ชวนเที่ยว ‘โฮงเจ้าฟองคำ’ จ.น่าน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีชีวิต

เรือนไทยล้านนาโบราณ ‘โฮงเจ้าฟองคำ’อายุกว่า 100 ปี เปิดให้เข้าชม เป็นการต่ออายุสร้างชีวิตชีวาให้เรื่องราวในอดีตได้กลับมาสู่ปัจจุบันอีกครั้ง
‘โฮงเจ้าฟองคำ’ จ.น่าน เป็นเรือนไทยล้านนาที่อยู่อาศัยกันมาตั้งแต่รุ่นทวด ตกทอดมาถึงรุ่นปัจจุบัน
ได้รับการดูแลรักษาซ่อมแซมอย่างดี เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนรุ่นใหม่ ‘โฮง’ เป็นคำพื้นเมือง หมายถึงที่อยู่อาศัยของเจ้านายล้านนาไทย
สร้างขึ้นที่ค่ายสุริยพงษ์ในปี พ.ศ.2368 แล้วย้ายมาสร้างที่บ้านพระเกิดปี พ.ศ.2454 เป็นเรือนไม้สัก 3 หลังติดต่อกัน
เป็นบ้านพักของเจ้าศรีตุมมากับเจ้ามะโน เจ้าศรีตุมมาเป็นหลานของเจ้ามหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 11 ส่วนเจ้ามะโนเป็นน้องของพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช
ต่อมารัฐบาลต้องการสถานที่สร้างค่ายทหาร เจ้าบุญยืน ธิดาของเจ้าศรีตุมมากับเจ้ามโน จึงย้ายตัวโฮงมาสร้างในที่ปัจจุบัน
ตกทอดสืบมายัง ‘เจ้าฟองคำ’ ธิดาของเจ้าบุญยืนกับเจ้าอินต๊ะ
ทายาทคนปัจจุบัน ภัทราภรณ์ ปราบริปู บุตรสาวของเจ้าฟองคำ เล่าว่า เจ้าฟองคำสมรสกับนายถวิล คงกระจ่าง มีลูกด้วยกัน 7 คน เสียชีวิตไป 4 คน เหลือ 3 คน
"เจ้าฟองคำเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2533 ขณะอายุ 81 ปี มีเจตนารมณ์อนุรักษ์เรือนล้านนาไว้ให้ลูกหลานได้ศึกษาต่อไป"
- เรือนไม้สักแบบล้านนา
โฮงเจ้าฟองคำ เป็นเรือนไม้สัก ยกใต้ถุนสูง หลังคาทรงจั่ว มุงด้วยแป้นเกล็ด ต่อมาเป็นกระเบื้องดินขอ
เป็นสถาปัตยกรรมล้านนาแบบเรือนคู่ มีนอกชาน แบ่งเป็นห้องนอน, ห้องรับแขก, ห้องครัว บันไดทางขึ้นบ้านด้านหน้ามีหลังคาคลุม
ชั้นบนเป็นที่พักอาศัย เป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น จัดแสดงวิถีชีวิตในอดีต สิ่งของเครื่องใช้โบราณที่มีคุณค่า ชั้นล่างเป็นใต้ถุนโล่ง สาธิตการทอผ้า การปั่นฝ้าย
"บ้านหลังนี้สร้างด้วยไม้สัก ถากเสาและไม้กระดานด้วยขวาน เจาะร่องไม้เข้าลิ่ม ใส่ไม้เล็ก ๆ แทนน็อต บูรณะครั้งสุดท้ายปี พ.ศ. 2548 เพื่อทาสี ซ่อมเปลี่ยนไม้ที่ผุพัง
ห้องใหญ่ที่สุดคือ หน้าโฮง หรือ คุ้ม มี ‘หำยนต์’ อยู่เหนือประตูทางเข้า ลงอักขระป้องกันสิ่งไม่ดีเข้าสู่ตัวเรือน สลักลายดอกหงส์โค่ง บอกว่าเรือนนี้มีเจ้าปกครอง
หมอนฝายของเจ้ามะโน ปักผ้าหน้าหมอน ด้วยดิ้นเงินดิ้นทอง ช้างหมายถึงความยิ่งใหญ่ ม้าหมายถึงชัยชนะ นกกินน้ำร่วมต้นไม้หมายถึงความอุดมสมบูรณ์
ห้องนอนทางซ้าย มีผ้าห่มโบราณที่มีดอกไม่เท่ากัน ที่นอนทำด้วยดอกนุ่นดอกงิ้ว มีที่เก็บของด้านบนเพื่อประหยัดพื้นที่ เรียกว่า ควั่น
ผู้หญิงในอดีตต้องทำเครื่องนุ่งห่มเป็นถึงจะออกเรือนได้ จึงมีเครื่องทอผ้า จัดแสดงผ้าจ.น่าน 7 ลายให้ชม
ผ้าลายน้ำไหล การสอดไหมให้น้ำเชี่ยวต้องมีเทคนิค ใส่สีเขียวเพกา ดำลูกมะเกลือ แดงไม้ประดู่
ส่วนซิ่นตีนจก จะจกลายข้างล่างด้วยขนเม่น เจ้านายเมืองน่าน จะใส่ลายยกดอกกะไหล่ทองใส่ มีวิธีเก็บลายยังไงให้สวยทั้งสองด้าน
ด้านหลังเป็นห้องครัวไฟ ทำอาหารด้วยฟืน มีที่แขวนด้านบนเหนือเตาเรียกว่า ‘หิ่ง’ เพื่อใช้ควันไฟถนอมอาหาร
ที่ไม่เหมือนใครคือ ที่ขูดมะพร้าว คนเมืองน่านจะไม่ใช้กระต่าย แต่ใช้เป็นแมวเรียบร้อยหุบหางขูดมะพร้าวแทน
สมัยก่อนไม่มีตู้เย็น มีหม้อดินเก็บน้ำฝนไว้ ชุดหนึ่งอยู่บนบ้าน อีกชุดหนึ่งอยู่ข้างล่างบ้านหลังนี้คุณตาเคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน เลยมีเกราะแขวนไว้ เพื่อตีกะลก
ส่วนห้องด้านหน้า จัดแสดง สตางค์แดง, สตางค์หู, เบี้ยหอย (800 เบี้ยมีค่าเท่ากับ 1 เฟื้อง) เงินเชียงใหม่, เงินสยาม เหรียญ ร.5, เงินจีน, เงินลาว, เงินแถบ, เครื่องเงิน, เข็มขัดอินเดีย, มีดเจียนหมาก, พานเมืองลาว พม่า กัมพูชา น่าน
เครื่องเงินของน่าน จะมีลายดอกชัดเจน ขันใบใหญ่เรียกว่า สลุง มีกลองมโหระทึกทำด้วยทองสำริด ไว้ทำพิธีขอฝน เรียกว่า โอก หนัก 21 กิโล ส่วนด้านล่างใต้ถุนบ้านเป็นวิถีชีวิตการทอผ้า"
- ไข่งามงอน
ทายาทของเจ้าฟองคำเล่าว่า สมัยเด็ก ๆ ที่บ้านชอบทำอาหารชนิดหนึ่งทานกัน เป็นเมนูโปรดของครอบครัว
"เมนูนี้เจ้าฟองคำทำมาตั้งแต่เด็ก ๆ คนที่เคยทานจะเรียกว่า ไข่คว่ำ เพราะเวลาทอดต้องคว่ำหน้าลง
คุณพ่อถวิล คงกระจ่าง บอกว่า เรียกไข่คว่ำ มันไม่เพราะ เวลาทอดแล้วมันงาม แต่เวลาทำ ลูก ๆ จะหน้างอน เลยตั้งชื่อใหม่ว่า ไข่งามงอน
ขั้นตอนการทำ อันดับแรก ต้องมีวัตถุดิบเป็นไข่เป็ดไล่ทุ่ง นำไปต้มให้สุกจนแข็ง
ไม่ใช้ไข่ไก่ เพราะว่าไข่ไก่ต้มแล้วไข่ขาวไม่มันไม่สวย แต่ถ้าเป็นไข่เป็ด ต้มแล้วไข่ขาวจะใสแข็งเหมือนวุ้น
ต้มเสร็จแล้วก็เอามาผ่าทั้งเปลือก ต้องใช้ความพยายาม กดมีดลงไปบนเปลือก
ถ้าใครผ่าไม่เป็น เปลือกจะแตก ไม่สวย ลูก ๆ ไม่ชอบ มันทำยาก กว่าจะได้ต้องฝึกทำฝึกผ่าไข่อยู่นาน
เมื่อผ่าไข่เสร็จแล้ว ก็เอาเนื้อไข่ต้มสุกออกมาสับ เอาเปลือกไข่ไปล้าง คว่ำให้แห้ง
นำไข่ต้มที่สับแล้วผสมกับน้ำพริกหนุ่ม สัดส่วน พริก 1 ไข่ 4 ไม่ต้องปรุงอะไร ใส่ลงไปในเปลือกไข่ นำไปทอด ก่อนทอด ก็ต้องชุบไข่ก่อน
ใช้ไฟปานกลาง เวลาทอด ทอดครั้งละน้อย ๆ ทอดไป 2-3 กระทะ น้ำมันต้องเททิ้ง เพราะจะมีกลิ่นไม่ดี ทอดเสร็จแล้วนำมากินกับเครื่องเคียง คือ ขิงอ่อนดอง"
โฮงเจ้าฟองคำ ได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่นประจำปี 2559 ประเภทเคหะสถานและบ้านเรือนเอกชน จากสมาคมสถาปนิกสยาม
เป็นตัวอย่างของการอนุรักษ์เรือนไม้เก่า นำมาใช้ประโยชน์ เปิดให้เข้าชม เป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีชีวิต รักษามรดกวัฒนธรรมทรงคุณค่าไว้ให้คนรุ่นหลังได้เข้าชม
ตั้งอยู่ที่ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน 55000
เปิดทุกวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 09.00 – 17.00 น. หยุดวันจันทร์-อังคาร
ค่าเข้าชม 20 บาท สอบถามเพิ่มเติม โทร 054 710 537, 089-560-6988