“เที่ยวเกาหลี” จังหวัด “คยองกี” ช่วงใบไม้กำลังเปลี่ยนสี
“เที่ยวเกาหลี” ใน “ฤดูใบไม้ร่วง” โดยสายการบิน “Korean Air” และ Gyeonggi Tourism การเข้าประเทศ “เกาหลีใต้ ต้องขอเอกสาร KETA และต้องตรวจ PCR คาดว่าจะเร่งพัฒนา AI ในการตรวจสอบเอกสารแม่นยำกว่าเดิม
ต้น ฤดูใบไม้ร่วง มีโอกาส เที่ยวเกาหลี ตามคำเชิญของ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว จังหวัด “คยองกี” (Gyeonggi Tourism Organization)
เมืองนี้อยู่ไม่ห่างไกลจากกรุงโซล มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ที่นี่ต้องการให้นักท่องเที่ยว ชาวไทยได้รู้จัก
คิม บงกยูน หัวหน้าเลขาธิการ สมาชิกสภา จังหวัดคยองกี กล่าวต้อนรับ เจริญ วังอนานนท์ ประธานสมาคมไทยบริการธุรกิจ
และตัวแทนจากบริษัทท่องเที่ยว รวมไปถึงสมาชิก องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดคยองกี สื่อมวลชน และ MICE Allianze
ที่มาร่วมงานในวันที่ 20 กันยายน 2565 โดยการประสานงานของ คุณฮง จีฮี ประธานกรรมการบริษัท K.T.C.C
คิม บงกยูน กล่าวว่า “สำหรับงานในครั้งนี้ จัดขึ้นมาเพื่อแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
Unique Venues ในจังหวัดคยองกีให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้รู้จักกัน พร้อมทั้งเป็นตัวกลางที่ช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูล
และวัฒนธรรมระหว่าง 2 ประเทศให้มากยิ่งขึ้น
สำหรับประเทศไทย ในช่วงก่อนเกิดโรคโควิด - 19 ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนประเทศเกาหลี ผมเชื่อว่าเป็นเพราะการสนับสนุนจาก เจริญ วังอนานนท์ และตัวแทนบริษัทท่องเที่ยว
ที่อยู่ในที่นี่ทุกๆท่าน หลังจากที่ตัวแทนของ WHO ได้มีการประกาศว่า 'วิกฤตการณ์โควิด-19 กำลังจะจบลงแล้ว' ทาง จังหวัดคยองกี
จึงไม่รอช้าที่จะเร่งการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้กลับมาเที่ยวจัดหวัดคยองกีอีกครั้งครับ”
คิม บงกยูน หัวหน้าเลขาธิการ สมาชิกสภา จังหวัดคยองกี กล่าวทิ้งท้าย พร้อมกับขอบคุณทุกท่านที่มาเยือน จังหวัด คยองกี ประเทศเกาหลีใต้
ด้าน คัง ดงฮัน (Kang Dong-Han)หัวหน้าฝ่ายธุรกิจท่องเที่ยว ต่างประเทศและไมซ์ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดคยองกี
ปี 2019 ประเทศไทยถือว่าเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ที่เดินทางมา เที่ยวเกาหลี และ มีนักท่องเที่ยว 50 เปอร์เซ็นต์
มาเที่ยวที่จังหวัดคยองกี โควิด-19 ระบาด ทำให้ 3 ปีที่ผ่านมาไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ถึงแม้ว่าช่วงนี้เปิดประเทศแล้ว นักท่องเที่ยวก็ยังถือว่าน้อยอยู่
"คัง ดงฮัน" (Kang Dong-Han) หัวหน้าฝ่ายธุรกิจท่องเที่ยว ต่างประเทศและไมซ์ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดคยองกี
คัง ดงฮัน (Kang Dong-Han) กล่าวต่อไปว่า เกาหลีใต้ ต้องการโปรโมทให้คนไทย เดินทางไปท่องเที่ยวเยอะขึ้น
ในขณะเดียวกัน ประเทศเกาหลี ก็มีการตรวจขันเข้มงวด เนื่องจากในปี 2519 ที่คนไทยเดินทางไปเที่ยวเกาหลี เป็นอันดับ 1
ในจำนวนนั้นก็มี “นักท่องเที่ยวผีน้อย” มากเป็นอันดับ 1 ด้วยเช่นกัน ช่วงโควิด 19 ระบาด ส่งตัวผีน้อยกลับเมืองไทยเยอะมาก
ดังนั้นเมื่อเปิดประเทศใหม่อีกครั้งก็ค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้ จึงมีการกวดขันอย่างเข้มงวด ขณะนี้กำลังคิดทบทวนว่าต่อไป
หากต่างชาติเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ จะต้องขอวีซ่า เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ เช่น มาแล้วถูกส่งตัวกลับ ไม่ได้เข้าประเทศ
อีกแนวทางในการแก้ปัญหาก็คือ รับนักท่องเที่ยวระดับพรีเมียม ในขณะเดียวกันกำลังพัฒนาระบบการตรวจสอบคนเข้าเมือง
เพื่อดูประวัติผู้ที่เดินทางเข้าประเทศได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า
B2B Business Meeting
“เที่ยวเกาหลี” แม้มี KETA แล้ว แต่ระบบ AI ทำงานผิดพลาดนิดเดียวเช่นที่อยู่ไม่ตรง หรือหาข้อมูลบางอย่างไม่เจอก็จะถูกปฏิเสธการเข้าประเทศทันที
หากผ่านตม.ได้เข้าประเทศ ก็ต้องตรวจโควิด PCR ค่าตรวจ 80,000 วอน ทำให้นักท่องเที่ยวจากหลายประเทศต้องเบนเข็มไปเที่ยวประเทศอื่นแทน
การท่องเที่ยวจังหวัดคยองกีเองก็หนักใจ อยากให้ทางประเทศพัฒนาระบบ KETA ให้ดีขึ้นโดยเร็ว เพื่อที่นักท่องเที่ยวจะได้เดินทางมามากขึ้น
เกาหลีใต้ น่าเดินทางไปท่องเที่ยว คนไทยนิยมไปที่นั่น เนื่องจากแต่ละฤดูกาลมีเสน่ห์น่าไปสัมผัส ในหลากหลายฤดู
หลากหลายกิจกรรม เช่นฤดูกาลที่ใกล้จะถึงนี้ ฤดูใบไม้ร่วง ก็จะมีใบไม้เปลี่ยนสี สวยงาม “ฤดูหนาว” มีสถานที่เล่นสกี มีหิมะ
“ฤดูใบไม้ผลิ” มีดอกพ็อดกด หรือดอกซากุระเกาหลี “ฤดูร้อน” มาท่องเที่ยวทางน้ำ มีสวนสนุก เอเวอร์แลนด์ ทุกฤดูกาลสามารถมาสัมผัสได้ที่จังหวัดคยองกี แห่งนี้
เดือน ธันวาคม ถึงเดือน เมษายน จะเป็นฤดูกาลแห่งสตรอว์เบอรี่ ที่คนไทยชอบมา มีกิจกรรมเก็บสตรอเบอรี่ในไร่ มีวัดชื่อ “วาอูจองซา” เป็นวัดที่มีพระนอน ทำจากต้นสน
จังหวัดคยองกี อยู่บริเวณรอบๆกรุงโซล(เขตปกครองพิเศษ) ซึ่งกรุงโซลเปรียบเสมือนไข่แดง คยองกี เปรียบเป็นไข่ขาว ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก
เขาจึงพยายามสร้างแบรนด์ของคยองกีขึ้นมาให้เป็นที่รู้จักของบรรดานักท่องเที่ยว
เจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (President) กล่าวว่า แสดงความคิดเห็นว่า หลังจากโควิดนักท่องเที่ยวคนไทยหายไปจากเกาหลี 100 %
เพราะเขาห้ามคนต่างชาติเข้าประเทศ ทำให้การท่องเที่ยวระหว่างไทยกับเกาหลีต้องหยุดชะงัก หลังจากโควิดคลี่คลายก็มีการผ่อนปรน
"เจริญ วังอนานนท์" ประธานสมาคมไทยบริการธุรกิจ
แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่เยอะในการเดินทางเข้าประเทศเกาหลีสำหรับคนไทย มีเรื่องการลงทะเบียน ที่ค่อนข้างไม่สะดวกก็คือการตรวจ PCR
และการตรวจ KETA ที่ AI มีการตรวจคัดเลือกคนแบบสุ่ม ทำให้คนที่อยากมาเที่ยวเกาหลี ก็ไม่ได้มา ก็จะเป็นอุปสรรคสำหรับคนไทยที่มีเครดิตดีๆ
อาจจะสมัครแล้วไม่ได้รับการตอบรับ จาก KETA ก็จะทำให้เขาเสียภาพลักษณ์ ก็เลยไม่อยากเสี่ยง ที่จะเดินทางเข้ามาประเทศเกาหลีในขณะนี้
ถ้าเกิดอยากให้คนไทยมาเที่ยวเพิ่มขึ้น เงื่อนไขต่างๆก็คงต้องลดลง กลับไปเหมือนเดิมก่อนที่จะเกิดโควิด คิดว่าการท่องเที่ยวของเราก็จะไปได้ดีขึ้น
ก่อนโควิดมีนักท่องเที่ยวไทยมาเกาหลี 6 แสนคน ถือว่าตัวเลขไม่น้อยเลย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกๆปี แม้จะน้อยกว่าญี่ปุ่น
แต่ก็มีแนวโน้มที่ดี ถ้ามีการวางแผนที่ดี มีการแลกเปลี่ยนที่ดี มีการทำการตลาดร่วมกัน การท่องเที่ยวเกาหลีก็น่าจะสดใสสำหรับตลาดไทย
ผมมองว่านักท่องเที่ยวปกติ มีจำนวนมากกว่าคนที่จะมาเป็นผีน้อยทำงาน จังหวัดคยองกีเป็นพันธมิตรกับการท่องเที่ยวของไทยมานาน
ตอนนี้เขาก็ตเองการขยายการท่องเที่ยวจากปูซาน เจจู มาทางเมืองรองมากขึ้น คล้ายๆกับนโยบายการท่องเที่ยวของไทยเรา
ก็จะมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ อย่างเมืองพาจู ก็น่าเที่ยว ใครที่มาเที่ยวเกาหลีบ่อยๆ 4-5 ครั้งแล้วไม่รู้จะไปไหน
เราในฐานะผู้ประกอบการก็ต้องผลิตสินค้าใหม่ๆ ที่น่าสนใจ Incentive Tour ก็สามารถมาดู วัฒนธรรม มาดูเกี่ยวกับการปลูกผลไม้ การเกษตร ก็จะได้รับความรู้เพิ่มเติมเข้าไป
ล่องเรือพระจันทร์ ที่ Gimpo
"ธนพล ชีวรัตนพร" Vice President สมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว
ธนพล ชีวรัตพร สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (Vice President)เห็นว่าบริษัททัวร์เองก็ต้องปรับตัว เพราะคนท่องเที่ยวก็เปลี่ยนไป
เช่นการเดินทางเป็นกรุ๊ปใหญ่ๆแบบเมื่อก่อนไม่ค่อยมี พอมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวน่าสนใจขึ้น
เพียงแต่เกาหลีต้องอำนวยความสะดวกในการเดินทางมาท่องเที่ยว เช่นตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นเองก็เปิดให้เข้าไปเที่ยวแบบฟรีวีซ่า
เที่ยวเดี่ยวๆไม่ต้องมาเป็นกรุ๊ปก็ได้ ถือว่าเป็นคู่แข่งที่สำคัญของเกาหลี เป้าหมายเดิมที่เคยทำไว้ 600,000 -700,000 คน
ก็ต้องทำงานหนักกว่าเดิม คิดว่าอนาคตอันใกล้นี้หลายประเทศก็จะเปิดให้เข้าไปเที่ยวอย่างเวียดนาม ไต้หวัน ฯลฯ
สายการบิน “Korean Air” ร่วมมือกับ Gyeonggi Tourism
ถือว่าเป็นการแข่งขันที่สูงมาก เพราะแต่ละประเทศที่กล่าวมาเป็นที่สนใจของคนไทย เพียงแต่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนสะดวกที่สุด
เจริญ วังอนานนท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ปีหน้าจะเป็นสงครามการท่องเที่ยว ที่แต่ละประเทศจะต้องแย่งชิมเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว
อยู่ที่ว่าใครจะมีฝีมือในการกวาดต้อนนักท่องเที่ยวได้มากที่สุด อยู่ที่วิสัยทัศน์ การวางแผน การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน
มีมุมมองที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน เราต้อง Give and Take วางบาลานซ์ให้ดี ไม่ใช่ Take อย่างเดียว อย่างบางคนบอกว่าเที่ยวต่างประเทศ คนไทยแห่เอาเงินออกไป ซึ่งก็ถูก
แต่อีกมิติก็คือ หากเรา Take อย่างเดียวไม่มี Give ใครจะมาทำงานร่วมกับเรา 10 ปีที่ผมทำงานเชิงนโยบาย
ทำให้รู้ว่าถ้าเราจัดบาลานซ์ให้ดีก็จะทำให้การท่องเที่ยวในประเทศเราเองดีขึ้น ตามลำดับ การท่องเที่ยวไปเมืองนอกก็ดีตามลำดับ
แต่ว่าสัดส่วนก็ยังเป็น 1 ต่อ5 Inbound เข้ามา 5 Outbound ออกไปแค่ 1 เอง ก็ถือว่ายังอยู่ในสภาพสมดุล