“เที่ยวทะเลหมอก” ที่ "ภูลังกา" จริงๆ ไม่สับสน
ปลายฝน ต้นหนาว ได้เวลาแบกเป้ออกเดินทาง “เที่ยวทะเลหมอก” อีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่คนมักจะสับสน แม้จะมีผู้พยายามแก้ไขให้แล้ว แต่ก็ยังมีความสับสนอยู่ นั่นก็คือ “ทะเลหมอก” ที่ “ภูลังกา”
เที่ยวทะเลหมอก ที่ ภูลังกา ถือว่าเป็นความสับสนกันมาอย่างช้านาน ระหว่างจุดชมทะเลหมอกหน้า “ภูลังการีสอร์ท”และ “ภูลังกา” จริงๆ
อาจจะเป็นความพลั้งเผลอหรือเข้าใจผิดของนักเดินทางรุ่นแรกๆ ที่เขียนบรรยายภาพทะเลหมอกหน้าภูลังการีสอร์ท
ว่าเป็น “ทะเลหมอกภูลังกา” เพราะแต่เดิม มีรีสอร์ทชื่อภูลังการีสอร์ทอยู่เจ้าเดียว
ตอนหลัง พอพื้นที่ดังเข้าจึงมีรีสอร์ท มีร้านอาหาร ร้านกาแฟมาสร้างริมถนนย่านนี้กันหลายเจ้าและตั้งชื่อภูลังกาๆ ต่อท้าย เป็นทิวแถว
คนเดินทางต่อมาจึงเรียกทะเลหมอกภูลังกาตามๆกันมา
มันผิดไหม?
มันก็ไม่ผิดหรอกครับ เพียงแต่คนจะเข้าใจผิดได้ เพราะมันมี “ภูลังกา” จริงๆ เพียงแต่ไม่ได้อยู่ที่นั่น แท้จริงแล้ว
ตรงบริเวณทะเลหมอกที่มองเห็นจากริมถนนหมายเลข 1148 (สองแคว-เชียงคำ)หน้า ภูลังการีสอร์ท นี้ เป็นทุ่งนาของบ้านห้วยเฟือง
ตำบลผาช้างน้อย อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะยา ซึ่งต่อเนื่องกับบ้านสะเกิน ซึ่งอยู่เขต ตำบลยอด อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน
ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ “ภูลังกา” เลยแม้แต่นิด เข้าใจผิดกันมานาน ซึ่งมีเพจท่องเที่ยวหลายเพจ ก็พยายามช่วยกันแก้ไขให้ถูกต้อง
แต่กระนั้น ก็ยังมีอีกหลายเพจ ยังคงสร้างความเข้าใจที่ผิดต่อไป ชนิดที่เนื้อหาพูดถึงภูลังกาในพื้นที่อนุรักษ์ แต่รูปภาพ เ
ป็นที่หน้าภูลังการีสอร์ทนี้ล้วนๆ ทำให้คนเดินทางรุ่นใหม่ อาจจะเข้าใจผิดๆ ได้เช่นเดิม
ทะเลหมอกบ้านห้วยเฟือง ที่ถูกทำให้เข้าใจผิด
แล้วภูลังกาจริงๆ อยู่ที่ไหน?
"ภูลังกา" จริงๆ ก็อยู่ย่านนี้แหละ เพียงแต่ถ้าอยู่ที่จุดชมทะเลหมอกหน้าภูลังการีสอร์ทนี้ จะมองไม่เห็นภูลังกา เพราะถูกภูเขาหลัง
ภูลังการีสอร์ท บังไว้ ตัวภูลังกานั้นต้องไปตามถนนหมายเลข 1148 นั่นแหละ อ้อมภูเขาไปทางเชียงคำ จะผ่านหน้า อบต.ผาช้างน้อย
ภูลังกา ตระหง่าน ในหุบโครงการหลวง
แล้วใกล้กับที่ทำการ อบต.จะมีทางเข้าไปโครงการหลวงปังค่า เข้าไปตามทางที่ขึ้นเขา พอสุดเนินเขา ทางก็จะลงเนินที่เป็นที่ราบ
ท่านก็จะเห็นภูลังกาตระหง่านอยู่ด้านหน้า ไปจนถึงโครงการหลวงปังค่า ซึ่งจากโครงการหลวง จะมีทางไปต่อ แต่ทางจะชันและคดเคี้ยวไปมามาก
ผานมในวันที่พอมีหมอกบ้าง
ถ้ารถท่านเป็นรถเล็ก ก็ให้จอดที่โครงการหลวง แล้วติดต่อ เช่ารถให้พาขึ้นไปเที่ยวบนภูลังกา แต่ถ้ารถท่านยังมีกำลังอยู่
ก็สามารถไปได้จนถึงหน่วยบริการท่องเที่ยวภูลังกา หลังจากนั้น ก็ติดต่อรถ 4 WD ให้พาขึ้นไปเที่ยวเช่นกัน
แต่เดิมนั้น "ภูลังกา" ขึ้นกับ “วนอุทยานภูลังกา” ซึ่งที่ทำการวนอุทยาน ก็คือศูนย์บริการท่องเที่ยวภูลังกาในปัจจุบันนี่เอง
ภายหลังพออุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยรวมเอาภูลังกาไปด้วย วนอุทยานภูลังกาจึงกลายเป็นส่วนหนึ่ง
ของอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกินไปโดยปริยาย เส้นทางที่ว่ามาทั้งหมดนี้ สภาพทางเป็นทางราดยางหรือทางปูนมาจนถึงศูนย์บริการนี่เลย
แต่ต่อจากที่นี่ ไปจนถึงยอดภูลังกา จะเป็นส้นทางรถ 4 WD บริเวณศูนย์บริการนี้ท่านสามารถมา “กางเต็นท์พักแรม” ได้
แสงแรกบนภูลังกา
“อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน” จัดเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับคนที่อยากพักแรม แต่คนส่วนใหญ่ จะขึ้นไปเที่ยวภูลังกาแบบไม่พักแรม
เพราะสามารถเที่ยวจนครบภายใน 4 ชม. ได้ ไม่จำเป็นต้องไปพักแรมแต่เดิมนั้น คนที่จะมา “เที่ยวภูลังกา” จะต้องแบกเป้ เดินเท้าขึ้นไปพัก
ในแอ่งกลางภูลังกา ทางเดินก็จะเดินขึ้นเขาอย่างเดียว มีป่าก่อต้นใหญ่ๆ ขึ้นกันหนาทึบ จนไปถึงบริเวณที่เป็นน้ำซับ
สวนหินล้านปี
ปัจจุบัน อบจ.พะเยา เคยมาสร้างเป็นกระท่อม ที่พักไว้ แต่ตอนนี้เหมือนจะทิ้งร้าง ไม่มีการปรับปรุงอะไร บริเวณนี้
แต่เดิมจะเป็นค่ายของ ผกค.เมื่อครั้งที่ ผกค.รุ่งเรือง ผมไปเดินป่าเมื่อราว 30 กว่าปีก่อน ต้องไปเอาม้งที่บ้านผาช้างน้อย
ซึ่งเขาก็เคยเป็น ผกค.อยู่ที่ภูลังกามาเป็นคนนำทางและเป็นลูกหาบ ตอนผมไปยังเห็นหลุมเพลาะ บังเกอร์ดิน อยู่เป็นระยะ
จากน้ำซับนี้ เดินขึ้นอีก หนึ่งเนินเขา ก็จะถึงสันเขา แล้วจึงตัดลงสู่ลานกลางแอ่งเขา
พระพุทธรูปทางด้านสวยหินล้านปี
ที่ว่ามาทั้งหมด คือเส้นทางเดินเท้าสมัยก่อน แต่เดียวนี้ รถ 4 WD พาขึ้นมาจากศูนย์บริการฯมาจนถึงแอ่งกลางเขานี้ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง
จากนั้นก็เดินเที่ยว ขึ้นไปทางฝั่งขวาที่เป็นภูเขาเตี้ยๆ เรียกกันว่า ผานม แล้วเดินไต่สันเขาที่ชันหน่อย แต่ก็เดินแล้วสนุก
ขึ้นมาทางยอดบัลลังก์เทวดา ที่เป็นจุดสูงสุดของภูลังกา ช่วงที่เดินขึ้นยอดบัลลังก์เทวดา มองย้อนกับไปทางผานม จะเห็นทิวทัศน์ที่สวยมาก
เดินขึ้นยอดบัลลังก์เทวดา ที่ชันเอาเรื่อง
หลังจากนั้นก็เดินตามสันเขา ไปทางสวนหินล้านปี ซึ่งเดี๋ยวนี้มีคนนำพระพุทธรูปไปตั้งไว้ด้วย จากนั้นก็เดินตัดทุ่งหญ้าลงมาที่จอดรถ
แล้วรถก็พามาส่งที่ศูนย์บริการหรือที่โครงการหลวง ก็แล้วแต่ว่าเราเริ่มต้นขึ้น 4 WD ที่ไหน ใช้เวลาเดินเที่ยวทั้งหมด ราว 3-4 ชั่วโมง
แล้วแต่เราว่าจะเที่ยวกันเร็วหรือช้า แต่ที่จะบอกคือเดี๋ยวนี้เขาไม่ให้ค้างแรมบนภูลังกาแล้ว
ภูลังกานั้นเที่ยวได้ตลอดปี แต่ผมไม่แน่ใจว่าอุทยานฯถ้ำสะเกินเขาปิดพื้นที่ช่วงไหนบ้าง ลองเช็คกับทางอุทยานฯกันดูนะครับ
แต่ถ้าเที่ยวในช่วงฤดูฝน บรรยากาศจะเขียวๆมีหมอก มีทะเลหมอกในบางวัน และที่สำคัญ ดอกไม้ป่าบานกันสะพรั่งเลย ผมไม่รู้ดอกอะไรกันบ้าง แต่สวยงามทีเดียว
ลานจอดรถ ที่เคยมากางเต็นท์พักแรมได้
แต่คนนิยมเที่ยวกันในฤดูหนาว เพราะฟ้าใส มองทิวทัศน์ได้ไกลๆ และอากาศดี แต่ดอกไม้จะไม่สวยเท่าในฤดูฝน
ถ้าช่วงเดือนพฤศจิกายน จะมีต้นบัวตองบานในบางพื้นที่บนนั้นด้วย ส่วนฤดูแล้ง ผมเองก็ไม่เคยไป
เดาว่าน่าจะมีควันไฟจากการเผาป่ากระมัง ฟ้าเลยจะหม่นๆ ไม่สวย
ฤดูฝนทั้งหมอกทั้งดอกไม้
ต่อจากนี้ ถ้าแค่ไปดู ทะเลหมอก หน้า ภูลังการีสอร์ท ที่อยู่ริมถนน ก็อย่าบอกว่าเป็นทะเลหมอกภูลังกา เพราะมันคนละพื้นที่
และห่างกันมาก เดี๋ยวคนไปภูลังกาจริงๆ เขาจะว่าได้ว่าทำไมไม่เหมือนในรูป
อันไหนภูลังกา อันไหนหน้าภูลังการีสอร์ทคงจะไม่สับสนกันแล้วนะ...