‘เที่ยวพัทลุง’ ...แค่อ.ศรีนครินทร์ ก็กินขาด
‘เที่ยวพัทลุง’ อ.ศรีนครินทร์ ผู้คนไม่พลุกพล่าน มี ถ้ำพุทธโคดม และ น้ำตกเขาคราม โดดเด่นตรง ถ้ำ และร่องรอยน้ำกัดชะ เป็นลักษณะของทางน้ำโบราณ ที่ไหลลอดภูเขาหินปูนลูกนี้ออกไปทะลุอีกด้านหนึ่งของภูเขา
เที่ยวพัทลุง
พัทลุง....หลายคนมองข้าม นอกจากมองข้าม ยังไปข้ามไปที่ตรัง หรือไปหาดใหญ่แทนก็มี แต่ผมอยากจะบอกว่า พื้นที่เขตเมืองพัทลุงนั้น มีอะไรให้ดูมากมาย ชนิดที่ดูกันไม่มีเบื่อ เพราะทั้งใหม่ สด อีกทั้งผู้คนหรือนักท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยพลุกพล่าน ทำให้เที่ยวได้อย่างสบายๆจริงๆ
ซึ่งคราวนี้ ผมจะยกตัวอย่างแหล่งท่องเที่ยวใน อ.ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นอำเภอเล็กๆ ระหว่างทางสายพัทลุง-ตรัง หรือเส้นทางเขาพับผ้า เมื่อในอดีต ซึ่งแต่ก่อนถือเป็นถนนปราบเซียน เพราะเส้นทางเป็นทางสวนกันสองช่องจราจร แล้วทางคดเดียวไปมา ขึ้นเขาลงเนิน ของภูเขาพับผ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาบรรทัด
เป็นเส้นทางอันตรายทั้งการขับขี่ และมิจฉาชีพการจี้ปล้น แต่ในปัจจุบัน ทางสายนี้เป็นเส้นทาง 4 ช่องจราจร บางช่วงเป็น 6 ช่องจราจรด้วยซ้ำ ขับขี่สบายมาก ระยะทางราว 50 กม.จากพัทลุงไปตรง ถือว่าใกล้กันมาก จากไปมากันลำบากๆ เลยง่ายเฉยเลย
จะว่าถึง อ.ศรีนครินทร์ ก็เลยมาซะไกล ด้วยว่าอำเภอนี้เป็นอำเภอเล็กๆ อยู่ริมทางอย่างที่บอก คนที่ไม่รู้จัก หรือไม่ได้มีหมุดหมายโดยตรง ก็จะเลยผ่านไปซะหมด แต่คราวนี้ ผมจะลองพาแวะเที่ยว บางส่วน ซึ่งเป็นส่วนเล็กๆในพื้นที่อำเภอนี้เท่านั้น โดยเป็นเส้นทางที่เข้าไปทางเดียวกัน และอยู่ไม่ห่างกันนัก นั่นคือ ถ้ำพุทธโคดม และ น้ำตกเขาคราม
เวลาที่ท่านผู้อ่านออกมาจากพัทลุง แล้วมุ่งหน้าไปตรัง และเมื่อผ่าน อ.ศรีนครินทร์ จะเห็นทางซ้ายมือ มีป้ายบอกทางเข้าน้ำตกไพรวัลย์ หรือไปอำเภอกงหรา แล้วจะมีทางเข้าหลายช่องทาง
ถ้าเลยช่องทางเข้าไหนไป ท่านผู้อ่านก็ไม่ต้องตกใจว่าเลยทางแล้ว เพราะทางมันจะไปบรรจบกันได้ ส่วนปลายทางของเราคราวนี้ ให้ท่านผู้อ่านสังเกตป้ายทางเข้าสวนกวาง หรือทางเข้า ถ้ำพุทธโคดม
พอเห็นก็เลี้ยวเข้าไปเลยครับ เข้าไปไม่ถึง 2 กิโลเมตร ก็จะเห็นรูปปั้นพระพุทธรูปทางซ้ายมือ เลี้ยวรถเข้าไปจอด จะเป็นลานขอดของคล้ายๆกับศาลาประชาคมของหมู่บ้านหนองเหรียง(หมู่ 7 ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง) แล้วเดินเท้าไปไม่ถึง 50 เมตร ก็จะถึงหน้าถ้ำพุทธโคดมแล้ว
ภูเขาหินปูนถ้ำพุทธโคดม
ที่นี่จะบอกว่าเป็นวัด ผมก็ยังไม่แน่ใจ เรียกว่าเป็นที่พักสงฆ์ก่อนก็แล้วกัน ตั้งอยู่เชิง ภูเขาหินปูน ลูกเตี้ยๆ โดดเด่น มีพระภิกษุอยู่ไม่น่าเกิน 2 รูป (เท่าที่เห็นนะ) แล้วที่นี่โดดเด่นยังไง ถ้ำ ครับ ถ้ำที่นี่ เป็นลักษณะของทางน้ำโบราณ ที่ไหลลอด ภูเขาหินปูน ลูกนี้ออกไปทะลุอีกด้านหนึ่งของภูเขา
หน้าปากถ้ำพุทธโคดม
ซึ่งในอดีต คงจะเป็นลำธารขนาดใหญ่ ไหลลอดภูเขาใช้เวลานานนับพันๆหมื่นๆปี จนทำให้ถ้ำนี้ เป็นลักษณะของอุโมงค์ที่เพดานไม่สูงมากนัก ราว 3 เมตร จากพื้นถ้ำ อุโมงค์ยาวเข้าไปภายใน หินงอกหินย้อยไม่ค่อยมี แต่ที่โดดเด่นคือ ร่องรอยของน้ำที่ชะ
หินงอกหินย้อยที่มีไม่มากในถ้ำ แต่ยังเป็นชนิดที่ยังก่อเกิดอยู่
กัดกร่อนผนังถ้ำจนเห็นร่องรอยบนผนังถ้ำอย่างชัดมาก พื้นถ้ำเป็นพื้นทรายราบเรียบ สอบถามกับทางพระภิกษุที่ดูแล ท่านบอกว่า ถ้ำนี้เพิ่งได้รับการพัฒนามาไม่นาน เดิมถ้ำนี้มีแต่กองโคลนตม เศษดิน เศษไม้ ได้มาช่วยกันขนออก จึงเห็นเป็นอุโมงค์ยาว กว้าง พอเอาดิน เอาสิ่งกีดขวางออก ก็นำทรายมาเทตรงพื้น แล้วดัดแปลงพื้นที่ภายในเป็นที่ปฏิบัติธรรม
ร่องรอยน้ำบนผนังถ้ำพุทธโคดม
แล้วอย่างที่ผมบอกว่า ถ้ำนี้มันเป็น ถ้ำลอด ดังนั้น อากาศมันจึงถ่ายเท ไม่เหม็นอับ ยิ่งพระท่านติดไฟ แล้วมีการใช้ภายในถ้ำ ปฏิบัติธรรม สอนญาติโยมนั่งสมาธิ คือมีกิจกรรมทางศาสนาบ่อยๆ ถ้ำนี้ก็เลยดูไม่น่ากลัว ไม่ลึกลับ
ร่องรอยน้ำในถ้ำ
อย่างที่ผมบอกว่า เดิมเคยเป็นทางน้ำในอดีต ที่ไหลชะ ละลายฐานของภูเขาหินปูนจนทะลุเป็นอุโมงค์ แต่ในปัจจุบัน ทางน้ำที่เคยมีมาในอดีต ก็ยังคงไหลเพียงแต่ลดระดับลงไปต่ำกว่าตัวพื้นถ้ำพุทธโคดมราว 3-4 เมตร แล้วเปลี่ยนไปไหลลอดถ้ำทางด้านซ้ายมือของถ้ำพุทธโคดมแทน
มาที่ถ้ำนี้เราจะเข้าใจระบบทางน้ำใต้ดินอย่างชัดเจนมาก และด้วยความที่ถ้ำนี้ไม่พลุกพล่าน บรรยากาศจึงสงบเงียบ น่ามาเยือนอย่างมาก
จาก ถ้ำพุทธโคดม ท่านผู้อ่านก็ใช้ทางเส้นเดิมที่เข้ามาจากถนนใหญ่นั่นละครับ เข้าไปอีกไม่ไกล ก็จะถึงเขตบ้านเขาคราม จะเจอทางเข้าสวนกวาง และเยื้องๆกินก็จะเจอทางเข้า น้ำตกเขาคราม เข้าไปอีก 1 กิโลเมตร
ก็ถึง หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขป.10 (น้ำตกเขาคราม) ซึ่งชื่อย่อก็บอกแล้วว่าเป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า จอดรถที่ลานจอด แล้วเดินไปไม่ถึง 100 เมตรก็จะถึงน้ำตกชั้นแรก
น้ำตกเขาครามชั้นที่ 1
ที่นี่เป็นลำธารน้ำที่มาจากเทือกเขาบรรทัดเช่นกัน น้ำจะมีปริมาณมากตลอดทั้งปี พอเข้าหน้าแล้ง โดยเฉพาะเมื่อช่วงปิดเทอม นักท่องเที่ยวจะมากันเยอะมาก เยอะกว่าที่นักท่องเที่ยวไปที่ที่ทำการอุทยานฯซะอีก เพื่อมาเล่นน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเล่นน้ำกันแค่ชั้นที่หนึ่ง ทั้งๆที่ เมื่อเดินตามลานหินจากชั้นที่หนึ่งนี้
น้ำตกเขาครามชั้นบนสุด
เดินตามลานหินขึ้นไปด้านบน ก็จะเจอ น้ำตก ที่ไหลลาดลงมา และมีชั้นน้ำตกเล็กๆ เป็นระยะๆ และเมื่อขึ้นไปจนสุด ก็จะเห็นสายน้ำที่ไหลลาดตกลงมาจากหน้าผาหินแกรนตขนาดใหญ่ ที่สูงร่วม 30 เมตร สายน้ำจะไหลแผ่ลงมา ก่อนจะไหลลาดลงไปเป็นชั้นเล็กๆต่างๆที่เราเดินผ่านมานั่นเอง
แต่แปลกที่นักท่องเที่ยวมักขึ้นมาไม่ถึงชั้นสูงสุดนี้ ทั้งๆที่ระยะห่างกันไม่มาก และเดินไม่ได้ยากเลย แต่ก็อย่างที่ผมบอกว่า ส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวมาที่นี่เพื่อจะเล่นน้ำ เล่นอยู่ชั้นไหนก็คงเปียกเหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็เลยไม่ขึ้นมา
ลานหินลาดที่น่าเล่นน้ำมาก
น้ำตกที่มีที่มาจากเทือกเขาบรรทัดนี้จะเห็น น้ำตกหินแกรนิต ไม่ว่าจะไหลลงทางตรัง หรือทางพัทลุงก็ตาม จะเห็นหินก้อนใหญ่ๆ อยู่ตามลำธารน้ำตก และหินเหล่านี้มักจะกลมๆ มนๆ นั่นเพราะเมื่อน้ำพัดพาหินเหล่านี้ให้กลิ้งลงมาตามแรงน้ำและความลาดชันของพื้นที่
หินก็จะกระทบกัน ขัดเกลาเหลี่ยมจนเป็นมน กระบวนการที่ว่านี้ไม่ใช่แค่ 100 ปี แต่ยาวนานกว่านั้นมากมาย น้ำที่มาจากลำธารหินแกรนิตนี้จะใสแจ๋ว ดื่มกินได้สบาย ต่างจากลำธารที่ไหลลอดถ้ำพุทธโคดมที่เป็นหินปูนซึ่งมักจะขุ่น หม่น มีสีสัน
ประตูต้นไทรทางลงไปน้ำตก
อันที่จริงยังมีน้ำตกอีกหลายแห่งตามส้นทางนี้ ที่เป็นผลพวงมาจากป่าต้นน้ำในเทือกเขาบรรทัดทั้งสิ้น แต่คราวนี้เอาแค่ยกเป็นตัวอย่าง ครบเครื่องทั้งถ้ำที่สวยงาม พอเดินดูถ้ำจนได้เหงื่อแล้ว ก็มาเล่นน้ำตกกันต่อ
ภายในถ้ำพุทธโคดม
นี่แค่เสี้ยวเล็กๆ ของ พัทลุง ยังน่าสนใจขนาดนี้ ลองมีเวลานานขึ้นอีกนิด แล้วดู จังหวัดพัทลุง ให้ทั่วๆ แล้วจะรู้ว่า พัทลุงเมืองนี้ ควรจะเป็นเมืองจุดหมายปลายทาง ไม่ใช่เมืองผ่านอย่างที่ผ่านมาอีกแล้ว
เมื่อรู้อย่างนี้และมีโอกาสมาทางนี้ ก็แวะสิครับ อย่าแค่ผ่าน...พัทลุง