เที่ยวอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย...ป่าอนุรักษ์และน้ำตกสวย ริมชายแดน จ.เลย
‘เที่ยวอุทยานแห่งชาติ’ สำหรับสายคนรักธรรมชาติ อาจจะเบื่อหลายที่ที่นักท่องเที่ยวมาก ลองมาที่ ‘ภูสวนทราย’ อ.นาแห้ว จ.เลย ก็จะรู้ว่าธรรมชาติมันไม่ได้หายาก
บ้านเรามี อุทยานแห่งชาติ ที่มีพื้นที่อยู่ติดชายแดนอยู่หลายแห่ง เป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ในขณะที่หลายแห่ง มีภูมิประเทศเป็นตัวแบ่งพื้นที่กันอย่างชัดเจน อย่างเช่น อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ที่มี แม่น้ำโขง กั้น อุทยานแห่งชาติสาละวิน มี แม่น้ำสาละวิน กั้น ส่วนอุทยานแห่งชาติทางอีสานตอนล่างจะมีแนวหน้าผาสูงของ เทือกเขาพนมดงรัก เป็นปราการกั้น เหล่านี้จะใช้ลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างกันนั้น แบ่งปันเขตแดนกัน
แต่บางพื้นที่ก็ต้องอาศัยสันเขา ยอดเนิน และการตกลงเจรจา แล้วใช้หมุดศูนย์เป็นตัวบ่งบอก เช่น อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว สำหรับไทยและสปป.ลาว ส่วนหนึ่งได้แม่น้ำโขงช่วยแบ่งกั้น แต่ก็มีพื้นที่อีกหลายส่วนที่ต้องอาศัยลำห้วยเล็กๆ ในป่าเป็นตัวแบ่งปัน
หนึ่งในนั้นคือเขตแดนทางด้านเมืองเลย-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก เรากำลังจะเอ่ยถึง อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย เมืองชายแดนทางด้าน อำเภอนาแห้ว ของ จังหวัดเลย ซึ่งถือเป็นเมืองชายแดนที่ต้องตั้งใจไป จึงจะถึง
- อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย จ.เลย
เดิมนั้นอำเภอนาแห้วของจังหวัดเลย เป็นจุดหมายลายทางของคนที่ต้องตั้งใจเข้ามาจริงๆ เพราะการเดินทางเข้ามานาแห้วต้องมาจาก อ.ด่านซ้าย เข้ามาถึงจนนาแห้ว แล้วก็ต้องกลับทางเดิม
จนต่อมาจึงมีการปรับปรุงพัฒนาเส้นทางธรรมชาติให้เป็นเส้นทางลาดยาง ทำให้ต่อไปออกทางบ้านเหล่ากอหกไปทางบ้านร่มเกล้า แล้วไปออกชาติตระการของจังหวัดพิษณุโลก หรือจะอ้อมภูเขาไปทางบ้านห้วยมุ่น หรืออ.บ้านโคกของอุตรดิตถ์ได้ จะเห็นว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีทางไหนที่ตันไปต่อไม่ได้ ทุกที่มีทางเชื่อมโยงกันไปได้หมด
ป่าในพื้นที่ของ อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ในเขตอำเภอนาแห้วนั้นจะถือว่าเป็นต้นธารของ แม่น้ำเหือง ก็ว่าได้ แม้จริงๆ แม่น้ำเหือง มีที่มาจากทางภูเมี่ยง-ภูทอง ในเขตพิษณุโลก ก่อนจะมาเติมน้ำหลักๆ จากในป่าของภูสวนทราย แล้วทำหน้าที่แบ่งกั้นชายแดนระหว่างสองประเทศ ผ่าน อ.ท่าลี่ แล้วไปสมทบกับแม่น้ำโขงที่เชียงคาน ตรงที่มีสกายวอร์คนั่นเอง
ลานกางเต็นท์บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
น้ำตกช้างตก
- ภูสวนทราย ป่าอนุรักษ์ที่น่าเที่ยว
อย่างที่ผมบอกว่า แม่น้ำเหือง นั้นจะว่าเป็นลำคลองเล็กๆก็ว่าได้ บางช่วงกว้างไม่มาก ชาวบ้านไทย-ลาวสองฝั่งคลอง ในหน้าแล้ง สานไม่ไผ่ปูพื้นทำเป็นสะพาน เดินข้ามไปมาหาสู่กันได้สบายๆ เพราะมันกว้างไม่มาก เรียกว่าตะโกนคุยกันได้สบายๆ ผู้คนสองฝั่งแม่น้ำสายนี้จึงรู้จักมักคุ้น จนถึงอาจเป็นญาติพี่น้องกันด้วยซ้ำไป
อุทยานแห่งชาตินาแห้ว นี้ เป็นอุทยานแห่งชาติ ไม่กี่แห่ง ที่เรียกว่าเกิดจากการร้องขอของชาวบ้านก็ว่าได้ คือป่าพื้นที่นี้เป็นส่วนหนึ่งในป่าสงวนแห่งชาติภูเปือย ภูขี้เถ้า ภูเรือ ซึ่งก่อนหน้านั้นบ้านเรามีการให้สัมปทานตัดไม้กันทั่วประเทศ ที่นี่ก็ไม่เหลือรอด
ในปี 2527 ทางราชการได้ให้อนุญาตให้เอกชนมาสัมปทานตัดไม้ในพื้นที่ที่เป็น อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ในปัจจุบันก็ทำไม้มาได้สักระยะ พอช่วงปลายปี 2530 ต่อต้นปี 2531 ชาวบ้านทนไม่ไหว
บริเวณที่ทำการอุทยานฯ
ใครจะไปทนละครับ มีรถไม้ขนาดใหญ่มาแล่นผ่านหน้าบ้านเขาทุกวัน ถนนพัง ป่าพังเสียหาย ไม่ได้มีประโยชน์โภคผลอะไรกับชาวบ้านเลย ชาวบ้านแสงภา ซึ่งเป็นตำบลใหญ่ใน อำเภอนาแห้ว จึงรวมตัวกันคัดค้านปิดกั้นถนน ไม่ยอมให้รถสัมปทานเข้าออก เสนอให้ทางราชการยกเลิกสัมปทานนี้เสีย
ซึ่งเหตุผลของชาวบ้านน่ารับฟัง เลยกลายเป็นทางการต้องยกเลิกสัมปทานไปโดยปริยาย ในปี 2532 ทีนี้ฝ่ายทหาร ฝ่ายความมั่นคง ที่เขาอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว ก็เลยคิดที่จะเก็บป่าผืนนี้ไว้ให้เป็นป่าอนุรักษ์ จึงมีความคิดที่น่าจะทำให้เป็น ‘อุทยานแห่งชาติ’ ประกอบกับจะครบรอบพระชนมพรรษาของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี(พระอิสริยยศในขณะนั้น) ที่จะครบ 3 รอบในวันที่ 2 เมษายน 2534
ป้ายอุทยานฯตรงสามแยกริมถนนหลวง
- เดิมชื่ออุทยานแห่งชาตินาแห้ว
เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่าน จึงได้พูดคุยกับกรมป่าไม้(ขณะนั้น) ซึ่งพอกรมป่าไม้เห็นด้วย ก็จึงส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการเดินสำรวจพื้นที่จัดตั้ง และประกาศเป็นอุทยานแหงชาติ เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2537 ถือเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 79 ของประเทศ ใช้ชื่อ อุทยานแห่งชาตินาแห้ว
ต่อมาจึงมีการเปลี่ยนเป็นชื่ออุทยานแห่งชาติภูสวนทรายในภายหลัง ซึ่งจะเห็นว่า เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งแต่ดำเนินการจนถึงประกาศในพระราชกฤษฎีกาใช้เวลาไม่กี่ปี ซึ่งผิดกับในปัจจุบันที่อุทยานแห่งชาติประกาศยากมาก
อย่างอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทที่ลำปางดำเนินการมาแล้ว 30 ปี ยังประกาศไม่ได้ เพราะมี NGO ไปปลุกปั่นชาวบ้าน ยิ่งดำเนินการล่าช้า ป่าก็หายไป เปลี่ยนสภาพไปเรื่อย
บ้านแสงพาจะมีประเพณีแห่ต้นดอกไม้ ที่อุทยานฯจึงมีต้นดอกไม้จำลองไว้แสดงด้วย
- ภูสันทราย แวดล้อมด้วยป่าและน้ำตก
อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่ 73,225 ไร่ลักษณะป่าก็จะเป็นป่าเบญจพรรณ (มีป่าไผ่ปน) มีป่าดงดิบแล้งตามพื้นที่เชิงเขา ในร่องหุบเขาก็จะเป็นป่าดงดิบชื้น มีภูสันทรายเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด คือสูง 1,408 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นต้นธารน้ำของแม่น้ำเหืองและแม่น้ำแพร่ ซึ่งความสูงขนาดนี้สูงกว่าภูกระดึงนิดหน่อย
อากาศบนยอดภูที่นี่จึงเย็นสบายแทบตลอดปี แต่ถ้าไปเที่ยวช่วงหน้าฝนจะสวยที่สุด ป่าเขียวๆ มีทะเลหมอก หน้าหนาวก็อากาศสดชื่น แต่น้ำตกน้ำจะน้อยลงนิด ส่วนหน้าแล้งนี้ อาจจะเจอควันไฟป่าบ้าง ซึ่งบ้านเรานี่แก้กันไม่หาย เรื่องเผาป่านี่
ที่นี่เหมาะกับการขับรถเที่ยว คือสามารถขับรถวนเป็นวงกลม ถนนเป็นทางลาดยาง บางช่วงทางอาจจะมีชำรุดบ้าง แต่รถทุกประเภทไปได้ แหล่งท่องเที่ยวจะอยู่ริมทางรถยนต์ทั้งหมด
น้ำตกตาดเหือง
โดยถ้าเริ่มจาก อำเภอนาแห้ว จะเริ่มเที่ยวทาง ‘น้ำตกตาดเหือง’ ก่อนก็ได้ ขับรถขึ้นเขาไป ก็จะถึงลานจอดรถน้ำตกตาดเหือง แล้วก็เดินทางไปตามทางลงเนินไปไม่ไกล ก็จะถึงน้ำตกแห่งนี้ ซึ่งเป็นธารน้ำที่กั้นพื้นที่สองประเทศ อีกฝั่งแม่น้ำเป็นพื้นที่ สปป.ลาว ที่นี่มีน้ำตลอดปี
จากนั้นก็ขับรถไปไม่ไกล จะเป็นลานกางเต็นท์ภูหัวฮ่อม ซึ่งเป็นจุดชมวิวในฤดูฝน ต้นฤดูหนาว มีทะเลหมอกด้วย
หากขับรถไปตามทางก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ซึ่งที่นี่ก็สามารถกางเต็นท์พักแรม มีร้านค้า ร้านอาหารบริการ เมื่อขับรถออกมาตามทางราว 2 กิโลเมตร ก็จะเจอสามแยก ป้ายอุทยานฯ ซึ่งทางขวาจะไปทางบ้านเหล่ากอหก บ้านร่มเกล้า-ชาติตระการ แต่ถ้าไปทางซ้ายก็จะกลับตัว อ.นาแห้ว ไปด่านซ้ายเช่นเดิม
น้ำตกคิ้ง
ทางด้านซ้ายมือนี้จะมีน้ำตก เรียงๆ ห่างกันไม่มาก โดยเริ่มตั้งแต่น้ำตกวังตาด น้ำตกช้างตก และน้ำตกคิ้ง น้ำตกทั้งสามแห่งห่างกันไม่มาก เราต้องจอดรถริมถนน แล้วเดินลงถนนไปไม่ไกล ก็จะถึงน้ำตก
น้ำตกทั้งสามแห่ง จะเป็นน้ำตกไม่สูงมากนัก สูงราว 4-6 เมตร เป็นน้ำตกหินทราย ที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกัน ในช่วง ฤดูฝนน้ำจะออกเหลืองๆ เพราะบริเวณต้นน้ำตก นอกเขตอุทยานฯ ชาวบ้านขาทำไร่กันหน้าดินถูกเปิด พอฝนมาน้ำก็จะเป็นแบบนี้ พอเข้าหน้าหนาว ไม่มีฝนแล้วนั่นแหละน้ำถึงจะใสลงบ้าง
ทางเดินลงน้ำตกตาดเหือง
จะเห็นว่า ‘อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย’ แม้จะเป็นอุทยานแห่งชาติที่ดูไกล แต่ถ้าไปแล้วจะติดใจ เพราะมีความสงบร่มรื่นด้วยภูเขา ป่าไม้ สายน้ำตกที่รายล้อม ไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน
สำหรับสายคนรักธรรมชาติ อาจจะเบื่อหลายที่ที่นักท่องเที่ยวมาก ลองมาที่ภูสวนทรายก็จะรู้ว่าธรรมชาติมันไม่ได้หายาก แต่ต้องไปให้ถึง จึงจะเจอ..อย่างน้อยก็ที่...ภูสวนทรายแห่งนี้
น้ำตกวังตาด
บริเวณลานกางเต็นท์ภูหัวฮ่อม
ป่าในพื้นที่อุทยานฯ จะเห็นต้นค้อเยอะมาก