“หอมกลิ่น” คาเฟ่ขนมไทยใกล้วัดราชบูรณะ “อยุธยา”
“หอมกลิ่น” คาเฟ่ขนมไทยที่มีดีทั้งรสชาติและบรรยากาศ อาลัวดอกบัว เขียวเมฆา ม่วงอำพัน เป็นขนมที่ไม่ควรพลาด เช่นเดียวกับการขึ้นไปเช็คอินบนดาดฟ้าเพื่อบันทึกภาพพระปรางค์วัดราชบูรณะก่อนตะวันลับฟ้า
"หอมกลิ่น" เป็นคาเฟ่ขนมไทย ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดราชบูรณะ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงแม้จะเป็นคาเฟ่คูหาเดียว แต่โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เปิดมุมมองจากภายในให้เห็นทัศนียภาพของวัดราชบูรณะได้อย่างเต็มตา โดยเฉพาะบนดาดฟ้า
ในขณะที่การตกแต่งภายในเลือกใช้สีน้ำเงินและสีทองให้ความรู้สึกร่วมสมัย สอดคล้องไปกับการนำเสนอขนมไทยของ หอมกลิ่น ที่ผสานกับไลฟ์สไตล์วันนี้ได้อย่างมีเสน่ห์
คุณ กรรณิการ์ มีสมสิบ เจ้าของร้าน อดีตครูสอนวิชาคหกรรม เล่าถึงที่มาของ “หอมกลิ่น” ให้ฟังว่า เกิดจากการชวนลูกชายที่เป็นสถาปนิกทั้งสองคนกลับมาทำธุรกิจที่บ้านเกิด เพื่อที่ครอบครัวจะได้อยู่ใกล้ชิดกันและมาช่วยกันดูแลคุณพ่อด้วย
ดังนั้น ในส่วนของการออกแบบตกแต่งจึงเป็นฝีมือของลูกชายล้วนๆ โดยจัดแต่งพื้นที่ชั้นล่างเป็นเป็นร้านขนมที่ให้ลูกค้าได้เลือกหยิบขนมได้ตามชอบ แล้วมาจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ ส่วนใครอยากจะนั่งรับประทานสามารถสั่งขนม เครื่องดื่ม และอาหาร แล้วจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์นี้ก่อนไปเลือกนั่งได้ที่ชั้น 2 และ 3 รวมไปถึงดาดฟ้า ส่วนชั้นลอยเป็นพื้นที่สำหรับคนมาเวิร์คช็อปทำขนมกับคุณแม่
แม้จะออกตัวว่าเป็นครูสอนคหกรรมที่รับผิดชอบฝ่ายวิชาการเป็นหลัก หากเมื่อมาลงมือเปิดร้านจริงจัง คุณกรรณิการ์ก็ได้สร้างคาแรกเตอร์ให้ “หอมกลิ่น” เป็นขนมที่มีรูปงาม รสชาติหวานน้อยแต่พอดี มีกลิ่นหอมแบบละมุนสมชื่อ มีขนาดพอคำสะดวกแก่การรับประทาน
ในเมนูมีชื่อขนมที่เรารู้จักและไม่รู้จักมากมาย ได้แก่ อาลัวดอกไม้ (ทำเป็นรูปดอกบัว ดอกกุหลาบ สวยงามจนแทบไม่กล้ากิน) ขนมใส่ไส้ (ทำเป็นรูปดอกไม้มีกลีบเป็นกะทิ ส่วนเกสรซ่อนไส้เอาไว้ข้างใน) อัญชันไข่แมงดา (ลักษณะคล้ายขนมน้ำดอกไม้ ตกแต่งด้วยทองหยอดขนาดจิ๋ว) ม่วงอำพัน (มันม่วงกวนกับกะทิและน้ำตาล ปั้นเป็นรูปดอกไม้ ข้างในมีไส้รสเปรี้ยวนิดๆ) และขนมตระกูลทอง สื่อความหมายของความเป็นมงคล ได้แก่ ทองเอก ทองชมพูนุท เป็นต้น
เขียวเมฆา
ส่วนขนมที่เป็นซิกเนเจอร์ของ “หอมกลิ่น” คุณกรรณิการ์บอกว่าเป็น “เขียวเมฆา” ขนมที่มีส่วนผสมของแป้ง กะทิ น้ำตาลโตนดเมืองเพชร แต่งสีและกลิ่นด้วยใบเตยหอมละมุนกวนให้เข้ากัน โดยซ่อนความกรุบกรอบของอัลมอนด์ไว้ข้างใน
นอกจากนี้ยังมีเมนูขนมไทยที่จับคู่กับไอศกรีมได้อย่างเข้ากัน เช่น ไอศกรีมกะทิกินกับหน้ากุ้ง ฝอยทองและทองหยอด ไอศกรีมกะทิกับขนมบัวลอย ไอศกรีมกะทิกับเต้าฮวยและทับทิมกรอบ ไอศกรีมชาไทยคู่กับทองม้วน เป็นต้น
ทุกครั้งที่ไป “หอมกลิ่น” เรามักจะซื้ออาลัวดอกบัว และขนมเปียกปูนที่บีบกะทิด้านบนเป็นรูปดอกไม้น่ารักกลับบ้านเสมอ ครั้งล่าสุดไปสะดุดตากับขนมสีดำ ลักษณะคล้ายก้อนหินมากกว่าจะเป็นขนม เมื่อได้ถามเจ้าของร้านจึงได้ความรู้เพิ่มเติมว่าเป็นขนมโบราณที่มีชื่อว่า ขนมหินฝนทอง
มีเรื่องเล่าขานกันว่าเป็นอาหารของนักรบในสมัยอยุธยา ยามออกรบทัพจับศึก มักจะพกขนมหินฝนทองเอาไว้เป็นเสบียง เพราะว่าเก็บไว้ได้นานเป็นเดือน
ขนมหินฝนทอง ทำมาจากข้าวคั่ว มาเคี่ยวกับกะทิ น้ำตาล รูปร่างเป็นก้อนสีดำคล้ายหินที่ใช้ทดสอบทองคำว่าเป็นทองแท้หรือไม่แท้ จึงเรียกว่า ขนมหินฝนทอง รสชาติหวานมัน นับเป็นความมหัศจรรย์ของแป้ง กะทิ น้ำตาล วัตถุดิบหลักของขนมไทยโดยแท้
การได้มานั่งกินขนมชมวิวพระปรางค์วัดราชบูรณะ จัดเป็นความสุขเรียบง่ายที่แสนอิ่มตาและอิ่มใจ แถมยังได้ทำความรู้จักกับขนมไทยโบราณไปพร้อมกัน
ร้านหอมกลิ่น Thai Dessert Cafe
- ที่ตั้ง : 9/23 ถนนชีกุน เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- จุดเด่น : คาเฟ่ขนมไทยบรรยากาศดี มีบริการรับทำขนมไทย ของว่าง สำหรับงานเลี้ยง งานบุญ งานแต่ง งานประชุม สัมมนา ของขวัญ ของฝาก รวมไปถึงของไหว้
- เปิดบริการ : 09.00-18.00 น. เว้นวันจันทร์ จอดรถได้ริมถนนหน้าร้านและฝั่งตรงข้าม
- ติดต่อ : โทร.08 1851 6702 เฟซบุ๊ก หอมกลิ่น Thai dessert
