สายเที่ยวห้ามพลาด! เทศกาลไฟราชบุรี ณ สัทธา สุดยิ่งใหญ่รับ "ฤดูหนาว 2565"
ใครที่ชอบเที่ยวในบรรยากาศ "หน้าหนาว" แต่ไม่อยากเดินทางไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก สามารถมาเช็กอิน พร้อมถ่ายภาพสวยๆ ได้ที่เทศกาลแสดงไฟสุดอลังการ 16 จุด ในงาน Nasatta Light Festival Winter Illumination 2023
บรรยากาศแห่งการท่องเที่ยว "ฤดูหนาว 2565" กลับมาอีกครั้ง ใครที่ยังไม่มีแผนไปเที่ยวส่งท้ายปีที่ไหน หรืออยากไปเที่ยวไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แนะนำให้เดินทางมาเที่ยวที่ จ.ราชบุรี เพื่อชมนิทรรศการไฟสุดอลังการกว่าล้านดวง พร้อมเทคนิคพิเศษทันสมัยที่จะทำให้การชมนิทรรศการในไทยไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ในงาน Nasatta Light Festival Winter Illumination 2023 ณ สัทธา อุทยานไทย
โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตั้งแต่วันพุธ - วันอาทิตย์ ระหว่างวันที่ 23-27, 30 พ.ย. 2565 และ วันที่ 1-5 , 7-12 , 14-18 , 21-25 , 28-31 ธ.ค. 2565 และ 1-2 , 4-8, 11-15 , 18-22 ม.ค. 2565 เข้าชมได้ในช่วงเวลา 18.00 -22.00 น. เพื่อร่วมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไปกับบรรยากาศความงดงามของแสงไฟ
นอกจากความสวยงามของสถานที่แล้ว ภายในงานยังมีบริการชุดไทยให้เช่าสำหรับผู้ชายและผู้หญิงในราคาตั้งแต่ 250-800 บาท พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลช่วยเหลือตั้งแต่การเลือกสีชุดให้เข้าคู่กัน ช่วยแต่งตัว รวมไปถึงเลือกเครื่องประดับ หรือถ้าใครมีชุดอยู่แล้วก็สามารถนำไปเปลี่ยนได้ โดยมีที่เก็บของบริการในราคา 100 บาท และมีค่าเข้าชมงานอยู่ที่ 300 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และ 200 บาท สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี แต่ถ้าคิดว่าแค่รอบกลางคืนยังไม่จุใจก็สามารถเลือกเข้าชมงานทั้งวัน (09.00-22.00 น.) ในราคา 350 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และ 250 บาทสำหรับเด็ก
สำหรับ งาน “Nasatta Light Festival Winter Illumination 2023” ไม่ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่จัดมาเป็นปีที่ 5 แล้ว ภายในธีม “Illumination Festival” ที่ ณ สัทธา อุทยานไทย อ.บางแพ จ.ราชบุรี ถือว่าเป็นงานแสดงไฟประดับที่ใหญ่ที่สุดในราชบุรีอีกด้วย โดยภายในอุทยานไทยมีประติมากรรมต่างๆ แสดงออกถึงความเป็นไทยอยู่รวมกับ แสง สี เสียง มีความทันสมัยไม่เหมือนใคร ซึ่งออกแบบโดย Lighting Designer ระดับประเทศ
สำหรับจุดแสดงงานและถ่ายรูปทั้งหมด 16 จุด มีความแตกต่างกันออกไปดังนี้
1. ILLUMINATION 1 : Thai Glorious Era (Dynamic Light Show)
“ยุคทองของไทย” จัดแสดงลายเส้นไฟประดับร้อยเรียงเป็นภาพวัดสำคัญในแต่ละยุคสมัย ตั้งเด่นเป็นฉากหลังของสามมหาราชไทยที่ประดิษฐานเป็นสง่า ณ ลานมหาราชกษัตรา วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เบื้องหลังสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, วัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา เบื้องหลังสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เบื้องหลังพระบรมรูปสมเด็จพระปิยมหาราช ใช้ไฟประดับตกแต่งเพื่อสื่อถึงความรุ่งเรืองของแผ่นดินไทย ที่มาจากการเสียสละบรรพบุรุษไทย
โดยใช้เทคนิค ไฟ LED ดัดแต่งเป็นภาพโครงร่างวัดสำคัญประจำแต่ละรัชสมัย แสดงเป็นฉากหลังพระบรมรูปแต่ละพระองค์ ประดับด้วยไฟกระพริบกว่า 50,000 ดวง ให้บรรยากาศเหมือนแสงหิ่งห้อยยามค่ำคืน บริเวณลานด้านหน้าตกแต่งด้วยหลอดไฟก้านยาวเต็มพื้นที่ เสมือนทุ่งดอกไม้เรืองแสงที่สื่อถึงความรุ่งเรืองของแผ่นดินทอง
2. ILLUMINATION 2 : Season Change (Immersive Art)
“เส้นทางปลุกพลังชีวิตเริ่มต้นสิ่งใหม่” นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงามของธรรมชาติที่แวดล้อมด้วยสระน้ำและทุ่งแสงไฟประดับเปลี่ยนสี ภาพสะท้อนในรูปแบบของ Immersive Art & Reflection Light Garden ตลอดเส้นทางเดิน ซึ่งเป็นแนวคิดที่สร้างความรู้สึกรับพลังจากความสว่างไสวของไฟราวกำลังเดินในแดนสวรรค์ส่งมอบกำลังใจในวันเริ่มต้นใหม่
สำหรับเทคนิคไฟในจุดนี้เป็นการประดับไฟหยดน้ำ ห้อยเป็นสายจากกิ่งก้าน ตกแต่งไฟบริเวณลำต้นของต้นไม้ใหญ่ พร้อมไฟ LED ขนาดเล็กตามพุ่มไม้รอบข้างทางเดิน ให้เกิดความสว่างไสวทั่วบริเวณอุทยาน นำเสนอความงามของธรรมชาติ น้ำ แสง เงา และฝน ในรูปแบบของ Immersive Art
3. ILLUMINATION 3 : Mikky way
สีสันดอกไม้ เพื่อมอบความสุขด้วยมวลดอกไม้ไฟประดับกับซุ้มบุปผาดอกมเรืองแสง ท่ามกลางไฟหลายล้านดวง ใช้เทคนิคไฟประดับดอกไม้ห้อยเป็นระย้า ตกแต่งต้นไม้โดยรอบพร้อมไฟ LED ขนาดเล็ก Reflection & Dynamic Light
4. ILLUMINATION 4 : Thai spirit
จิตวิญญาณแห่งสยาม เป็นการประดับไฟรอบ พุทธศิลป์สมัยอู่ทอง-อยุธยา ให้สว่างทั่วบริเวณฐานพระอุโบสถที่ประดับด้วยทุ่งดอกดอกบัวเรืองแสง เปรียบเสมือนปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ด้วยสติ รวมถึงวางประดับพระอุโบสถถวายเป็นพุทธบูชา เปรียบเสมือนการเริ่มต้นตั้งจิตถึงความดี คิดดี ทำดี พูดดี ที่จะกระทำในปีใหม่ที่จะมาถึง โดยในโซนนี้ใช้เทคนิค Immersive Art & Reflection Light ประดับไฟ LED ในรูปแบบแท่งดอกบัว ในตำแหน่งต่าง ๆ ของยอดเสาวิหาร และพื้นที่ทั่วบริเวณฐานพระ
5. ILLUMINATION 5 : Sacred wave
คลื่นศักดิ์สิทธิ์ เติมเต็มความเรืองรองสว่างไสวของชีวิตด้วยไฟประดับ แสงแห่งความสดใส การเริ่มต้นสิ่งใหม่ด้วยพลังแห่งวันใหม่ของชีวิต มาพร้อมทุ่งแสงไฟที่สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้ ประกอบกับการตกแต่งไฟบริเวณฐานพระ เพื่อสร้างความรู้สึกถึงความตั้งมั่น เชื่อมั่น กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ใช้เทคนิคประดับด้วยเส้นใยนำแสงบนพื้นรอบฐานพระ ด้วยเทคนิคไล่แสง เป็นทุ่งแสงระยิบระยับ Immersive Art & Reflection Light พร้อมดอกบัวทำมือเรืองแสงจัดวางประดับราวกับบึงบัวด้านหน้าองค์พระประธาน
6. ILLUMINATION 6 : Blessing blossom
แสงเกสร มาจากแนวคิดดอกไม้ที่เบ่งบานเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นใหม่ ความสุขและความอิสระเสรี ตรงจุดนี้จะเห็นหมู่ดอกไม้ยักษ์ กับพรรณไม้เรืองแสง ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้พลังจากคนที่ใกล้ชิดคนที่เรารักและผูกพันให้เรามีกำลังใจพร้อมที่จะเผชิญกับทำทุกสิ่งบนโลกใบนี้ด้วยความเข้มแข็ง โดยใช้ LED ดอกไม้ประดิษฐ์เรืองแสง Reflection Light และ LED ดอกไม้เรืองแสง 3 สี
7. ILLUMINATION 7 : Magic cave & Glow
ถ้ำเวทมนต์และต้นไม้เรืองแสง เป็นอุโมงค์ถ้ำด้วยเส้นสายเรืองแสงถักทอเป็น “ปรากฎการณ์เรืองแสง” ท่ามกลางความเย็นฉ่ำในโถงถ้ำและเสียงน้ำตก นอกจากนี้ขณะเดินลอดผ่านจะมาพบกับต้นไทร ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่น ร่มเย็น มีใบแพร่ขยายให้ความรู้สึกปกป้อง คุ้มครองภายใต้ร่มเงา เหมือนได้รับพลังที่เติมเต็มความมุ่งมั่นพร้อมเผชิญสิ่งใหม่ สำหรับเทคนิคที่ใช้คือ แสดงผ่านสื่อผสมเส้นใยนำแสงและสารเรืองแสง
8. ILLUMINATION 8 : Breath of light tunnel
อุโมงค์ลมหายใจแห่งแสง เป็นอุโมงค์ยาวประดับไฟลายดอกไม้สว่างไสวสวยงาม เสมือนเส้นทางเดินในชีวิตที่กำลังเริ่มต้นด้าวไปด้วยความสุข ความอบอุ่น ความเบิกบาน ก่อนที่จะไปพบความตื่นตาตื่นใจไปในพื้นที่ถัดไป ซึ่งใช้วิธีจัดแสดงไฟประดับ LED รูปดอกไม้เป็นอุโมงค์โค้งยาวกว่า 80 เมตร สวยงามระยิบระยับตลอดทางเดิน
9. ILLUMINATION 9 : Joyful light field
ลานแสงแห่งความสุข เป็นการฉายภาพมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ ดอกหญ้าสีสันสดใสกลางทุ่ง สร้างพลังความหวังแห่งชีวิตในการเริ่มต้น ชมดอกไม้โดยรอบจะเปลี่ยนสีได้ พลิ้วไหวด้วยท่วงท่านองแห่งความรื่นรมย์ ใช้วิธีการนำเสนอด้วยแสงไฟเป็นแบบ DYNAMIC LIGHT
10. ILLUMINATION 10 : Fluffy light dance
ระบำแสงไฟ มาจากแนวคิดภาพมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ ดอกหญ้าสีสันสดใสกลางทุ่ง สร้างพลังความหวังแห่งชีวิตในการเริ่มต้น ชมดอกไม้โดยรอบจะเปลี่ยนสีได้ พลิ้วไหวด้วยท่วงท่านองแห่งความรื่นรมย์ ใช้แสงไฟเป็นแบบ DYNAMIC LIGHT ในการจัดแสดง
11. ILLUMINATION 11 : Origin of light fest จุดเริ่มต้นเทศกาลไฟ
12. ILLUMINATION 12 : Glittering Song
13. ILLUMINATION 13 : Nymph forest ภูติแห่งป่า
ตั้งแต่จุดที่ 11-13 จะมีแนวคิดเดียวกันคือ แรงบันดาลใจแห่งพรรณพฤกษา ความงามของดอกไม้ไทยประยุกต์จำลองเรืองแสงที่ห้อมโอบล้อมทุ่งดอกไม้เรืองแสงสีฟ้าละมุนที่สามารถเปลี่ยนสี สร้างท่วงทำนองที่ลื่นไหล โดยใช้เทคนิค Interactive Lighting เปลี่ยนแปลงสภาวะแสงเมื่อสัมผัส
14. ILLUMINATION 14 : Pray
อธิษฐาน เป็นระลอกเคลื่อนที่ของแสง “คลื่นแห่งความหวัง” ร่วมกันสั่นกระดิ่งสร้างการคลื่นไหวของละลอก ลูกบอลไฟประดับเปลี่ยนสีกับดอกไม้หหลากสีสัน ใช้เทคนิค Interactive Art ระลอกการเคลื่อนที่ของแสง จุดเริ่มต้นจากการส่งคำอธิษฐานผ่านการสั่นกระดิ่ง เสียงสัมผัสลูกแก้ว
15. ILLUMINATION 15 : fireflies ภูติแห่งแสง
16. ILLUMINATION 16 : Lotus journey
การผจญภัยแห่งบัว เป็นสุดท้ายเพื่อไปยังทางออก สื่อถึงการเดินทางเปรียบเสมือนเรือที่กำลังลอยในสายน้ำไปในทิศทางที่เราเป็นผู้กำหนด แม้จะมีอุปสรรคดั่งคลื่นอย่างไรก็ตามสามารถข้ามพ้นผ่านด้วยสติและกำลังใจ จากภาพมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ โดยนักท่องเที่ยวสามารถลงเรือถ่ายรูปได้ โดยใช้เทคนิกฉาย PROJECTOR MAPPING ลงบนเรือและผิวน้ำ
จากจุดเช็กอินและถ่ายรูปทั้งหมด 16 จุด ภายในอาคารนั้นแต่ละจุดมีความโดดเด่นและมีเรื่องราวแตกต่างกันออกไป หากจะให้เลือกจุดที่เป็นไฮไลต์คงทำได้ยาก นอกจากนี้หากชมงานเสร็จแล้วเมื่อออกมาจะมีศูนย์อาหารคอยบริการอีกด้วย