5 สถานที่เที่ยวตามรอย'หนังสยองขวัญ' ไทยและเอเชีย เนื่องในวันฮาโลวีน
อโกด้า แนะนำสถานที่ทั้งในไทยและเอเชีย เคยเป็นโลเคชั่นถ่ายทำหนังสยองขวัญ เนื่องในวันฮาโลวีน หรือวันไหนก็ได้ อยากเที่ยวในบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร
อโกด้าพาไปรู้จัก 5 สถานที่ถ่ายทำหนังสยองขวัญอันโด่งดัง ไม่ว่าจะเป็นแฟนหนังสยองขวัญตัวยง หรือใครที่แค่อยากเปลี่ยนฟีลเที่ยวช่วงวันฮาโลวีนนี้ ก็เริ่มวางแผนเที่ยวกันได้เลย มีทั้งสถานที่ถ่ายทำในไทย และในเอเชีย ซึ่งเป็น 3 จุดหมายปลายทางต่างประเทศที่คนไทยนิยมไปเที่ยวมากที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นเกาะร้างในญี่ปุ่น (อันดับ 1) หรือเจดีย์ที่ห้ามผู้หญิงเข้าในไทย ใครชอบความหลอนแนวไหนก็เตรียมขนลุกกันได้เลย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ในเกาหลีใต้ (อันดับ 2) และฮ่องกง (อันดับ 3) ที่ทั้งสวยและให้ความรู้สึกโหวงเหวงไม่เหมือนที่ไหน
ถ้ำโพธิสัตว์ เคยถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ร่างทรง : ภาพจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
- ถ้ำโพธิสัตว์ จังหวัดเลย
จากภาพยนตร์เรื่อง ร่างทรง ของGDH และ Showbox, 2021 บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งสืบเชื้อสายร่างทรง ‘เทพบาหยัน’ มาหลายชั่วอายุคน
นิ่ม ผู้สืบทอดสายเลือดร่างทรงคนปัจจุบัน สงสัยว่ามีบางอย่างผิดปกติกับ มิ้ง หลานสาวคนเดียวของครอบครัว ที่คาดกันว่าน่าจะถูกเลือกให้เป็นทายาทร่างทรงคนต่อไป อาการของมิ้งทวีความรุนแรง และน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายครอบครัวต้องช่วยกันหาทางขจัดวิญญาณร้ายที่มาคุกคามทุกคน
ภาพยนตร์เรื่องร่างทรง นำเสนอหลายหลายสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันน่าทึ่งของประเทศไทย เช่น ถ้ำโพธิสัตว์ ในจังหวัดเลย ถ้ำแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของวัดพระถ้ำโพธิสัตว์ ทีมงานถ่ายทำภาพยนตร์ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ในการถ่ายทำ
ภายในบริเวณวัดมีเส้นทางเดินธรรมชาติยาว 900 เมตร ให้เดินลัดเลาะสำรวจ ชมถ้ำเล็กใหญ่ที่มีให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ นักท่องเที่ยวควรระมัดระวังอยู่เสมอขณะเดิน เนื่องจากมีเส้นทางแคบ และสลับซับซ้อนอยู่มาก รากต้นไม้ขนาดใหญ่
อีกทั้งไม่มีไฟฟ้า ทำให้บรรยากาศดูโหวงเหวงน่ากลัว แต่ถึงกระนั้นถ้ำเล็กใหญ่ในวัดก็มีหินงอก และหินย้อยที่สวยงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินเข้าไปถ่ายรูป
เจดีย์พระธาตุโบอ่อง – กาญจนบุรี (ภาพ :Wanderlust Thailand)
- เจดีย์พระธาตุโบอ่อง เคยถ่ายทำเรื่องหุ่นพยนต์
หุ่นพยนต์ เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มชื่อ ธาม ที่เดินทางไปยังหมู่บ้านในต่างจังหวัด เพื่อแจ้งข่าวการเสียชีวิตของพ่อแม่กับพี่ชายที่บวชเป็นพระ ซึ่งถูกฆ่าตายหลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรและโจร
ขณะที่ธามสืบสวนการตายของพี่ชาย ก็มีโศกนาฏกรรม มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นในหมู่บ้าน จนธามเริ่มสงสัยความศรัทธาอันแรงกล้าในรูปปั้นผู้พิทักษ์ที่เรียกกันว่า ‘พ่อปู่สิงห์ธรรม’ ของชาวบ้าน
นอกจากโครงเรื่องที่น่าสนใจแล้ว หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์อย่าง เจดีย์พระธาตุโบอ่อง มีทั้งเหตุการณ์และเรื่องแปลก โดยเจดีย์ตั้งอยู่ในหมู่บ้านลอยน้ำเล็ก ๆ กลางเขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเข้าถึงได้โดยเรือเท่านั้น
เจดีย์สร้างขึ้นบนภูเขาขนาดเล็กที่ล้อมรอบด้วยสระน้ำใหญ่ มีสะพานไม้ เชื่อมระหว่างภูเขากับฝั่งตรงข้าม ตามเรื่องราว ความเชื่อของชาวบ้าน ครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินข้ามสะพานไปยังเจดีย์ ต่อมาไม่นานสะน้ำก็แห้ง
และผู้หญิงคนนั้นก็เสียชีวิตลง ทำให้ปัจจุบันชาวบ้านห้ามไม่ให้ผู้หญิงคนไหนเดินข้ามไปเจดีย์ เชื่อกันว่าใครก็ตามที่ฝ่าฝืนข้อห้ามนี้จะต้องเผชิญกับเคราะห์กรรมอันเลวร้าย
เกาะฮาชิมะ – นางาซากิ, ถ่ายทำเรื่องฮาชิมะ (ภาพจาก Japan National Tourism Organization)
- เกาะฮาชิมะ – นางาซากิ เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำเรื่องฮาชิมะ
ฮาชิมะ ภาพยนตร์เกี่ยวกับเป็นเรื่องราวของกลุ่มนักเรียน 5 คน ที่ยอมรับข้อเสนอจากโปรดิวเซอร์ให้ไปที่เกาะฮาชิมะ เพื่อถ่ายวีดีโอยืนยันการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ แม้ว่าคนในพื้นที่จะเตือนพวกเขาเกี่ยวกับคำสาป และวิญญาณอันน่าสะพรึงกลัวบนเกาะ
แต่กลุ่มนักเรียนก็ไม่หวั่นไหว ตัดสินใจปฏิบัติภารกิจต่อ จนต่างคนต่างต้องพยายามหาทางเอาชีวิตรอดจากวิญญาณสยองที่ตามล่าพวกเขาดังที่คนในพื้นที่เคยกล่าวเตือนไว้
เกาะฮาชิมะเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีผีสิงมากที่สุดในโลก ทีมงานถ่ายทำภาพยนตร์ได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการเมืองนางาซากิให้ขึ้นไปถ่ายภาพยนตร์บนเกาะ รวมถึงในอาคารร้างอันน่าขนลุก
ตั้งแต่ปีค.ศ. 1930 จนถึงไม่นานหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นักโทษและผู้อพยพจำนวนมากถูกส่งไปที่เกาะ และบังคับใช้แรงงาน พวกเขาต้องอดทนต่อสภาวะอันเลวร้ายขณะที่ทำงานอย่างเจ็บปวดในโครงการเหมืองถ่านหินของญี่ปุ่น ซึ่งขณะนั้นกำลังเป็นที่นิยม
เกาะฮาชิมะมีชื่อเล่นว่า ‘เกาะนรก’ เชื่อกันว่ามีคนงานประมาณ 1,000 คน เสียชีวิตบนเกาะ เนื่องจากสภาพการทำงานที่อันตราย ภาวะทุพโภชนาการ และเหนื่อยล้าอย่างรุนแรง
แม่น้ำฮัน – โซล, ประเทศเกาหลีใต้ (ภาพอโกด้า)
- แม่น้ำฮัน เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำThe Host
The Host จาก Chungeorahm Film, 2006 ภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่โผล่ออกมาจากแม่น้ำฮันในเมืองโซล ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เจ้าหน้าที่ทหารอเมริกันทิ้งสารเคมีลงในแม่น้ำอย่างไม่ระวัดระวัง ทำให้เกิดการกลายพันธุ์กลายเป็นสัตว์ประหลาดตัวนี้
ซึ่งปัจจุบันโผล่ขึ้นมาขย่มขวัญ และไล่กินคนในพื้นที่ และเมื่อมันลักพาตัวลูกสาวของพ่อค้าคนหนึ่งไป พ่อค้าและครอบครัวก็ตระหนักว่าพวกเขาเป็นความหวังเดียวที่จะช่วยเหลือเธอได้
แม้ว่าบริเวณรอบแม่น้ำฮันจะมีสวนสาธารณะที่สวยงาม และงานศิลปะต่าง ๆ ที่ห่างไกลจากคำว่าน่ากลัว แต่ก็ยังมีรูปปั้นสัตว์ประหลาดจากภาพยนตร์ตั้งอยู่ระหว่างสะพาน Mapo และ Wonhyo ทำให้แฟนภาพยนตร์จินตนาการถึงฉากที่สัตว์ประหลาดโผล่ออกมาจากแม่น้ำง่ายขึ้น
โปรดิวเซอร์เคยพูดว่าครั้งหนึ่งเขาเห็นสิ่งมีชีวิตประหลาดว่ายน้ำอยู่ในแม่น้ำใกล้สะพาน ต่อมาประสบการณ์นี้เป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมา สำหรับใครที่ชอบทำกิจกรรม ที่นี่มีกิจกรรมมากมายให้เพลิดเพลินตลอดทั้งปี เช่น สเก็ตบอร์ด ขี่จักรยาน และสกีน้ำ
โรงเรียน Tak Tak – ปิง ชาน, ฮ่องกง ภาพจาก Long Distance Runner
- โรงเรียนร้าง เคยถ่ายทำเรื่องThe Haunted School
The Haunted School สร้างขึ้นโดยอิงจากโรงเรียน Tak Tak ที่มีอยู่จริง ซึ่งปัจจุบันเป็นโรงเรียนร้าง เป็นเรื่องของนักเรียนชาย 4 คน ที่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนประจำหญิงล้วนที่เข้มงวดมาก ตำนานของคนในพื้นที่อ้างว่าโรงเรียนมีผีสิง และนักเรียนที่ฝ่าฝืนกฎจะถูกเรียกตัวไปที่ห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่
และต่อมาหายตัวไปอย่างลึกลับ หรือถูกพบว่าเสียชีวิตแล้ว เมื่อกลุ่มนักเรียนชายตกหลุมรักกลุ่มนักเรียนหญิงในงานปาร์ตี้ลับ ความรักของพวกเขาก็ปลุกคำสาปขึ้นอีกครั้ง ทำให้พวกเขาโดนวิญญาณอาฆาตของอดีตคณบดีที่ถูกเผาทั้งเป็นตามลงโทษแบบถึงชีวิต
โรงเรียน Tak Tak ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยปิง ชาน มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยโรงเรียนดำเนินการมาอย่างราบรื่นตั้งแต่ปีค.ศ. 1974 แต่พอถึงปีค.ศ. 1998 ก็ปิดตัวลง มีข่าวลือว่าครูผู้หญิงคนหนึ่งปลิดชีพตนเอง และวิญญาณเธอในชุดแดงก็ยังคงเวียนวนอยู่ในโรงเรียน
วิญญาณของเธอถูกนำไปอ้างว่าเป็นเหตุของเหตุการณ์อาถรรพณ์จำนวนมากที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้หมู่บ้านที่โรงเรียนตั้งอยู่ก็มีประวัติศาสตร์ที่น่าเศร้า โดยชาวบ้านจำนวนมากต้องพบกับจุดจบอันน่าสยดสยองระหว่างการยึดครองของญี่ปุ่นในปีค.ศ. 1941
หลุมศพของพวกเขาอยู่บนเนินเขาข้างโรงเรียนปัจจุบันโรงเรียนยังคงถูกล็อค และไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม แต่ผู้ชื่นชอบสยองขวัญบางคนยังคงไปเดินชม สำรวจพื้นที่รอบ ๆ