เปิด 3 เส้นทางท่องเที่ยวใหม่ 'UNFOLDING BANGKOK' วันที่ 12 พ.ย.- 5 มี.ค.66

'UNFOLDING BANGKOK' เป็นโครงการที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), กรุงเทพมหานคร และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB ได้ร่วมกันเปิดเทศกาลการท่องเที่ยวแหล่งใหม่ในกรุงเทพฯ

ภายใต้ 3 ธีมหลัก ประกอบด้วย Hidden Temple ท่องวัดลับ Greeting Benjakitti เที่ยวสวนป่ากลางเมือง และ Living Old Building ย้อนรอยอาคารประวัติศาสตร์ เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ในกรุงเทพมหานคร

โดยมีสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ พร้อมด้วย ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA),

ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB เข้าร่วมงาน

• เปิดประสบการท่องเที่ยวแนวใหม่

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า  โครงการนี้เป็นแผนงานที่สอดรับกับนโยบายรัฐบาลหลังจากได้เปิดประเทศเต็มรูปแบบ

"เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่และผู้เข้าร่วมประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเซีย-แปซิฟิก (APEC 2022) วันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของไทย

มั่นใจว่าทั้งปี 2565 จะมีต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในไทยไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน เรามีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย อย่างโครงการนี้มีการออกแบบเส้นทาง โดยนำเอาทุนทางวัฒนธรรม, ศิลปะ และวิถีชีวิตมาต่อยอด

ด้วยความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาสู่แหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ให้สอดรับกับบริบทของแต่ละพื้นที่ เพื่อเป็นจุดขาย สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ และนำร่องไปยังพื้นที่อื่น ๆ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา Soft Power อัตลักษณ์ไทยสู่เวทีโลก"

• จากอัตลักษณ์ท้องถิ่นสู่การท่องเที่ยว

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ CEA กล่าวว่า ในฐานะองค์กรขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เข้ามาดำเนินการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ

"ในโครงการนี้ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่าย อาทิ Urban Ally ศูนย์ข้อมูลสถาปัตยกรรมไทย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และมิตรเมือง ภาคีเครือข่ายย่านบางยี่เรือ-ตลาดพลู และชุมชน เป็นต้น

ในการคัดเลือกสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณค่าแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยนำความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยี มาเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ต่อยอดต้นทุนวัฒนธรรมและภูมิปัญญา

มีเป้าหมายสร้างรายได้และคุณภาพชีวิตของผู้คนในพื้นที่ สร้างระบบนิเวศสร้างสรรค์ ก่อเกิดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม ภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศไทย

โดยนำอัตลักษณ์ท้องถิ่นและของดีมาสร้างคุณค่าให้เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวใหม่ที่อยู่ในเมืองหลวงไทย สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน

กระตุ้นเศรษฐกิจระดับชุมชน ขยายย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของกรุงเทพฯ โดยตั้งเป้าว่าตลอดโครงการจะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท

โครงการ UNFOLDING BANGKOK เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 ถึงวันที่ 5 มีนาคม 2566 ภายใต้ 3 ธีมหลัก

1) Hidden Temple ท่องวัดลับ ที่มีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ จัดแสดงแสงสี และการละเล่น (Performing Art) เช่น กระตั้วแทงเสือ, เชิดสิงโต, ศิลปะแทงหยวก, การแสดงหุ่นกระบอกจีน, รำกระบี่กระบอง มาแสดง

เริ่มจาก วัดอินทาราม, วัดจันทาราม, วัดราชคฤห์ ย่านตลาดพลู วันที่ 12-20 พฤศจิกายน 2565 ต่อด้วย วัดภุมรินทร์ราชปักษี, วัดดุสิดาราม ย่านบางกอกน้อย วันที่ 10-18 ธันวาคม 2565 และ วัดพระยาศิริไอยสวรรค์, วัดสวนสวรรค์, วัดคฤหบดี ย่านบางยี่ขัน วันที่ 24-31 ธันวาคม 2565

2) Greeting Benjakitti เที่ยวสวนป่ากลางเมือง ณ สวนป่าเบญจกิติ แหล่งรวมพันธุ์ไม้พื้นเมือง สวนสาธารณะกลางกรุงเทพฯ โดย CEA ร่วมกับศิลปินจัดทำประติมากรรม Art Installation พร้อมจัดกิจกรรมการแสดง Performing Art และกิจกรรมเวิร์คช็อป วันที่ 28 มกราคม ถึง 26 กุมภาพันธ์ 2566

3) Living Old Building ย้อนรอยอาคารประวัติศาสตร์ โดย CEA ร่วมกับ Urban Ally คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กลุ่ม Lighting Designers Thailand (LDT) และ การรถไฟแห่งประเทศไทย

นำพื้นที่อาคารที่มีคุณค่าทางศิลปะและประวัติศาสตร์ มาปรับปรุงออกแบบแสงสี (Lighting) จัดแสดงโชว์ความสวยงามของอาคาร

พร้อมจัดกิจกรรมให้อาคารเก่ากลับมามีชีวิตใช้ประโยชน์ได้อีกครั้งและเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ อาทิ  อาคารสถานีรถไฟหัวลำโพง, สำนักงานประปาแม้นศรี เป็นต้น ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ถึง 5 มีนาคม 2566