“เที่ยวเชียงใหม่” เยือน"น้ำตกแม่เตี๊ยะ"ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
“เที่ยวเชียงใหม่” กลับไปชื่นชมความงามของ “น้ำตกแม่เตี๊ยะ” อำเภอจอมทอง กลับไปเยือน “หุบเขาสีลูกกวาด” ที่เคยประทับใจในช่วง ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี วันนี้ยังสวยเหมือนเดิม ทว่าความเงียบสงบแบบเมื่อ 20 ปีก่อน ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
เที่ยวเชียงใหม่ ที่ น้ำตกแม่เตี๊ยะ เห็นความงามของ ใบไม้เปลี่ยนสี ครั้งนี้เท้าความไปที่ ในหนังสือ ตะกอนป่า ที่ผมเขียนไปเมื่อร่วม 20 ปีก่อน
มีบทหนึ่ง ชื่อว่า หุบเขาสีลูกกวาด ผมตั้งชื่อนี้เพราะภาพเห็นนั้นประทับใจมาก เมื่อผมขับรถ 4 WD คันเก่ง
เข้าไปตามทางซอกแซก ลัดเลาะภูเขาไปเรื่อยๆ จนลงไปยังหุบเขาแห่งหนึ่งที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี
ผมลงไปจนสุดถนนลาดยาง เห็นเป็นลานจอดรถเล็กๆ มีห้องน้ำ แต่ไม่มีไฟฟ้า มองจากลานจอดรถเห็นยอดน้ำตกอยู่ไกลออกไปไม่มาก
คืนนั้นผมเลยอาศัยนอนในรถเพียงคันเดียว ที่อยู่กลางหุบเขา เงียบ สงบ ตอนนั้นไม่รู้เลยว่ามีมนุษย์อื่นใดนอกจากผมหรือเปล่า
กลางคืน สัมผัสได้ถึงความสงัดของป่าเขาที่รายล้อม มีเพียงเสียงน้ำในลำห้วยที่ส่งเสียงตลอดเวลา
เช้าขึ้นมา จึงเดินไป น้ำตกแม่เตี๊ยะ ตามทางเดินเล็กๆ ในยามเช้า แสงอุ่นๆ สวยงามมาก แสงแทงผ่านยอดเขาเป็นลำ
มีนาขั้นบันไดเล็กๆ เนื้อที่ไม่กว้างนัก เจ้าของที่แปรสภาพทุ่งนามาปลูกหอมแดงในช่วงฤดูว่างนา หอมแดงกำลังเขียวเต็มแปลง
เถียงนาเล็กๆ มีเจ้าของที่เป็นกระเหรี่ยงชรา กำลังหุงต้มมื้อเช้า ที่แท้กระท่อมนาอยู่ด้านล่างลานจอดรถมีต้นไม้บัง
และเสียงน้ำในลำธารดังกลบสรรพเสียง ถ้ารู้ว่ามีคน อาจจะมานั่งคุยด้วยแก้เหงาไปแล้ว
เมื่อมาอยู่กลางทุ่งจึงได้รู้ว่าทุ่งนาเล็กๆแห่งนี้รายล้อมด้วยสีสันของใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี ด้วยเป็นช่วงที่ป่าเต็งรังกำลังเปลี่ยนสีพอดี
เหลือง แดง ส้ม เขียว น้ำตาล กลาดเกลื่อนไปทั้งหุบเขา ยามลงพัดใบไม้สะบัดไปมา เคลือบมันวาวบนใบไม้ล้อแดดวิบวับ
มีกระท่อมเล็กๆ และทุ่งนาน้อยสงบนิ่งอยู่ตรงกลาง ผมว่ามันคือภายในฝัน ในจินตนาการของจิตรกร ที่บรรจงวาดลงบนผืนผาใบ
แต่นี่มันคือความจริง ที่นี่คือทุ่งนาที่ น้ำตกแม่เตี๊ยะ ในช่วง ใบไม้เปลี่ยนสี เมื่อผมได้เขียนถึง จึงตั้งชื่อว่า หุบเขาสีลูกกวาด
ใกล้ชิดสายน้ำตกที่สุด
น้ำตกแม่เตี๊ยะ เมื่อยามนั้น แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำทางรถยนต์ลงมาจนถึงข้างล่าง และเดินมาอีกราว 300 เมตร แล้วจึงข้ามลำธาร
เดินไปยังน้ำตกที่สูงใหญ่ ตกลงมาจากหน้าผาหินที่สูงรวม 60 เมตร ตกลงมาเป็นสองชั้นใหญ่ๆ ต่อเนื่อง โดดเด่น ตระหง่าน
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ริมอ่างเก็บน้ำก่อนขึ้นเขาไปน้ำตก
และยิ่งตระการตาเมื่อมี ใบไม้เปลี่ยนสี ตกแต่งสภาพแวดล้อม เขาทำบันไดดินให้ป่ายปีนขึ้นไปยังชั้นบนของน้ำตกได้
เมื่อมองลงมาจากหัวน้ำตกชั้นบนสุด ก็เห็นกระท่อมเล็กๆในหุบเขาสีลูกกวาดโดดเด่นและสวยงาม
ความตระการของ "น้ำตกแม่เตี๊ยะ"
20 ปี กว่าปีล่วงมา ผมเคยเข้าไป น้ำตกแม่เตี๊ยะ อีกเพียงครั้งเดียว ซึ่งก็นานมาแล้ว จนมาปีนี้ เห็นทาง อุทยานแห่งชาติออบหลวง
โพสต์ภาพ น้ำตกแม่เตี๊ยะ ที่มีเต็นท์พักแรมกางด้านหน้าน้ำตก จึงรู้ว่ามีการพัฒนาพื้นที่แล้ว
จนผมขึ้นมาตระเวนเที่ยวปีใหม่ในปลายเดือนธันวาคม 2565 จึงถือโอกาสเข้าไปเยือนหุบเขาในความทรงจำนี้อีกครั้งหนึ่ง
ทางเข้าน้ำตกแม่เตี๊ยะ จะมีซอยเล็กๆข้างที่ว่าการ อำเภอจอมทอง เข้าทางเดียวกันกับที่จะไป สถานปฏิบัติธรรมนิโรธาราม
เข้าไปตามทางเรื่อยๆ จะผ่านนิโรธาราม ผ่าน บ้านแม่เตี๊ยะ ทางจะแคบและเริ่มขึ้นเขา ทางโค้งหักศอกบ่อยต้องใช้แตรเพื่อความปลอดภัย
ทุ่งนาน้อยก่อนเข้าเขตบ้านแม่เตี๊ยะ
จนผ่านหน่วยพิทักษ์ฯแม่เตี๊ยะของ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เลยไปอีก ก็จะถึงหน่วยพิทักษ์ฯดอยแก้ว ของ "อุทยานแห่งชาติออบหลวง"
และจะมีทางขึ้นไปยังบ้านขุนแตะ ซึ่งโครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระพันปีหลวงด้วย
จากแยกตรงหน่วยพิทักษ์ป่านี้ ลงไปอีก 3 กม.ในทางที่แคบ บางช่วงลงเขา บางช่วงขึ้นเขา โค้งเล็กโค้งน้อย ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่
เหล่านี้คือสิ่งที่เหมือนกันกับเมื่อนานที่ผมมา แต่วันนี้ไม่เหมือนวันนั้นคือ วันนี้ ป่ายังไม่เปลี่ยนสี และคนเยอะมาก
รถจอดกันเต็มลานที่ผมเคยมาจอดนอนคันเดียวเมื่อ 20 กว่าปีก่อน แต่มาวันนี้แทบไม่มีที่จอด
ทางเดินที่ผมเคยเดินไปน้ำตก เป็นทางรถยนต์(แต่เป็นทางดิน) ลงไปจนถึงลำห้วยที่ผมเคยข้าม เจ้าหน้าที่ให้รถเข้าไปส่งสัมภาระได้แล้ววนออกมาจอดที่เดิม
ทุ่งนาน้อยในหุบเขาที่เคยมาเจอ
ลานกางเต็นท์ ด้านหน้าน้ำตก เต็มไปด้วยเต็นท์สารพัดรูปแบบและสีสัน น้ำตกแม่เตี๊ยะ ยังคงสูงตระหง่าน ดูยิ่งใหญ่ไม่เสื่อมคลาย
คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ทุ่งนาน้อยและเถียงนา มีการกั้นรั้วแบ่งกันชัดเจน ถามไถ่เจ้าหน้าที่ เป็นการให้สิทธิชาวบ้านทำกินในพื้นที่อุทยานฯ
เพราะเขาทำและอยู่มานาน แต่พอการท่องเที่ยวมันเปิดมากขึ้นจึงต้องขัดบ่งพื้นที่ให้ชัดเจน กระท่อมน้อยที่ผมเคยมาเห็น ก็ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนตำแหน่งไปจากเดิม
ป่าเต็งรัง ในอุทยานแห่งชาติออบหลวง ขึ้นชื่อเรื่องใบไม้เปลี่ยนสี
อะไรๆก็เปลี่ยนไปตามสภาพสังคม ผมอาจจะชมชอบน้ำตกแม่เตี๊ยะ ที่อยู่ท่ามกลาง หุบขาสีลูกกวาด แบบเดิมที่เงียบสงบ
ผู้คนมาน้อยคน แต่ก็ไม่อาจจะปฏิเสธความเปลี่ยนแปลงของโลกไปได้ ยิ่งการท่องเที่ยวกำลังบูม
โดยเฉพาะในปี 2565 ที่ผู้คนอัดอั้นไม่ได้ท่องเที่ยวเต็มรูปแบบมา 2 ปี พอเปิดให้ท่องเที่ยว เลยเรียกว่า “ทะลัก”
ขนาดว่ามายาก ยังมีผู้คนมากมาย
ก็ขนาดลึกลับ มายาก แบบน้ำตกแม่เตี๊ยะ คนยังมากมายขนาดนี้ นี่ถ้ารอให้เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่สถานที่สวยจัดจ้าน คนมิยิ่งล้นหลามกว่านี้รึ
หุบเขาสีลูกกวาด ที่ผมเคยมา วันนี้กลายเป็นหน้าตา และจุดท่องเที่ยวใหม่ของจอมทองไปแล้ว
สวัสดีแม่เตี๊ยะ และสวัสดีปีใหม่ 2566 ท่านผู้อ่านของผมด้วยครับ.....
ชมความงามของ "น้ำตกแม่เตี๊ยะ" แบบใกล้ๆ