ชมปรากฏการณ์พระอาทิตย์ตก 15 ช่องปราสาทพนมรุ้ง ปี 65

ปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้นและตก ตรงช่อง 15 ประตูปราสาทพนมรุ้ง เป็นความมหัศจรรย์ของผู้สร้างโบราณสถานแห่งนี้ที่เกิดขึ้นทุกปี
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง สำนักศิลปากรที่ 10 จังหวัดนครราชสีมา กรมศิลปากร ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่าน มาร่วมชม แสงสุดท้ายของวัน
ท่ามกลางบรรยากาศปลายฝนต้นหนาว ที่ ปราสาทพนมรุ้ง เทวลัยบนภูเขา ในศาสนา พราหมณ์ฮินดู ลัทธิ ไศวนิกาย ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
- ปรากฏการณ์พระอาทิตย์ตก ตรง 15 ช่อง ประตูปราสาทพนมรุ้ง
รอบสุดท้าย ของปี ในเดือนตุลาคมนี้ ระหว่าง วันที่ 5 - 7 ตุลาคม 2565 พระอาทิตย์ตกตรง 15 ช่องประตู เวลาประมาณ 17.55 น.
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จะเปิดให้เข้าชม ปราสาทพนมรุ้ง ถึงเวลา 18.30 น. เป็นกรณีพิเศษใน 3 วันดังกล่าว
เหตุการณ์พระอาทิตย์ตกตรง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวัน หากมีฝนตก เมฆเยอะ หรือเมฆลงต่ำ จะไม่สามารถมองเห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวได้
ที่ผ่านมา อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้จัดกิจกรรม ปรากฏการณ์ชมพระอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง ระหว่าง วันที่ 9-11 กันยายน 2565
ในช่วงเช้า วันที่ 8 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 05.45 น. เห็นแสงดวงอาทิตย์ระหว่างเมฆบริเวณช่องประตู
แต่เมื่อถึงเวลา 05.57 น. เป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์จะตรงกับ 15 ช่องประตู พบว่ามีกลุ่มเมฆขนาดใหญ่เคลื่อนตัวลงต่ำ จึงทำให้ขอบฟ้าด้านล่างมีเมฆหนามาบดบัง จึงไม่สามารถเห็นแสงอาทิตย์ส่องผ่านช่องประตูได้
ดังนั้น นักท่องเที่ยวท่านใดสนใจชมปรากฏการณ์ดังกล่าว โปรดตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางมาชม
สอบถามได้ที่ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง บุรีรัมย์ Phanom Rung Historical Park โทร 044 666 251
- ประวัติความเป็นมา
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง : พระนางภูปตินทรลักษมี
จากการค้นพบจารึกที่ปราสาทพนมรุ้งจำนวน 14 หลัก ทำให้ทราบเรื่องราวของผู้สร้างปราสาทพนมรุ้งอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ มีนามว่า ‘นเรนทราทิตย์’
และบุคคลที่สืบทอดปกครองดูแลปราสาทพนมรุ้งและทำหน้าที่จารึกเรื่องราวความยิ่งใหญ่ของนเรนทราทิตย์ คือ ‘หิรัณยะ’ ผู้เป็นพระโอรส
ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงกว้างเช่นเดียวกับนเรนทราทิตย์ผู้สร้างปราสาทพนมรุ้งคือ ‘พระนางภูปตินลักษมี’
ในจารึกปราสาทพนมรุ้ง ๗ (K.๓๘๔) อักษรขอมโบราณ ภาษาสันสกฤต พุทธศตวรรษที่ 18 ได้ปรากฏพระนาม ‘ภูปตินลักษมีเทวี’ ซึ่งเคยมีการแปลความว่า
พระนางเป็นพระมารดาของนเรนทราทิตย์ และเป็นพระธิดาของพระเจ้าสุริยะวรมันที่ ๒ แห่งราชวงศ์มหิธรปุระ กษัตริย์แห่งอาณาจักรเขมรโบราณ ผู้สร้างปราสาทนครวัดอันยิ่งใหญ่
โดยเนื้อหาในจารึกระบุว่า "…ภูปตินทรลักษมีถือกำเนิดมาในราชสกุลวงศ์ นางได้รับความนับถือจากบุคคลทั้งหลายว่าเป็นภวานี (อวตาร) เป็นผู้ที่ประกอบด้วยคุณลักษณะแห่งพระบิดา คือ พระเจ้าสูริยวรมันที่ ๒ นางได้ให้กำเนิดแก่ นเรนทราทิตย์ผู้คล่องแคล่ว และเปรียบเสมือน ดวงจันทร์สำหรับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่…"
ในอีกแนวทางหนึ่งจากการศึกษาเรื่อง ‘จารึกพบที่ปราสาทพนมรุ้ง’ วิทยานิพนธ์ใน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ความเห็นว่า
พระนางภูปตินทรลักษมีฐานะเป็นน้องของพระเจ้ากษิตีนทราทิตย์ พระบิดาของพระเจ้าสูริยะวรมันที่ ๒ ดังนั้นพระนางภูปตินทรลักษมีจึงมีศักดิ์เป็น ‘น้า’ ของพระเจ้าสูริยะวรมันที่ ๒ และนเรนทราทิตย์ผู้สร้างปราสาทพนมรุ้งก็จะเป็นลูกพี่ลูกน้องของพระเจ้าสูริยะวรมันที่ ๒ นั่นเอง
ด้วยข้อจำกัดทางด้านตัวอักษรที่มีความเลือนลางและความเสียหายของจารึก จึงยังไม่อาจสรุปได้ว่าแท้จริงแล้วสถานะของพระนางภูปตินทรลักษมีเป็นเช่นใดกันแน่
แต่ที่แน่ชัดคือพระนางเป็นพระมารดาของนเรนทราทิตย์ผู้ก่อร่างสร้างความยิ่งใหญ่ และสถาปนาเทวลัยปราสาทพนมรุ้งแห่งนี้เป็นเทวลัยแห่งไศวนิกาย ลัทธิปศุปติที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งในอาณาจักรเขมรโบราณ