วิกฤติ ‘น้ำมันมะกอก’ แพง (มาก) จาก ‘ภาวะโลกร้อน’ และโรคแมลง

วิกฤติ ‘น้ำมันมะกอก’ แพง (มาก) จาก ‘ภาวะโลกร้อน’ และโรคแมลง

‘ภาวะโลกร้อน’ ส่งผลกระทบไปทั่วโลก โดยเฉพาะพืชผลการเกษตรที่คนเราต้องกินทุกวัน เช่น น้ำมันมะกอก กาแฟ โกโก้ ฯลฯ ที่กำลังวิกฤติสุดคือ ‘น้ำมันมะกอก’

น้ำมันมะกอก ราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เริ่มมาตั้งแต่ฤดูหนาวปี 2022 จนถึงวันนี้ยังไม่มีทีท่าว่าราคาจะลดลง

รายงานจาก plantetp.eu บอกว่า เมื่อเปรียบเทียบราคาน้ำมันมะกอก ของเดือนมกราคม 2023 กับมกราคม 2024 ราคาสูงขึ้น 50% จากผลผลิตมะกอกที่ลดลง

ผู้นำเข้าน้ำมันมะกอกในซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ในเมืองไทย ระบุว่า น้ำมันมะกอกแพงขึ้นราว 200% (เมื่อบวกค่าขนส่ง ภาษี สินค้าฟุ่มเฟือย) ถามว่ากระทบคนไทยมั้ยเพราะถ้าทำอาหารไทยก็ไม่ได้ใช้น้ำมันมะกอก

วิกฤติ ‘น้ำมันมะกอก’ แพง (มาก) จาก ‘ภาวะโลกร้อน’ และโรคแมลง     วิกฤติน้ำมันมะกอกราคาแพง (Cr.pixabay.com)

แต่คนไทยก็กินอาหารฝรั่งกันสนุกมาหลายปีแล้ว อีกทั้งชาวตะวันตกเมื่อจะปรุงอาหารก็ต้องใช้ น้ำมันมะกอก ฝรั่ง (และนักชิมคนไทย) อาจเดือดร้อนด้วยราคาวัตถุดิบที่แพงขึ้นอย่างมาก

ส่วนฝรั่งในยุโรปจะไปใช้น้ำมันอื่นก็ไม่ได้ เพราะน้ำมันมะกอกอยู่ในวิถีชีวิตของเขา ปีนี้นอกจากชาวยุโรปแล้ว คนทั่วโลกต้องรับมือกับ สภาวะวัตถุดิบอาหารแพงถึงแพงมาก

นอกจาก ภาวะโลกร้อน ที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของต้นมะกอกแล้ว ศัตรูสำคัญอีกอย่างคือ แบคทีเรีย Xylella fastidiosa ที่เกิดจาก Xylem หรือรากใต้ดินของต้นมะกอก Xylella fastidiosa มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา ในอดีตยุโรปยังไม่มีแบคทีเรียตัวร้ายนี้ มาตรวจพบชัด ๆ เมื่อปี 2013 ในอิตาลี จากต้นมะกอกใน แคว้นปูลยา (Puglia) หรือ Apulia ตอนใต้ของอิตาลี อาการที่พบคือใบไหม้ จากนั้นต้นมะกอกหลายพันต้นก็ตายไป วิกฤติ ‘น้ำมันมะกอก’ แพง (มาก) จาก ‘ภาวะโลกร้อน’ และโรคแมลง    ต้นมะกอกอายุหลายร้อยปีในแคว้นปูเลีย อิตาลีตอนใต้ (Cr.italiaplus.com)

ไม่นานก็พบแบคทีเรียชนิดนี้ในพืชหลายชนิดในฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส และไปไกลถึงขั้นโจมตีต้นองุ่นทำไวน์ในอเมริกา

แบคทีเรียตัวร้ายเข้าโจมตีต้นมะกอกและพืชผลทางการเกษตร ผ่านการเติบโตของแมลงจำพวกเพลี้ยกระโดด ทำให้แมลงทวีจำนวนมากขึ้น บินได้ไกลขึ้น มีอายุยาวขึ้น

รากที่เป็นตัวลำเลียงน้ำและสารอาหารส่งไปไม่ถึงต้นมะกอก แมลงศัตรูพืชก็โจมตีต้นมะกอก แมลงศัตรูพืชสายพันธุ์เดียวกันนี้ยังโจมตีต้นองุ่นทำไวน์ ส้ม ต้นกาแฟ และต้นอัลมอนด์ ล้วนส่งผลกระทบที่นักวิทยาศาสตร์บอกว่า จากภาวะโลกร้อนทำให้แบคทีเรียและแมลงพวกนี้เติบโตเร็ว

มนุษย์ต่อสู้กับโรคระบาดพืชมาตลอด ในอิตาลีตั้งแต่ปี 2003 ที่ต้นมะกอก 6.5 ล้านต้นถูกโจมตี บางครั้งมนุษย์ก็ชนะ บ้างก็แพ้ แต่ปีนี้ดูเหมือนสาหัสกว่าปีที่ผ่านมา

วิกฤติ ‘น้ำมันมะกอก’ แพง (มาก) จาก ‘ภาวะโลกร้อน’ และโรคแมลง      ผลมะกอกสดจากต้น (Cr.   )

งานวิจัยจากสมาพันธ์ผู้ส่งออกน้ำมันมะกอกของอียู บอกว่า ผลเสียหายจากต้นมะกอกถูกโจมตี ประมาณว่าสูญเสียปีละ 5.5 พันล้านยูโร

แล้วถ้าไม่สามารถหยุดยั้งการโจมตีของศัตรูต้นมะกอก จะส่งผลกระทบต่อต้นมะกอกที่อายุมากกว่า 30 ปี ราว 70% ต้นไม้อาจตายหรือไม่สามารถผลิตผลมะกอกได้ ส่วนต้นมะกอกวัยเด็กราว 35% จะหยุดเจริญเติบโต

ใน สเปน ผู้ส่งออกน้ำมันมะกอกมากกว่า 40% ของโลก ถูก ภาวะโลกร้อน โจมตีเช่นกัน ราคาน้ำมันมะกอกแพงขึ้น 112% มาตั้งแต่ปี 2022 รวมถึงวัตถุดิบอาหารอื่น ๆ ก็ล้วน “แพงขึ้น” สาเหตุหลักมาจาก olive fruit fly แมลงจำพวกเพลี้ยกระโดดที่โจมตีต้นมะกอก

บรรดาผู้บริโภคในสเปน ออกโรงต่อว่าร้านค้าปลีกและซูเปอร์มาร์เก็ต หาว่าค้ากำไรเกินควร และไม่สามารถตรึงราคาน้ำมันมะกอกได้ แต่ซูเปอร์ฯ บอกว่า ราคาแพงขึ้นจากแหล่งกำเนิด จัดการอะไรไม่ได้

วิกฤติ ‘น้ำมันมะกอก’ แพง (มาก) จาก ‘ภาวะโลกร้อน’ และโรคแมลง       น้ำมันมะกอกอยู่ในวิถีชีวิตชาวยุโรป (Cr.themediterraneandish.com)

เรื่องเริ่มแย่ลงเมื่อในสเปนมีผู้ ขโมยน้ำมันมะกอก จากห้างนำไปขายในตลาดมืด มีรายงานว่า เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว น้ำมันมะกอก เอ็กซ์ตร้า เวอร์จิ้น ถูกขโมยไปจากโกดังในเมืองกอร์โดบา (Cordoba) แคว้นอันดาลูเซีย ราว 50,000 ลิตร จริง ๆ แล้วตัวเลขมากกว่านี้

บ้านเราวัตถุดิบอาหารแพงก็ยังไม่ถึงกับ ขโมย กันซึ่ง ๆ หน้า แต่ทางแก้ก็ยังมีคือใช้ น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน ประกอบอาหารแทนน้ำมันมะกอกที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างไม่มีวี่แววจะลดลง

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารซูเปอร์ฯ ในสเปน กรีซ และหลายประเทศในอัฟริกาเหนือ ปลอบใจกันว่า เมื่อปลายฤดูร้อนที่ผ่านมามีฝนตก เชื่อว่าจะช่วยบรรเทาอาการต้นมะกอกที่ใกล้ตายให้ฟื้นขึ้นมาได้ ระหว่างนี้ก็หา น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน หรือน้ำมันพืชชนิดอื่นบริโภคกันไปก่อน

ต้นมะกอกเป็นพืชประจำถิ่นเมดิเตอร์เรเนียน มะกอกออกผลเมื่ออายุ 5-7 ปี (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และสภาพอากาศ) และจะมีอายุยาวนานไปนับพันปี

องค์กรวิจัยและพัฒนาพืชผลการเกษตรอียู (Plant ETP) เตือนว่า ระหว่างที่ยังฆ่าแบคทีเรียพวกนี้ไม่ได้ แต่มันสามารถแพร่ระบาดไปได้ทุกที่ ก็เหมือนเชื้อไวรัสที่ติดไปกับคนบินข้ามทวีป

วิกฤติ ‘น้ำมันมะกอก’ แพง (มาก) จาก ‘ภาวะโลกร้อน’ และโรคแมลง

ใครไปเที่ยวยุโรปช่วงนี้ กรุณาอย่าเก็บพืชใด ๆ กลับบ้าน ป้องกันการแพร่ระบาด แบคทีเรียพืชข้ามทวีปแพร่เชื้อตายได้เหมือนกัน

อยากช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมก็ซื้อไป แต่ไม่ซื้อต้นไม้ ดอกไม้ ผลไม้ จนถึงดอกไม้แห้ง ติดกระเป๋ากลับบ้าน เด็ดขาด