3 ศาลเจ้าที่คนไทยนิยมไปขอพร กับเรื่องเล่า ความเชื่อและศรัทธา
เหตุใดต้องไปขอโชคลาภที่"ศาลเจ้ายี่กอฮง"หรือให้เทพเจ้าคุ้มครองสุขภาพที่"ศาลเจ้าโจวซือกง" และแก้ปีชงกับทวยเทพที่"วัดเล่งเน่ยยี่" เรื่องเหล่านี้มีประวัติความเป็นมา
เรื่องราวของ ศาลเจ้า ส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวข้องกับเหล่าทวยเทพ ซึ่งคนจีนในเมืองไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี และในศาลเจ้าจะไม่มีนักบวชประจำ มีเพียงผู้ดูแล
ศาลเจ้าที่ผู้เขียนจะกล่าวถึง มีเรื่องราวผูกพันกับคนจีนที่อาศัยในแผ่นดินไทยมาช้านาน ศาลเจ้ายี่กอฮง มีเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าของโรงหวยในอดีต จึงเกี่ยวพันกับเรื่องโชคลาภ ส่วนศาลเจ้าโจวซือกง กับเรื่องเล่าพระหมอโจวซือกง และเรื่องเหล่าทวยเทพที่วัดเล่งเน่ยยี่ อีกความเชื่อในการแก้ปีชง
ศาลเจ้ายี่กอฮง เทพเจ้าหวย
ไม่ว่าโลกจะพัฒนาไปไกลแค่ไหน เรื่องความเชื่อโชคลางก็ยังอยู่คู่กับคนไทย แม้บางครั้งความเชื่อจะพาไปสู่ความงมงาย แต่บางทีความเชื่อก็ทำให้คนไม่กล้ากระทำความผิด
เอาเป็นว่า ถ้าจะมาขอพรโชคลาภ ก็เพื่อดลบันดาลให้มีกำลังใจต่อสู้ชีวิตต่อไป เริ่มที่ศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง ชั้น 4 สถานีตำรวจนครบาลพลับพลาชัย นอกจากเป็นที่เคารพของคนไทย ยังมีกลุ่มชาวจีน ไต้หวัน ฮ่องกง เดินทางมาไหว้ขอพรและโชคลาภจากพ่อปู่“ยี่กอฮง”ในเรื่องการทำธุรกิจให้รุ่งเรือง โดยเฉพาะคนทำธุรกิจด้านการพนัน
ศาลเจ้ายี่กอฮง ชั้น 4 โรงพักพลับพลาชัย
ยี่กอฮง หรือพระอนุวัตรราชนิยม(ฮง เตชะวณิชย์)เป็นนายอากรบ่อนเบี้ย ผู้คุมการออกหวย ก.ข. ในช่วง พ.ศ. 2392-2479 เป็นคนจีนโพ้นทะเล อายุ 16 ปีเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยตั้งปณิธานว่าจะประกอบอาชีพค้าขายในสยามตลอดชีวิต
ว่ากันว่ายี่กอฮง นอกจากทำโรงบ่อนเบี้ย ยังทำการค้าอื่นๆ อีกหลายอย่าง เมื่อร่ำรวยจากธุรกิจโรงหวย ส่งภาษีเข้าหลวงปีละหลายสตางค์ ก็ยังมีเงินเหลือมากมาย จึงทำบุญบริจาคสร้างถนน สะพานฮงอุทิศ สะพานอนุวัฒนโรดม, โรงเรียนเผยอิง เมื่อ พ.ศ. 2463 รวมถึงก่อตั้งโรงพยาบาลเทียนฟ้า และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ฯลฯ
แม้ในยุคนั้นยี่กอฮงจะร่ำรวยมาก แต่ที่สุดต้องล้มละลายเป็นหนี้หลวง เนื่องจากมีการปรับภาษีโรงบ่อนสูงจนเขาจ่ายไม่ไหว ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
ในประวัติศาสตร์จารึกไว้ว่า เขาเป็นคนซื่อสัตย์ ไม่เคยคดโกงเงินของแผ่นดิน และมีคุณความดีทำให้แผ่นดินไทย เสียชีวิตในวัย 86 ปี ซึ่งที่ตั้งสถานีตำรวจพลับพลาชัยในปัจจุบันก็คือบ้านของยี่กอฮง มีการรื้อตัวอาคารเดิมทั้งหมดทิ้งแล้วสร้างอาคารใหม่ขึ้นมาแทน และสร้างศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮงไว้บนชั้น 4 ของโรงพัก
หากรู้ที่มาที่ไปก็จะรู้ว่า ทำไมคนที่ทำธุรกิจสีเทา หรือคนทำธุรกิจเรื่องเงินๆ ทองๆ หุ้น หวย ต้องมาขอพรจากยี่กอฮง
ศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง ตั้งอยู่ที่ ชั้น 4 สน.พลับพลาไชย 1,2 เปิด 09.00-17.00 น.
(ศาลเจ้าที่คนนิยมมาขอหวย /ภาพ :KTC Press club บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด )
ศาลเจ้าโจวซือกง ขอพรเรื่องสุขภาพ
ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศูนย์รวมจิตใจชาวจีนฮกเกี้ยน ส่วนใหญ่มาขอพรคุ้มครองสุขภาพและเป็นสิริมงคล
ศาลเจ้าโจวซือกง อายุกว่า200 ปี ย่านตลาดน้อย เป็น 1 ใน 9 ศาลเจ้า ที่นักท่องเที่ยวไต้หวันต้องมากราบไหว้พระหมอโจวซือกง หรือหลวงปู่โจวซือกง เพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิต โดยการฝากดวง เขียนชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด บนกระดาษเงิน กระดาษทอง ให้คุ้มครองดวงมีสุขภาพดีตลอดทั้งปี แม้ชาวจีนฮกเกี้ยนจะไม่เชื่อเรื่องการแก้ปีชง แต่มีความเชื่อว่า หลวงปู่จะคุ้มครองดวงได้
ศาลเจ้าโจวซือกง (วัดซุนเล่งยี่) สร้างในปีพ.ศ.2347 เพื่อเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าโจวซือกง และเทพเจ้าองค์อื่น ๆ ที่ชาวจีนให้ความเคารพนับถือ อาทิ เจ้าพ่อกวนอู เจ้าแม่ทับทิม เจ้าพ่อเสือ เทพเจ้า 36 องค์ เทพเจ้าฟ้าดิน ตี่จู้เอียะ ฯลฯ
ศาลเจ้าแห่งนี้ สร้างในสมัยรัชกาลที่1 โดยเศรษฐีชาวจีนฮกเกี้ยน ที่เข้ามาพึ่งพิงพระบรมโพธิสมภารเปิดโรงเผาถ่าน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านตลาดน้อย ตอนนั้นเขานำเทพเจ้าที่นับถือมาจากเมืองจีน จึงได้ตั้งศาลเจ้าให้ท่านประทับ
ภายในศาลเจ้า สร้างด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ชิง เพื่อเป็นศูนย์กลางของชาวจีนฮกเกี้ยนในกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมฮกเกี้ยนแห่งประเทศไทย
พระหมอ เทพประธานประจำกลุ่มฮกเกี้ยน ซึ่งคนใหญ่นิยมมาขอพรสามอย่างคือ “สุขภาพ อยู่เย็นเป็นสุข โชคลาภ” ตามคติความเชื่อแบบจีน การกราบไหว้เทพในศาลเจ้า ไม่จำเป็นต้องบนบานศาลกล่าว สามารถขอพรได้เลย จำแนกเป็นเรื่องๆ ไป
ว่ากันว่า พระหมอโจวซือกง เป็นเทพที่มีตัวตน เกิดในสมัยราชวงศ์ซ่ง เมื่อท่านอุปสมบทเป็นสามเณร ท่านธุดงค์และถวายตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อหมิงกงฉานซือ รักษาผู้เจ็บป่วยทุกข์ยาก และเผยแพร่ธรรมะ
ศาลเจ้าโจวซือกง เป็นศาลเจ้าจีนฮกเกี้ยนแห่งเดียวในเยาวราช ที่มีข้อห้ามไหว้ด้วยเนื้อสด เพราะองค์ประธานของศาลเจ้าเป็นพระ
แก้ชงกับทวยเทพวัดเล่งเน่ยยี่
วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยเย่ เป็นอีกสถานที่คนไทยนิยมแก้ปีชง วัดแห่งนี้เป็นสังฆารามตามลัทธินิกายมหายานที่มีศิลปะงดงามและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
วัดเล่งเน่ยยี่ เป็นวัดที่คนไทยเชื้อสายจีนจะต้องแวะมาไหว้พระ ขอพร เนื่องจากเป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทยที่ใหญ่ที่สุดในย่านเยาวราช เป็นวัดที่ได้รับพระราชทานชื่ออย่างเป็นทางการจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
หากย้อนไปค้นเรื่องราวในประวัติศาสตร์ วัดเล่งเน่ยยี่เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 150 ปี ก่อตั้งเมื่อปี 2414
วัดแห่งนี้ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้อย่างดี เนื่องจากเจ้าอาวาสที่มรณภาพไปเมื่อปี 2558 เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการอนุรักษ์สถาปัตยกรรม
วัดแห่งนี้ มีสไตล์จีนตอนใต้ของสกุลช่างแต้จิ๋ว กว่าจะก่อสร้างเสร็จใช้เวลากว่า 8 ปี มีการวางแปลนตามแบบวัดหลวง คือ มีวิหารท้าวจตุโลกบาลเป็นวิหารแรก ตรงกลางเป็นพระอุโบสถ ข้างหลังพระอุโบสถเป็นวิหารเทพเจ้า
ส่วนกลางเป็นพระอุโบสถประดิษฐานเหล่าทวยเทพและเทพพระประธาน 3 องค์ คือ
1.พระไภษัชยคุรุพระพุทธเจ้าหรือ “เอี๊ยะซือฮุก” ผู้เป็นครูและผู้รักษาโรค
2.พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้าหรือ “พระโคดมพุทธเจ้า” ผู้ทรงตรัสรู้ความจริงอันประเสริฐ
3.พระอมิตพุทธเจ้า เชื่อกันว่าท่านจะนำดวงวิญญาณของผู้บูชาไปเกิดในดินแดนสุขาวดี
ส่วนด้านหลังเป็นวิหารบูรพาจารย์ วิหารพระอวโลกิเตศวร (กวนอิม โพธิสัตว์) และวิหารเทพเจ้า เช่น เทพเจ้ากวนอู พระเพลิง เทพโชคลาภ เทพเจ้าเซียนซือกง (หมดฮั่วท้อเซียนซือ) เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตาชีวิต (ไท้ส่วยเอี้ย)
คนส่วนใหญ่นิยมมาไหว้เทพเจ้าขอพรให้คุ้มครอง เพราะที่นี่มีเทพหลายองค์ อาทิ เทพเจ้าแห่งยาหรือหมอเทวดา “หั่วท้อเซียงซือกง” ,เทพเจ้าแห่งโชคลาภ “ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ” เทพเจ้าเฮ่งเจีย หรือ “ไต่เสี่ยหุกโจ้ว”รวมเทพเจ้าในวัด มีทั้งหมด 58 องค์
เนื่องจากเป็นวัดที่เป็นศูนย์กลางพุทธมหายานของคณะสงฆ์จีนนิกายในประเทศไทย มีความเก่าแก่และมีประวัติยาวนาน และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมมาสักการะบูชาทวยเทพธรรมบาลด้วยความศรัทธาและเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
https://www.facebook.com/Wat.Mangkonkamalawat.Temple/