รีวิวล่า 'แสงเหนือ' ที่ 'ท้องฟ้าจำลอง' ด้วยเงิน 50 บาท!
ไปนอนดู "แสงเหนือ" ด้วยกันมั้ย? ชวนเปิดประสบการณ์ชมความมหัศจรรย์ของแสง "ออโรรา" แบบเต็มตากลางเอกมัย! ที่ "ท้องฟ้าจำลอง" กรุงเทพฯ ในราคาเพียง 50 บาท พร้อมแนะวิธีการเตรียมตัว การเดินทาง และทริคการเข้าชมแบบไม่เสียอรรถรส!
ใครที่หลงใหลในเรื่องดาราศาสตร์ และปรากฎการณ์ความมหัศจรรย์บนท้องฟ้า โดยเฉพาะความฝันที่อยากจะเห็น "แสงเหนือ" ด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต ไม่ต้องไปไกลถึงขั้วโลก เพราะในย่านใจกลางเมืองของกรุงเทพฯ อย่าง "เอกมัย" ที่แม้อยู่ไกลเกินกว่าจะมองเห็น แสงออโรรา ได้ แต่ "ท้องฟ้าจำลอง" กรุงเทพฯ จะทำให้เราได้สัมผัสกับความงดงามของแสงสีบนท้องฟ้า เสมือนว่าเดินทางไปที่ขั้วโลกจริงๆ ผ่านภาพยนตร์เต็มโดมเรื่อง "มหัศจรรย์แห่งออโรรา" (Experience the Aurora) ที่มีแค่ในเดือนสิงหาคมนี้ เท่านั้น
"แสงเหนือ" แบบลุ้นๆ ที่ท้องฟ้าจำลอง
"แสงเหนือ" ที่ขั้วโลกว่าต้องลุ้นแล้ว ที่ "ท้องฟ้าจำลอง" กรุงเทพฯ ก็ไม่ต่างกัน เพราะเปิดให้เข้าชมปีละไม่กี่ครั้ง แถมยังไม่มีระบบการจองล่วงหน้าหรือจองออนไลน์ ต้องมาซื้อบัตรหน้างานพร้อมกับลุ้นอีกว่าจะได้รอบที่ต้องการหรือไม่
สำหรับรอบการแสดงในแต่ละวัน มีทั้งหมด 5 รอบ (280 ที่นั่งต่อ 1 รอบการแสดง) แบ่งผู้ชมออกเป็นกลุ่ม ดังนี้
- รอบ 10.00 น. วันอังคาร (ภาษาอังกฤษ) เป็นรอบของสถาบันการศึกษาและประชาชนทั่วไป / วันพุธ-อาทิตย์ (ภาษาไทย) เป็นรอบของสถาบันการศึกษาเพียงอย่างเดียว
- รอบ 11.00 น. วันอังคาร-อาทิตย์ (ภาษาไทย) เป็นรอบของประชาชนทั่วไป
- รอบ 13.00 น. วันอังคาร-ศุกร์ (ภาษาไทย) เป็นรอบของสถาบันการศึกษา / วันเสาร์-อาทิตย์ (ภาษาไทย) เป็นรอบของประชาชนทั่วไป
- รอบ 14.00 น. วันอังคาร-ศุกร์ (ภาษาไทย) เป็นรอบของสถาบันการศึกษา / วันเสาร์-อาทิตย์ (ภาษาไทย) เป็นรอบของประชาชนทั่วไป
- รอบ 15.00 น. วันอังคาร-อาทิตย์ (ภาษาไทย) เป็นรอบของประชาชนทั่วไป
หลังจากได้รอบที่จะดูแล้ว ก็ออกเดินทางล่า แสงเหนือ โดยใช้บริการรถไฟฟ้า BTS นั่งจากสถานีบางนามาลงสถานีเอกมัย ทางออก 2 เดินขึ้นไปทางสถานีขนส่งเอกมัยประมาณ 700 เมตร ก็ถึง ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ใน ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา จากนั้นเข้ามาซื้อบัตรที่หน้าอาคาร 2 โดยบัตรจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ บัตรท้องฟ้าจำลอง หรือบัตรสำหรับดูดาวและแสงเหนือในครั้งนี้ กับอีกส่วนคือบัตรนิทรรศการวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีราคาเท่ากันคือ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก (อายุ 3 ขวบขึ้นไป) 30 บาท
แม้จะวางแผนการเดินทางอย่างดี และตั้งใจจะไปทันให้รอบ 13.00 น. ในวันเสาร์ แต่กลับได้รอบ 15.00 น. ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของวันแบบฉิวเฉียด ทั้งๆ ที่ไปถึงตั้งแต่ 11 โมงกว่าๆ ทำให้ต้องซื้อบัตรนิทรรศการเพิ่มอีกใบ เพื่อเดินเล่นรอไปพลางๆ
นอกจากนั้นยังมีในส่วนของนิทรรศการดาราศาสตร์ ซึ่งจัดแสดงอยู่รอบๆ ห้องฉายดาวภายในอาคารท้องฟ้าจำลอง (ไม่เสียค่าเข้าชม) แบ่งออกเป็น 6 ส่วนคือ โลกดาราศาสตร์, ชีวิตสัมพันธ์กับดวงดาวอย่างไร?, "โลก" แหล่งกำเนิดชีวิตชีวิตของดาวฤกษ์, ความเป็นไปในเอกภพ และมนุษย์กับการสำรวจอวกาศ
30 นาทีนอนดูดาว และ 20 นาทีนอนดูแสงเหนือ
เมื่อใกล้ถึงรอบการเข้าชม "แสงเหนือ" ก็เตรียมตัวมายืนต่อแถวบริเวณหน้าห้องฉายดาว อาคารท้องฟ้าจำลอง แนะนำให้มาถึงก่อนเวลา 15 นาที หากมาเกินรอบเวลาหน้าบัตรจะไม่สามารถเข้าชมได้ หลังจากนั้นไม่นานประตูก็เปิดให้เข้ามาจับจองที่นั่งภายใต้โดมขนาดใหญ่ สามารถจุคนได้ 280 คน โดยแบ่งกลุ่มที่นั่งออกเป็น 4 ทิศคือ เหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก
สำหรับการจัดแสดงนั้น เริ่มต้นด้วยการสอนดูดาวจากนักวิชาการ 30 นาที ด้วยการจำลองท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่เผยให้เห็นความสวยงามและความแพรวพราวของกลุ่มดาวต่างๆ ผ่านการบรรยายที่เข้าใจง่ายและน่าฟัง ทำให้การนอนดูดาวภายใต้โดมแห่งนี้ เต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น ประทับใจ ช่วยให้การเห็นดาวในเมืองเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ แม้ในความจริงจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ตาม
หลังจบการดูดาว ผู้บรรยายส่งต่อเข้าสู่ช่วงภาพยนตร์เต็มโดม 20 นาที โดยในเดือนสิงหาคมนี้ เป็นเดือนที่หลายคนรอคอยเป็นพิเศษ เพราะจะได้สัมผัสแสงเหนือแบบเต็มตาผ่านภาพยนตร์สารคดีเรื่อง "มหัศจรรย์แห่งออโรรา" (Experience the Aurora) ซึ่งเข้ารอบสุดท้ายรางวัล Telly Awards และได้ "พีเค - ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร" มาพากย์เสียงภาษาไทย
ความน่าสนใจของภาพยนต์เรื่องนี้ นอกจากได้ความรู้เกี่ยวกับ "แสงออโรรา" หรืออาจเรียกว่า "แสงเหนือ" หรือ "แสงใต้" ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิด ยังได้เห็นความทุ่มเทของทีมงานที่เดินทางไปถ่ายทำถึงบริเวณคาบสมุทรอาร์กติกที่ต้องอดทนรอคอยแบบเสี่ยงโชคสำหรับคืนฟ้าเปิด เพื่อเก็บภาพความสวยงามของแสงออโรรามาฝากผู้ชมคนดู ท่ามกลางสภาพอากาศอันเย็นยะเยือก แถมยังต้องคอยระวัง หมีขาว หรือ หมีขั้วโลก สัตว์กินเนื้อบนบกที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย ทำให้ตลอดการเอนหลังนอนชม เต็มไปด้วยประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น และให้ความรู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งในการออกล่าแสงเหนือไปพร้อมๆ กับทีมงาน
ส่วนใครอยากนอนดูแสงเหนือแบบฟินๆ แนะนำตำแหน่งที่นั่งบริเวณทิศเหนือ (เข้าประตูมาจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ) เพราะจะได้เห็นความงดงามของแสงสีที่คล้ายกำลังร่ายรำทำการแสดงบนท้องฟ้าได้เต็มตา เพิ่มอรรถรสในการรับชมได้เป็นอย่างดี
วิธีเดินทางล่า "แสงเหนือ" ที่ท้องฟ้าจำลอง
การเดินทางมาดู "แสงเหนือ" ที่ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ สามารถเดินทางได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน ดังนี้
- รถไฟฟ้าสายสีเขียว ลงสถานีเอกมัย ทางออกที่ 2
- รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลงสถานีสำโรง ต่อสายสีเขียว นั่งมาลงสถานีเอกมัย
- รถไฟฟ้า MRT ลงสถานีสุขุมวิท ขึ้นมาต่อสายสีเขียวที่สถานีอโศก และนั่งมาลงสถานีเอกมัย
- รถเมล์สาย 2, 25, 38, 40, 48, 149, 501, 508, 511 และ 7
- รถยนต์ส่วนตัว (มีที่จอด) ไม่เสียค่าบริการ
ใครที่มีความฝันว่า "สักครั้งในชีวิตจะไปดู แสงเหนือ ด้วยตาตัวเอง" แนะนำให้มาซ้อมดูที่ "ท้องฟ้าจำลอง" กรุงเทพฯ กันก่อน อย่างน้อยๆ ก็ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ที่ดี แถมยังได้ความรู้กลับไปอีกด้วย
"ท้องฟ้าจำลอง" กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา เปิดวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) สามารถเช็กที่นั่งการแสดงในแต่ละวันได้ที่ เว็บไซต์ หรือติดตามกิจกรรมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ - Bangkok Planetarium