‘เที่ยวเพชรบุรี’ ไปปีนถ้ำโบ้...ที่เมืองเพชร
‘เที่ยวเพชรบุรี’ มีโอกาสได้ ‘ไปปีนถ้ำโบ้’ ชื่นชม ‘เขาอีโก้’ รูปทรงสวยงาม ซึ่งเป็นกลุ่ม ‘เขาหินปูน’ที่อยู่ในเขตเหนือสุดของ ‘จังหวัดเพชรบุรี’ ย่านนี้มี เขาหินปูน สวยๆ และโพรงถ้ำมากมาย
คงไม่ช้าไปสำหรับการจะ สวัสดีปีใหม่ กับท่านผู้อ่านทุกท่าน ขอให้ร่ำรวยมีความสุข สุขภาพแข็งแรงทุกๆท่านครับ
เวลาที่ท่านผู้อ่านขับรถไปบนถนนพระราม 2 ช่วงใกล้ถึงแยกวังมะนาว หรือมาจากทางใต้ เลยเขาย้อยมาไม่ไกล จะเห็นภูเขาลูกหนึ่ง ทรงกองฟางโดดเด่น นั่นละครับ เขาอีโก้ เป็น Land mark อันสำคัญของย่านนี้ก็ว่าได้ เพราะเป็นภูเขาที่เรามองแล้วได้รูปทรงที่สวยงาม แต่แท้ที่จริงแล้ว ถ้าเข้ามาดูใกล้ๆจริงๆ เขาอีโก้ก็ไม่ได้มีรูปทรงที่สมส่วนขนาดนั้น
อาจจะเป็นเพราะมุมมองที่แตกต่างกันนั่นเอง แต่ที่แน่ๆ คือ เขาอีโก้ คือ เขาหินปูน ที่ไม่ได้โดดเดี่ยว หากแต่มีเพื่อนๆ ภูเขาหินปูนอื่นๆ อยู่ในบริเวณใกล้เคียงและต่อเนื่องกันด้วย แต่ไม่ว่าจะอยู่ลูกเดียวโดดๆ หรือมีภูเขาอื่นๆ เป็นเพื่อน แต่เมื่อ กลุ่มภูเขาหินปูน เหล่านี้ มาอยู่กลางทุ่งนากว้าง ก็ยังคงแลดูยิ่งใหญ่และโดดเด่นอยู่ดี
กลุ่มเขาอีโก้ นี้ แทบจะเป็นเขตแดนที่เหนือสุดของ จังหวัดเพชรบุรี ก็ว่าได้ เพราะอยู่ติดกับพื้นที่ อ.ปากท่อของราชบุรี โดยอยู่ในพื้นที่ ต.หนองชุมพลเหนือ อ.เขาย้อย ซึ่งตัวเขาอีโก้เองก็มีเส้นทางเดินขึ้นไปบนยอดเขาได้ เอาไว้วันหลังจะพาไปเที่ยว
ส่วนวันนี้ จะพาไปภูเขาเพื่อนๆของเขาอีโก้ ที่ผมบอกว่าเขาอยู่กันเป็นกระจุกนั่นแหละ ภูเขาหินปูนย่านนี้ นอกจากรูปร่างจะสวยงามแล้ว ยังมีโพรงถ้ำอีกมากมาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็กำลังอยู่ในช่วงประทานบัตรให้ระเบิดหิน(เข้าใจว่าเป็นโรงโม่) ได้เช่นกัน ภูเขาย่านนี้จึงมีบางส่วนที่มีร่องรอยถูกระเบิดหินไปแล้ว ถ้ำโบ้ เอง ก็อยู่ในเขาเพื่อนๆเขาอีโก้นี่เอง เขาอีโก้จะมี วัดพวงมาลัย อยู่ด้านล่างตีนเขา แต่สำหรับถ้ำโบ้ มี วัดคีรีวงศ์ อยู่ด้านล่างตีนเขา
บ้านคีรีวงศ์ ที่หนองชุมพลเหนือนี้ เป็น ชุมชนคนไทดำ ที่อพยพมาจาก ต.หนองปรง อ.เขาย้อย ซึ่งไทดำที่ ต.หนองปรง อ.เขาย้อยนี้ เป็นกลุ่มคนไทดำที่ถูกนำพามาจากแคว้นสิบสองจุไทยเดิม คนไทดำถูกนำพามาทั้งในสมัยรัชกาลที่ 1 และสมัยรัชกาลที่ 3 ได้นำพามาให้สร้างบ้านแปงเมือง ด้วยว่าในสมัยก่อน ดินแดนไหนที่มีพลเมืองมาก ก็จะมีกำลังการผลิตมาก ซึ่งจะนำมาซึ่งเศรษฐกิจที่ดีตามมา รวมทั้งมีความเข้มแข็งทางการทหารด้วย
เราจึงเห็นการรบพุ่งในสมัยก่อนจึงเป็นทั้งการขยายดินแดน และกวาดต้อนผู้คน ไทดำที่เราพบเจอใน อ.นาสาร สุราษฏร์ธานี หรือ ในชุมพร ก็จะเป็นไทดำที่อพยพไปจาก ต.หนองปรงนี่เอง ที่ บ้านคีรีวงศ์ นี้ นอกจากจะมีถ้ำโบ้ให้เราปีนแล้ว ยังมีศูนย์วัฒนธรรมไทดำ ที่ได้จัดแสดงวิถีชีวิต ข้าวของเครื่องใช้ของชนชาวไทดำด้วย อยากให้ได้ไปแวะชมกัน
ภายใน วัดคีรีวงก์ ซึ่งเป็นวัดกว้าง อยู่ตีน ภูเขาหินปูน ที่ตั้งตระหง่าน ด้านหนึ่งแทบจะเป็นหน้าผาตัดตรง เป็นสีแดง มีด้านที่เป็นไหล่เขาที่เอียงลาดเพียงทางด้านวัดเท่านั้น ทางขึ้น ถ้ำโบ้ จะอยู่ใกล้กับสถานีอนามัยของบ้านคีรีวงศ์ห่างกันไม่ถึงร้อยเมตร ในวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีอาสาสมัครของหมู่บ้าน มาตั้งเต็นท์คอยอำนวยความสะดวกให้คนลงชื่อขึ้น-ลง จากนั้น เราก็เดินขึ้นได้เองเลย
ทางขึ้นจะชันนิดหนึ่งบางช่วงเป็นทางดิน แต่เขาเอากระสอบปุ๋ยใส่ทรายมาทำเป็นขั้นบันไดให้ ตอนหลังเห็นเอาปูนมาทำเป็นขั้นบันได้เป็นช่วงๆ แต่ยังไม่เป็นบันไดปูนถาวร ระยะทางเดินขึ้นเขา เป็นร้อยเมตร ช่วงที่จะขึ้นสู่ยอดเขานั้นจะมีทางเบี่ยงทางขวามือ ไปถ้ำเล็กๆ ซึ่ง มีพระพุทธรูป อยู่ภายใน
พระพุทธรูปองค์ใหญ่ในวัดคีรีวงศ์
ย้อนออกมาที่ทางขึ้น ถ้ำโบ้ ช่วงต่อไปนี้จะชัน แต่จะมีเชือกผูกโยงให้เราได้ประคองตัว ค่อยๆเดินขึ้น แล้วเราจะรู้เลยว่าเรากำลังเข้าสู่โพรงถ้ำของถ้ำโบ้ แต่ทางก็ยังชันอยู่เช่นเดิม ช่วงเกือบจะขึ้นจนจุดสูงนี้ พื้นที่เราเดินชันขึ้นมา จากก้อนหิน ก็จะเปลี่ยนเป็นดิน เป็นดินขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดของทางเดิน ซึ่งอยู่กลางถ้ำโบ้นั่นเอง
มา ณ จุดนี้ จุดที่ขึ้นมาสูงสุด และอยู่ใจกลาง ถ้ำโบ้ ก็จะเห็นว่า ถ้ำโบ้นั้น เป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ อยู่แทบจะในส่วนยอดของภูเขา เพดานถ้ำสูงราว 50 เมตร มีรูทะลุบนหลังคาถ้ำราว 6-7 รูป เป็นถ้ำที่มีหลังคาถ้ำเป็นรูเยอะที่สุดตั้งแต่ผมเห็นมา
ส่วนด้านหน้า ที่เราไต่เชือกเข้ามานั้น เป็นปากถ้ำขนาดใหญ่ กว้าง ภายในถ้ำมีนกพิราบอาศัยอยู่มาก ดินในพื้นถ้ำที่เรายืนอยู่จึงอุดมไปด้วยมูลนกทั้งนั้น ด้านหลังยังมีหน้าต่างถ้ำกว้าง ที่เมื่อออกไปยืนตรงหน้าต่างถ้ำนี้ ก็จะมองเห็นทิวทัศน์ด้านหลังถ้ำโบ้ด้วย
พื้นถ้ำที่เป็นดิน ผสมมูลนกนั้น ไม่ค่อยราบ เอียงลาดเสียเป็นส่วนใหญ่ มีพื้นที่ราบจริงๆน้อยมาก ยังมีส่วนอื่นที่เป็นซอกหลืบถ้ำอีก แต่ไม่มีอะไรสวย หินงอก หินย้อยไม่มี แต่โพรงถ้ำด้านหน้าที่สาวเชือกขึ้นมากันนั้น เมื่องมองลงไป ก็ถือเป็นทิวทัศน์ที่สวยทีเดียว แน่นอนว่าแสงสว่างส่องถึงจนทั่วถ้ำ ถ้ำนี้จึงไม่ลึกลับ ไม่น่ากลัวและไม่เหม็นอับด้วย
เข้าใจว่า ถ้ำโบ้ นั้น คนในท้องที่คงมากันจนชิน แต่พอเริ่มเป็นที่รู้จักของคนอื่นๆอย่างกว้างขวางขึ้นใน 2-3 ปีนี้ มีคนมาเยือนถ้ำโบ้กันมากขึ้น ซึ่งเมื่อได้ขึ้นมาถึง ก็ยอมรับว่า สวยงามและแปลกดี ผมเคยไปถ้ำหลายรูปแบบ แต่ในลักษณะคล้ายๆถ้ำโบ้นี้มีไม่กี่แห่ง
อันที่จริง ตัวถ้ำโบ้ ไม่ได้มีอะไรมากกว่าการได้ขึ้นไปเห็น ไปพิสูจน์ แต่จริงๆแล้ว ถ้ำโบ้มีรูปลักษณ์ที่ไม่ค่อยจะเหมือนที่ใดนัก การได้ขึ้นไปเยือนถ้ำโบ้ นอกจากจะได้พิสูจน์ ได้สัมผัสแล้ว ยังได้รู้จักรูปแบบถ้ำอีกแบบหนึ่ง และได้เห็นถึงความงามอีกหนึ่งอย่างในบ้านเรา
ถ้ำโบ้ เพชรบุรี เดินไม่ยาก ขึ้นไปแล้วก็คุ้มเหนื่อย ก็ในเมื่ออยู่ไม่ไกลแบบนี้ ก็อย่าช้าเลยครับ ไปเพชรบุรี ปีนถ้ำโบ้กันเถอะ....
