ททท.จัดงาน DNA Travel & Fair Festival เสนอ 5 โซนท่องเที่ยว ตามสไตล์ตัวเอง
ททท. เตรียมจัดงาน “DNA Travel & Fair Festival” 19 – 22 ก.ย. เสนอ 5 โซนหลัก ท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ ให้ตรงความต้องการตัวเอง สร้างประสบการณ์ที่หลากหลาย กระตุ้นการเดินทางภายในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างอาชีพท้องถิ่น และสนับสนุนผู้ประกอบการ
12 ก.ย.2567 สำนักงานใหญ่ ททท. นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในการแถลงข่าว การจัดงาน “DNA (Destination Navigator Assessment) Travel & Fair Festival” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 19 – 22 กันยายน 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ Hall 6 - 7กรุงเทพมหานคร โดยเสนอ 5 โซนหลัก ที่มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นความถี่ ในการเดินทางภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ
นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ททท. ภายใต้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีเป้าหมายในการพัฒนายกระดับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสู่เป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals : STGs) เพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวในปัจจุบันต้องการประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจง และตรงกับความสนใจของตนเองมากขึ้น ดังนั้น เทคโนโลยีดิจิทัลจึงมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวกับจุดหมายปลายทาง และกิจกรรมที่แต่ละคนสนใจ ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน จึงได้กำหนดจัดงาน DNA (Destination Navigator Assessment) Travel & Fair Festival ขึ้น
โดยออกแบบมาเพื่อเน้นการท่องเที่ยวแบบ Stylecation ในรูปแบบตรงใจ ตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม
มีการแนะนำเส้นทางการท่องเที่ยวที่เน้นการผจญภัย ท่องประวัติศาสตร์ ดื่มด่ำธรรมชาติ ไหว้พระสักการะตามความเชื่อและความศรัทธา และการท่องเที่ยวแบบเน้นการสร้างคอนเทนต์ ได้นำเทคโนโลยีอย่าง AI (Artifitial Intellegnce) มาเป็นผู้ช่วยในการวางแผน ทริปท่องเที่ยวในอนาคต
การออกแบบกิจกรรมที่จะสร้าง Immersive Experience ให้กับผู้ร่วมงาน พร้อมสินค้าและบริการการท่องเที่ยวอย่างครบถ้วน ตอบโจทย์ทุก Stylecation ที่สำคัญ และยังเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ร่วมกัน เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนในอนาคต
ผู้ว่า ททท.ได้เชิญชวนนักท่องเที่ยว ให้ออกเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ ให้ตรงกับความต้องการผ่าน Your Travel DNA ที่นักท่องเที่ยวสามารถออกแบบการท่องเที่ยวที่เหมาะกับตนเอง และสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายและไม่เหมือนใคร ทั้งในเรื่องของการผจญภัย วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และการพักผ่อน โดยมีการจัดกิจกรรมและแนะนำเส้นทางการท่องเที่ยวที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย เช่น การท่องเที่ยวเชิงผจญภัยสาหรับคนรักกิจกรรมกลางแจ้ง การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เรื่องราวของท้องถิ่น หรือการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพสำหรับผู้ที่ต้องการ การพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกาย ผ่าน 5 โซนหลักภายในงาน ดังนี้
โซนที่ 1 Nature ท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ชาร์จความสดชื่นและดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งความร่มรื่น ผ่านการสำรวจพื้นที่สีเขียวและเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติ ลิ้มรสวัตถุดิบท้องถิ่น เรียนรู้สมุนไพรและกลิ่นหอมจากธรรมชาติ พร้อมสัมผัสสัตว์ประจำอุทยานไทยผ่านเทคโนโลยี Projection Mapping
โซนที่ 2 Adventure ท่องเที่ยวสายลุย ท้าทายทุกความกล้า พร้อมเผชิญหน้าทุกการผจญภัย พบกับการผจญภัยเสมือนจริงผ่าน VR ทั้งการเดินเที่ยว, การตะลุยด่านบน ATV การท่องโลกเสมือนจริงแบบ 360 องศา และการเล่นเซิร์ฟในทะเลจำลองที่ไม่ต้องกลัวเปียก
โซนที่ 3 Influencer ท่องเที่ยวสายคอนเทนต์ แชะ แชร์ เช็กอินห้ามพลาด ไปไหนต้องมีคอนเทนต์ พบกับจุดเช็กอินที่เหล่าอินฟลูสายท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด ทั้งชิมร้านอร่อย มุมถ่ายรูป สร้างคอนเทนต์ตามรอยคนดัง
โซนที่ 4 Spirit Seeker ท่องเที่ยวสายศรัทธา เส้นทางความเชื่อ เสริมแต้มบุญ หนุนพลังใจ พบกับกิจกรรมศรัทธาพาเที่ยวไทยที่ให้คุณร่วมสัมผัสเส้นทางความเชื่อ เคล็ดลับสักการะให้ปัง รับ Wallpaper มงคล และร่วมทำบุญกับโรงพยาบาลสงฆ์เสริมสิริมงคล
โซนที่ 5 Time Traveler ท่องเที่ยวสายประวัติศาสตร์ ย้อนวันวานผ่านกาลเวลา เดินทางสำรวจเรื่องราวในอดีต พบกับกิจกรรม ONCE UPON A TIME ย้อนวันวานพาชมแลนด์มาร์คประวัติศาสตร์ สัมผัสวิถีชีวิตในอดีต พาย้อนเวลาด้วยเทคโนโลยี Visual Effect พร้อมกับกิจกรรม Workshop ต่าง ๆ
สำหรับการจัดงาน DNA ครั้งนี้ นอกจากจะได้ท่องเที่ยวไปในโซนต่าง ๆ แล้ว ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ยังมีกิจกรรมแจกของรางวัล การแสดงจากศิลปินต่างๆ อาทิ ต้าห์อู๋-พิทยา โมบายล์-พิมรภัส เป๊ก ผลิตโชค และส้ม-มารี รวมถึงร่วมพูดคุยกับ Influencer และ Vlogger จาก 4 Stylecation ได้แก่ พลอย จาก Pigkaploy (สายอินฟลู) เบนซ์ จาก The Gaijin Trips แบกเป้เที่ยวคนเดียว (สายลุย) วิว จาก Point of View (สายประวัติศาสตร์) และบาส จาก Go Went Go (สายธรรมชาติ)
ผู้ว่า ททท. เชื่อมั่นว่า โครงการนี้จะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยว ทั้งยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ตลอดจนเป็นการสร้างอาชีพและช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในการกระจายรายได้เข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวส่วนต่าง ๆ รวมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน โดยสามารถติดตามรายละเอียดโครงการได้ที่ TAT Contact Center หรือโทร. 1672 Travel Buddy