทษเดินออกจากเรือนจำ โดยไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตต่ออย่างไร กระทั่งมีคนให้ที่พักและโอกาสฝึกอาชีพ เขาเลือกเรียนรู้การทำกีตาร์และศึกษาด้วยตัวเองรวมๆ กว่า 4 ปี จนมีแบรนด์ของตัวเอง
จากนั้นผันตัวมาเป็นยูทูบเบอร์ มีรายการ หรั่งพระนคร Official (น.ช.ไม่ทิ้งกัน) นำเสนอเรื่องราวผู้ต้องขังที่พ้นโทษ แล้วหันมาประกอบอาชีพสุจริตเลี้ยงตัวเอง โดยมียอดผู้ติดตามกว่า 2 แสนคน
อดีตนักโทษขาใหญ่คนนี้ถูกจองจำตั้งแต่อายุ 14 ปี ติดคุกรวมๆ 9 ครั้ง อยู่ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน 7 ครั้ง และเรือนจำ 2 ครั้ง ชีวิตดูเหมือนไร้ค่า ไม่มีอนาคต มีเพียงสิ่งเดียวที่เลือกได้ คือ การเปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่ดี จนเป็นที่ยอมรับในสังคม
"ผมถูกตีตราว่า คงจบชีวิตในคุก เพราะพฤติกรรมของเรา ตอนนั้นเหมือนคนว่างเปล่า ไม่มีศาสนา คนทำผิดแบบผม ชีวิตไม่น่าจะมีคุณค่า ทำร้ายพ่อแม่ และคนในคุก
แต่พี่น้องคริสเตียนให้โอกาสผม ทำให้รู้สึกว่า ชีวิตยังมีคุณค่า เมื่อออกจากคุก ยังให้โอกาสผมเรียนทำกีตาร์กับครูแหลม 6 เดือน ผมค่อยๆ พัฒนาฝีมืออีก 4 ปี หลังจากนั้นผมมาทำเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเอง 8 ปี คนก็ยอมรับ จนมีช้อปกีตาร์ในออนไลน์แบรนด์หรั่ง พระนคร”
ช่างทำกีตาร์แบรนด์หรั่งพระนคร
เกือบ10 ปีที่หรั่งถูกจองจำในเรือนจำ ช่วงแรกๆ ตั้งตัวเป็นพี่ใหญ่ เพื่อปกป้องตัวเองไม่ให้ถูกทำร้าย หลายคนมองว่า เขาคงไม่มีอนาคตแต่ความศรัทธาในคริสต์ศาสนา และกำลังใจจากเพื่อนๆ ในโบสถ์ ทำให้เขาค่อยๆ ปรับเปลี่ยนวิธีคิด
"ช่วงแรกๆ ที่พ้นโทษ คนจากมูลนิธิบ้านพระพร องค์กรคริสเตียนให้ที่พักและให้โอกาส ผมได้เรียนทำกีตาร์กับครูแหลม ซึ่งต่างจากยุคที่ผมอยู่ในเรือนจำ มีแค่ขังลงโทษมากกว่าพัฒนาคน เป็นยุคป่าเถื่อน แก่งแย่งชิงดีกัน ทะเลาะกัน ไม่มีการสอนอาชีพ อย่างมากแค่พับถุง ไม่สามารถทำให้คนพ้นโทษออกมาประกอบอาชีพได้
ผมไม่มีความรู้ใดๆ เลย ตอนเรียนทำกีตาร์ จึงเรียนจริงจัง เพราะรู้ว่าทำเป็นอาชีพได้ เมื่อเรียนจนได้พื้นฐานการทำกีตาร์จากครู ก็มาหัดทำเรียนจากยูทูบ
แล้วมาเรียนกับครูนิด ช่างทำกีตาร์เพิ่มเติม ผมบอกครูนิดว่า ผมเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ อยากได้เทคนิคพิเศษ ครูก็สอนผม ให้โอกาสได้พัฒนาฝีมือ"
เรียนรู้จนเชี่ยวชาญ และได้เป็นช่างทำกีตาร์มืออาชีพ มีแบรนด์ชื่อหรั่ง พระนคร ทำรายได้จากการทำกีตาร์ตัวละไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นบาท และคนสั่งทำต้องจองคิวล่วงหน้า เพราะใช้เวลาในการทำหลายเดือน
นอกจากนี้ยังมองว่า เยาวชนจำนวนมากมีรายได้น้อยอยากได้กีตาร์ราคาไม่แพง หรั่งจึงอาศัยความเชี่ยวชาญให้โรงงานผลิตกีตาร์คุณภาพออกมาขายตัวละ 3,000-4,000 บาท
“กีตาร์แบรนด์ผม ถ้าทำมือราคาตั้งแต่ 7 หมื่นถึงแสนบาท ซึ่งเด็กๆ มัธยมหรือลูกค้าที่มีเงินไม่ถึงหลักหมื่นซื้อกีตาร์ราคา 7 หมื่นไม่ได้หรอก คนที่ซื้อกีตาร์แพงๆ ได้ ต้องเป็นพวกมืออาชีพใช้ทำมาหากิน ผมจึงให้โรงงานผลิตกีตาร์คุณภาพดีราคาไม่แพงออกมา เพราะเราเป็นช่างกีตาร์ ย่อมรู้ดีว่าต้องใช้วัสดุแบบไหน”
ยูทูบเบอร์ : ‘หรั่งพระนคร’
อีกช่องทางในการหารายได้ และช่วยเหลือเพื่อนๆ ที่พ้นโทษ หรั่งใช้ช่องทางยูทูบ หรั่งพระนคร Official (น.ช.ไม่ทิ้งกัน) โดยนำเสนอเรื่องราวแปลกใหม่และอาชีพคนพ้นโทษทุกแง่มุม
"ผมเคยอยู่ในเรือนจำ มีเพื่อนที่นั่นเยอะ พวกเขารู้ว่าผมเป็นคนจริงใจ มีคนพ้นโทษออกมาหลักแสนไม่มีงานทำ และไม่อยากกลับเข้าไปในเรือนจำ ผมพร้อมจะช่วยเหลือคนเหล่านี้ ผมไม่ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานราชการ
แต่ทำงานกับกลุ่มคนและบริษัทเอกชนทั่วประเทศที่พร้อมจะสนับสนุนให้อาชีพ และให้ทุนซีเอสอาร์ ผมมีเครือข่ายเยอะ เพราะผมเป็นคริสเตียน มีเพื่อนๆ ในโบสถ์ที่ทำธุรกิจทั้งขนาดเล็กและใหญ่ เขาเห็นผมกลับตัวได้ ก็อยากให้โอกาสคนอื่นด้วย
ตอนผมทำยูทูบ เป็นพิธีกรรายการเอง น.ช.ไม่ทิ้งกัน แรกๆ ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนตัวเดียว เพื่อเล่าเรื่องคนพ้นโทษที่หันมาประกอบอาชีพสุจริต บางคนออกมาขายหมูปิ้ง บางคนชอบเล่นตลก บางคนก็มาทำช่องยูทูบกับเรา เราก็รีวิวบอกเล่าให้สังคมรับรู้ว่า เขากลับตัวแล้วนะ " หรั่งเล่าจุดเริ่มต้นการทำยูทูบ
"เราทำทุกอย่างเพื่อให้โอกาส พอมาทำโครงการ นช.ไม่ทิ้งกัน คนที่ใจบุญก็อยากช่วยสนับสนุนคนพ้นโทษ ผมก็หาทุนสนับสนุนประมาณหนึ่งหมื่นบาทขึ้นไปให้พวกเขา
12 ปีที่ผ่านมา ผมช่วยเหลือคนพ้นโทษเยอะมาก จำไม่ได้ว่าช่วยมากี่คน ผมไม่มีตัวเลขสถิติ ยูทูบผมมียอดคนติดตามสองแสนกว่า ผมมีรายได้จากการเป็นยูทูบเบอร์ที่มียอดวิวกว่า 1.3 ล้านวิว โดยแบ่งออกมา 30 เปอร์เซ็นต์เก็บเข้ากองทุนช่วยเหลือคนพ้นโทษ เวลาต้องการจะช่วยคน ก็ทำได้ง่าย"
นอกจากทำและขายกีตาร์ รวมถึงมีช่องยูทูบของตัวเอง เขายังเป็นวิทยากรในเรือนจำ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนกลับตัว หรั่งเข้าไปพูดให้ผู้ต้องขังฟังประมาณเดือนละ 5-6 ครั้ง
ปัจจุบันเขาก็ยังเข้าออกเรือนจำและสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ เพื่อเป็นวิทยากรเดือนละ 2-3 ครั้ง
ดังนั้นเวลาไปเป็นวิทยากรเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในเรือนจำ หรั่งพยายามให้คนเหล่านั้นจดจำเขาให้ได้ เพราะเมื่อพ้นโทษออกจากเรือนจำแล้วไม่มีที่พึ่งพิง ก็ให้นึกถึงเขา เพื่อขอความช่วยเหลือ
“ถ้าผมทำให้คนเหล่านี้กลับตัวได้ครึ่งหนึ่ง ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ช่วงแรกๆ ช่วยเหลือไป 10 คนดูเหมือนกลับตัว สุดท้ายไม่ได้เลย” หรั่ง เล่าถึงการช่วยเหลือคนพ้นโทษช่วงแรกๆ
และเชื่อว่าการช่วยเหลือเรื่องอาชีพอย่างเดียวไม่พอ เพราะเมื่อใดพวกเขามีปัญหาชีวิตก็จะกลับไปสู่วังวนเดิม เนื่องจากสภาพจิตใจอ่อนแอ จึงต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติด้วย เรามีเครือข่ายที่จะช่วยเหลือ ผมทำเท่าที่ทำได้ตามความสามารถ
"ผมสัมผัสชีวิตคนเหล่านี้มาเยอะ ผมไปเยี่ยมครอบครัวพ่อแม่พวกเขา และค้นพบว่า ต้องเปลี่ยนกระบวนการคิดให้ได้ก่อน ผมเองก็ได้รับกำลังใจจากกลุ่มเพื่อนคริสเตียน
พวกเขาบอกผมว่า คุณหรั่งมีอาชีพสุจริตได้ ซึ่งต่างจากชีวิตในคุกที่ส่วนใหญ่จะคุยกันแต่เรื่องยาเสพติด ผมจึงมองว่า กลุ่มคนที่อยู่นอกคุกสำคัญมากในการเปลี่ยนคนพ้นโทษ"
ปัจจุบันหรั่ง บอกว่า ยังมีเรื่องที่อยากทำอีกเยอะ แค่พัฒนาสิ่งที่ทำอยู่ให้ดีก่อน เมื่อคิดทำเป็นระบบได้แล้ว ค่อยๆ ปรับทัศนคติคนเหล่านั้น
“เวลาผมเข้าโบสถ์ พวกเขาไม่ได้สอนแค่เรื่องศาสนา แต่สอนวิธีการใช้ชีวิต ประกอบกับมีคนประสบความสำเร็จมากมายอยู่ในโบสถ์ ผมก็ได้จากตรงนั้น ผมจบแค่มัธยม 6 โดนคดียาเสพติด ชิงทรัพย์ เพราะไม่มีเงินซื้อยา เมื่อผมกลับตัวได้ คนอื่นก็ต้องทำได้”
...................
ภาพ : เฟซบุ๊ก หรั่ง พระนคร Rang Akkarin Puri