ขบวนรถไฟดั่งฝัน! ไปเที่ยวกาญจน์กับ ‘Royal Blossom’ ความสุขสุดคลาสสิก

ขบวนรถไฟดั่งฝัน! ไปเที่ยวกาญจน์กับ ‘Royal Blossom’ ความสุขสุดคลาสสิก

บนเส้นทางประวัติศาสตร์ รถไฟขบวนคลาสสิก “Royal Blossom” ได้พาผู้โดยสารไปดื่มด่ำกับความงดงามและประสบการณ์สุดหรูเหมือนอยู่ในฝัน

KEY

POINTS

  • ขบวนรถไฟ Royal Blossom ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามลงตัวด้วยสีแดงเบอร์รี่คาดลายสีทอง ซึ่งเป็นสีของกลีบดอกไม้ที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของขบวนรถไฟท่องเที่ยวชุดนี้ ด้านหน้าและด้านข้างตัวรถมีสัญลักษณ์เป็นโลโก้ "STATE RAILWAY OF THAILAND ROYAL BLOSSOM SINCE 2022" คู่กับดอกราชพฤกษ์ วางบนหน้าปัดนาฬิกาตัวเลขโรมัน และเข็มนาฬิกาไปที่ตัวเลข 13 (XIII)
  • การที่รถไฟ SRT Royal Blossom ขบวนนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อเป็นขบวนรถไฟเพื่อการท่องเที่ยว ห้องโดยสารจึงแบ่งออกเป็นหลายแบบ ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย ได้แก่ Group Car, Passenger Car และ Leisure Car

  • Royal Blossom คือรถไฟท่องเที่ยวที่ครบครัน ตั้งแต่ความสวยงามคลาสสิกในทุกกระเบียดนิ้วไปจนถึงความสะดวกสบายไม่แพ้สายการบินดีๆ เลยทีเดียว

กระแสตอบรับดีจนเปิดเส้นทางใหม่อีกเรื่อยๆ สำหรับ Royal Blossom รถไฟขบวนสุดพิเศษที่มาในดีไซน์คลาสสิกเสมือนหลุดมาจากนิยายแฟนตาซี แต่ตอนนี้กำลังทำหน้าที่พาผู้โดยสารทุกคนไปยังเส้นทางสวยๆ พร้อมบริการและความสะดวกสบายแบบที่หลายคนคาดไม่ถึง

SRT Royal Blossom เริ่มต้นเที่ยวปฐมฤกษ์ด้วยเส้นทาง กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี ขบวนรถไฟสุดคลาสสิกจึงต้องออกสตาร์ทที่สถานีรถไฟระดับตำนานอย่างสถานีรถไฟกรุงเทพฯ หรือที่เรียกติดปากกันว่า สถานีรถไฟหัวลำโพง

ขบวนรถไฟดั่งฝัน! ไปเที่ยวกาญจน์กับ ‘Royal Blossom’ ความสุขสุดคลาสสิก

ด้วยความที่ "Royal Blossom" ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามลงตัวด้วยสีแดงเบอร์รี่คาดลายสีทอง ซึ่งเป็นสีของกลีบดอกไม้ที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของขบวนรถไฟท่องเที่ยวชุดนี้ ด้านหน้าและด้านข้างตัวรถมีสัญลักษณ์เป็นโลโก้ "STATE RAILWAY OF THAILAND ROYAL BLOSSOM SINCE 2022" คู่กับดอกราชพฤกษ์ วางบนหน้าปัดนาฬิกาตัวเลขโรมัน และเข็มนาฬิกาไปที่ตัวเลข 13 (XIII) นี่จึงทำให้เป็นขบวนรถไฟไม่กี่ขบวนที่แม้จะยังไม่ทันเริ่มเดินรถ แต่ทุกคนกลับตื่นเต้นและสนุกสนานกับการถ่ายภาพขบวนรถไฟทั้งภายนอกภายใน เก็บความประทับใจของความสวยงามบนฉากหลังของหัวลำโพง

และทันทีที่ถึงเวลาออกเดินทาง หัวใจของเรายิ่งเต้นระรัว ซึ่งน่าประหลาดใจเพราะบนทางรถไฟสายเดิมที่เคยสัญจร แต่ความรู้สึกกลับแตกต่างอย่างมาก อาจด้วยความหรูหราในห้องโดยสาร หรือบรรยากาศที่เสมือนย้อนไปในอดีต แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อม และทุกการตกแต่งทั้งสะอาดสะอ้านและใหม่เอี่ยม

ขบวนรถไฟดั่งฝัน! ไปเที่ยวกาญจน์กับ ‘Royal Blossom’ ความสุขสุดคลาสสิก

เส้นทางที่ "Royal Blossom" พาเราไปเป็นการเดินทางแบบยิงตรงสู่กาญจนบุรี เพราะนี่คือรถไฟขบวนพิเศษ เราจึงทำเวลาได้ดี เพราะไม่ต้องจอดแวะตามสถานีรายทาง แต่สองข้างทางกว่าจะถึงเมืองกาญจน์ก็ยังสวยงามน่าประทับใจเสมอ

การที่รถไฟ "SRT Royal Blossom" ขบวนนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อเป็นขบวนรถไฟเพื่อการท่องเที่ยว ห้องโดยสารจึงแบ่งออกเป็นหลายแบบ ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย ได้แก่

Group Car จำนวน 1 คัน เป็นห้องโดยสารแบบกลุ่มส่วนตัว จำนวน 4 ห้อง รองรับได้ห้องละ 4-6 คน ชมวิวทิวทัศน์ได้กว่า 180 องศา

Passenger Car จำนวน 3 คัน เป็นห้องโดยสารแบบรวม มีคันละ 48 ที่นั่ง แต่ละตู้สีเบาะที่นั่งแตกต่างกัน คือ สีแดง สีเขียว สีฟ้า โดยมีพื้นรถเป็นสีน้ำตาล ผนังเป็นไม้ธรรมชาติ (ไม้สนซีดาร์) โดยที่นั่งมีทั้งแบบหันหน้าเข้าหาหน้าต่างเพื่อชมวิว หรือปรับเบาะหันหน้าเข้าหากันเพื่อทำกิจกรรมในกลุ่มการเดินทางร่วมกันได้ นอกจากนี้ยังมีอีก 8 ที่นั่ง ที่แยกออกมาสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวด้วย

ขบวนรถไฟดั่งฝัน! ไปเที่ยวกาญจน์กับ ‘Royal Blossom’ ความสุขสุดคลาสสิก

ขบวนรถไฟดั่งฝัน! ไปเที่ยวกาญจน์กับ ‘Royal Blossom’ ความสุขสุดคลาสสิก

และอีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันคือ Leisure Car จำนวน 1 คัน เป็นรถเสบียง แน่นอนว่ารถเสบียงได้รับความนิยมเยอะมากตั้งแต่รถเพิ่งออกจากสถานี ซึ่งเครื่องดื่มที่มาให้บริการมาจาก Black Canyon ร้านกาแฟชื่อดัง จึงมั่นใจได้ว่ารสชาติค่อนข้างมาตรฐาน จะนั่งจิบไปคุยไป หรือจะกลับไปนั่งดื่มด่ำที่ที่นั่งของตัวเองก็ได้

ขบวนรถไฟดั่งฝัน! ไปเที่ยวกาญจน์กับ ‘Royal Blossom’ ความสุขสุดคลาสสิก

ขบวนรถไฟดั่งฝัน! ไปเที่ยวกาญจน์กับ ‘Royal Blossom’ ความสุขสุดคลาสสิก

จุดที่รถไฟ "Royal Blossom" จอดให้แวะเที่ยวมี 2 จุด เป็น The Must ของเส้นทางรถไฟสายมรณะ คือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว และถ้ำกระแซ ถึงจะเป็นเพียงสองจุดแต่ก็บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของทางรถไฟสายนี้ได้ดีเยี่ยม

แต่อีกความเป็นอัตลักษณ์ของเมืองกาญจน์คือการล่องแพแม่น้ำแคว แต่ด้วยรถไฟไม่ได้เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวล่องแพ เราจึงต้องเปลี่ยนเป็นรถโค้ชชั่วคราวจากสถานีกาญจนบุรีเพื่อไปล่องแพซึมซับความเป็นเมืองกาญจน์ผ่านแม่น้ำแควใหญ่ และมื้ออาหารอร่อยๆ บนนั้น แล้วต่อด้วยแหล่งท่องเที่ยวสองแห่ง คือ วัดถ้ำพุหว้า สถาปัตยกรรมขอมโบราณ และ วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ วัดจีนมหายานที่อลังการด้วยพระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือสูง 12 เมตร แกะสลักจากไม้ทั้งองค์

ขบวนรถไฟดั่งฝัน! ไปเที่ยวกาญจน์กับ ‘Royal Blossom’ ความสุขสุดคลาสสิก

ขบวนรถไฟดั่งฝัน! ไปเที่ยวกาญจน์กับ ‘Royal Blossom’ ความสุขสุดคลาสสิก

หลังจากนั้นคือการเดินทางย้อนกลับไปยังเส้นทางเดิม เพื่อกลับสถานีรถไฟกรุงเทพฯ ถึงวิวสองข้างทางจะเปลี่ยนเป็นความมืดแล้ว แต่นี่คือช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนที่เราได้ผ่อนคลายกับขบวนรถไฟ "Royal Blossom" อย่างเต็มที่ อาจด้วยความเหนื่อยล้าของแสงแดดที่ต้องเจอตอนลงไปยังสถานที่ท่องเที่ยว หรือไม่ก็อาจจะเพราะเบาะนุ่มๆ แอร์เย็นๆ หรือโทนสีอุ่นๆ ที่ชวนให้เราปล่อยตัวปล่อยใจไปกับรถไฟขบวนนี้จนกระทั่งถึงที่หมายปลายทาง

ขบวนรถไฟดั่งฝัน! ไปเที่ยวกาญจน์กับ ‘Royal Blossom’ ความสุขสุดคลาสสิก

ขบวนรถไฟดั่งฝัน! ไปเที่ยวกาญจน์กับ ‘Royal Blossom’ ความสุขสุดคลาสสิก

เราคงไม่ต้องเปรียบเทียบ "SRT Royal Blossom" กับรถไฟปกติที่ใช้กันทั่วไป เพราะอยู่คนละประเภทการใช้งาน แต่สิ่งที่เราบอกได้เลยคือ Royal Blossom คือรถไฟท่องเที่ยวที่ครบครัน ตั้งแต่ความสวยงามคลาสสิกในทุกกระเบียดนิ้วไปจนถึงความสะดวกสบายไม่แพ้สายการบินดีๆ เลยทีเดียว

ล่าสุดรถไฟ "Royal Blossom" กำลังเปิดเส้นทางใหม่ กรุงเทพฯ-หัวหิน-กรุงเทพฯ แบบ One Day Trip แล้ว ทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ตลอดเดือนกันยายน รวมทั้งสิ้น 8 ทริป ได้แก่ วันที่ 7, 8, 14, 15, 21, 22, 28 และ 29 กันยายน เลือกที่นั่งได้ 2 แบบ ทั้งแบบกลุ่มและแบบส่วนตัว

อัตราค่าโดยสารรวมแพ็กเกจ ผู้ใหญ่และเด็กราคาเดียวกัน

1. ตู้ Passenger Car ราคาคนละ 1,799 บาท

2. ตู้ Group Car จำนวน 4 ห้อง ราคาห้องละ 15,999 บาท นั่งได้ห้องละ 4-6 คน

ซื้อตั๋วได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ และช่องทางการจำหน่ายตั๋วระบบออนไลน์ D-Ticket สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง https://railway.co.th

 

(การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สนับสนุนการเดินทาง)