‘เที่ยวสกลนคร’ เดินเล่นเลาะ ขอบอ่างห้วยหวด

‘เที่ยวสกลนคร’ ครั้งนี้จะพา ‘เดินเล่นเลาะ ขอบอ่างห้วยหวด’ ฟังเรื่องราวก่อนจะมาเป็น ‘อ่างเก็บน้ำห้วยหวด’ พื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำเป็นป่าเต็งรัง สลับกับลานหิน สวนหิน มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ที่สวยงาม
แต่เดิมนั้น อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร เป็นอำเภอเล็กๆ ที่อยู่ติดภูเขาทั้งทางนาแก และภูพาน ในอดีตแม้จะไม่ห่างตัว จังหวัดสกลนคร แต่ก็มีปัญหาเรื่องความมั่นคงเป็นพื้นที่การเคลื่อนไหวของ ผกค.ที่หนึ่ง การเดินทางไม่ได้สะดวกสบายอย่างเช่นทุกวันนี้ การเป็นอยู่ของราษฎรจึงลำบาก แร้นแค้น ด้วยว่าขาดแคลนน้ำซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการทำการเกษตร
ความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรบริเวณ ลุ่มน้ำห้วยหวด เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2524 เมื่อทอดพระเนตรเห็นพื้นที่แล้ว ทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการ และก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยหวดโดยเร่งด่วน เพื่อจัดหาน้ำส่งให้พื้นที่เพาะปลูกของราษฎร
หมู่บ้านน้อย บ้านจันทร์เพ็ญ บ้านบึงสา และหมู่บ้านใกล้เคียงในเขตอำเภอเต่างอย ‘จังหวัดสกลนคร’ สามารถทำการเพาะปลูกได้ทั้งฤดูฝน ฤดูแล้ง และน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค สำหรับราษฎรในบริเวณหมู่บ้านดังกล่าวได้ตลอดทั้งปี
กรมชลประทาน ได้ก่อสร้าง อ่างเก็บน้ำห้วยหวด เป็นลักษณะเขื่อนดิน ปิดกั้นลำห้วยหวด ตำบลเต่างอย อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร สูง 26 เมตร ยาว 395 เมตร ความจุประมาณ 21 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมทั้งท่อส่งน้ำฝั่งซ้ายและฝั่งขวา คลองส่งน้ำอีก 7 สาย ความยาวรวม 21.34 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2526 แล้วเสร็จเมื่อปี 2530 ส่งน้ำให้แก่พื้นที่การเกษตรประมาณ 8,000 ไร่
ในพื้นที่ตำบลจันทร์เพ็ญ และตำบลเต่างอย นั่นจึงนับเป็นการเริ่มต้นความเจริญของอำเภอเต่างอย อย่างที่ปรากฏในปัจจุบัน อ่างเก็บน้ำห้วยหวดจึงเป็นทั้งสายชีวิตในพื้นที่ ครั้งมีพระราชดำริเมื่อให้สร้างอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ทรงมีพระราชดำริให้ดูแลป่าต้นน้ำของอ่างห้วยหวดด้วย นั่นจึงเป็นที่มาของการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติภูผายล เพื่อสงวนรักษาพื้นที่ป่าต้นน้ำของอ่างห้วยหวดตามพระราชประสงค์ด้วย
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรบริเวณลุ่มน้ำห้วยหวด
ปัจจุบัน อ่างเก็บน้ำห้วยหวด ถือเป็นแหล่ง ท่องเที่ยว ที่สำคัญของ อุทยานแห่งชาติภูผายล ซึ่งที่ทำการของอุทยานฯภูผายล ก็อยู่ติดๆกันนะแหละ ซึ่งตรงริม อ่างเก็บน้ำห้วยหวด นั้นพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จมาทรงงาน และทรงปลูกต้นไม้ในบริเวณนี้ด้วย ปัจจุบันบริเวณนี้ถูกดูแลอย่างดีจากอุทยานฯ เป็นทั้งจุดชมทิวทัศน์ แหล่งพักผ่อน
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเส้นนี้ เป็นส้นทางเดินเที่ยวที่สวยงามมาก เพราะพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำจะเป็นป่าเต็งรัง สลับกับลานหิน สวนหิน ในฤดูฝน ป่าในลักษณะแบบนี้จึงทำหน้าที่เหมือนเป็นหลังคาบ้าน
คือพอฝนตกน้ำก็จะไหลรวมกันลงมาตามร่องธารน้ำต่างๆ และด้วยความที่เส้นทางเดินที่เดินเลียบขอบอ่างเก็บน้ำนี้ จะเป็นหน้าผาหินทราย ที่มีความสูง ตัดชันลงมายังผืนน้ำของ อ่างเก็บน้ำห้วยหวด ที่อยู่ด้านล่าง
แล้วลานหินทั้งหลายที่พอรับน้ำฝนแล้วก็จะไหลรวมลงมาในร่องห้วยต่างๆ แล้วไหลตกลงจากหน้าสูง ลงสู่อ่างเก็บน้ำเบื้องล่าง กลายเป็นน้ำตกต่างๆ ที่ตกลงมาอย่างสวยงาม โดยไล่มาตั้งแต่
เมื่อเดินมาจากจุดชมวิวพลับพลาทรงงาน ตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เลียบชายน้ำมาเพียง 400 เมตร ก็จะถึงน้ำตกรากไทรย้อย ซึ่งเป็นน้ำตกสายเล็กๆ ตกลงมาจากหน้าหินสูงราว 7 เมตร ที่มีต้นไทรปกคลุมหน้าผา ในบริเวณจึงร่มรื่นไปด้วย มอส เฟิร์น ต่างๆ บางปีที่น้ำในอ่างเก็บน้ำสูง สามารถล่องเรือมาจนถึงน้ำตกได้เลย
ในลำธารเดียวกัน แต่เหนือน้ำขึ้นไปด้านบน ห่างจากหน้าน้ำตกรากไทรย้อยไปราว100 เมตรจะเป็นน้ำตกเล็กๆ มีสองชั้นที่ห่างกันนิดหน่อย แต่บรรยากาศร่มรื่นมาก ที่นี่คือ น้ำตกธารน้ำใส ส่วนใหญ่น้ำตกธารน้ำใสนี้จะเก็บไว้ขากลับ ที่จะไม่ลงไปน้ำตกรากไทรย้อย แต่จะมาที่น้ำตกนี้แทน แล้วจึงเดินกลับไปลานพลับพลาทรงงานนั่นเอง
ย้อนลงไปที่น้ำตกรากไทรย้อย จะมีทางเดินเลียบหน้าเล็กๆ ซึ่งหน้าฝนแบบนี้จะมีดอกไม้ หรือพืชเล็กๆขึ้นกันเต็มไปหมด ทางเดินจะพาเดินขึ้นเนินเล็กๆ ไปยังลานหินที่มีธารน้ำฉ่ำๆ ซึ่งจะมีดอกไม้ดิน พวกดุสิตา กระดุมเงิน ขึ้นตามชายน้ำและออกดอกสวยงาม ถึงบอกว่าช่วงนี้มาหน้าฝนจะสวยมาก เดินแล้วสนุก
เดินไปอีกแค่ 300 เมตร ชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ ก็จะถึงสะพานข้ามลำห้วย ซึ่งลำห้วยนี้ ก็คือน้ำตกผาผึ้ง น้ำตกอีกแห่งหนึ่งบนเส้นทางสายนี้ จะมีทางเดินลงไปยังหุบลึกเบื้องล่าง เดินลงไปไม่ถึง 100 เมตร ก็จะมองเห็นอ่างเก็บน้ำ
ทางซ้ายมือจะมีทางลงเลียบหน้าไปยังน้ำตกผาผึ้งด้านล่าง ที่สายน้ำไหลผ่านช่องเขาเล็กๆ ลงมายังพื้นน้ำเบื้องล่าง น้ำตกสูงราว 25 เมตร บรรยากาศร่มรื่นมาก ถ้ามาทางเรือเราจะเห็นหน้าน้ำตกผาผึ้งได้ชัดเจน แต่เมื่อมาทางบกก็ต้องเห็นน้ำตกด้านข้างแบบนี้
นั่งชื่นชมกันพอใจแล้วก็เดินกลับขึ้นมาที่สะพานข้ามลำห้วยเหนือน้ำตกนั้นอีกที แล้วเดินตามทางไปอีกราว 800 เมตร ในช่วงฤดูฝน จะมีดอกไม้ป่า จำพวกดอกเข้าพรรษา ดอกกะทือ ดอกไพล หางหมาจอก ออกดอกกันสลอน แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจคือ
เดินมาไม่ทันไร ทางเดินจะค่อยๆลงเนิน มาจนถึงน้ำตกคำน้ำสร้าง ซึ่งตกลงมาจากหน้าหินชั้นเดียว สูงราว 30 เมตร ด้านใต้น้ำตกเป็นเพิงหิน น้ำตก นี้เล่นน้ำได้สบายๆ เป็นน้ำตกที่สวยงามมากอีกที่หนึ่ง
พักผ่อน เล่นน้ำกันพอใจแล้ว ค่อยๆ เดินกลับมาตามทางเดิม เดินใต้ร่มเงาไม้ ฟังเสียงน้ำตกและธารน้ำ ไม่ทันไรก็มาถึงลานพลับพลาทรงงามจุดเริ่มเดินเท้าเช่นเดิม
จะเห็นว่าเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเส้นเลียบอ่างเก็บน้ำนี้ เป็นเส้นทางที่เดินสนุกมาก สวยงาม เป็นธรรมชาติ เดินแล้วเพลินตลอดทาง เดินได้ไม่เบื่อ ยิ่งพอมานั่งพักที่ศาลา ตรงลานพลับพลาทรงงาม รับลมเย็นๆ ถือว่าเป็นที่ที่ได้พักผ่อนได้เต็มที่ ถือว่าคุ้มค่ากับที่ได้มาเดินเที่ยวมาก
มีโอกาสก็ขอเชิญไปพิสูจน์กันเลยครับ......