ชมสายหมอกที่ยอด 'เขาพะเนินทุ่ง' ล่องแก่งที่ 'อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน'
ฤดูหนาวช่วงปลายปี หลายคนอยู่นิ่งไม่ได้ บางครั้งดูเหมือนต้องดิ้นรนค้นหา เพียงเพื่อจะพบกับช่วงเวลาที่ได้อยู่นิ่ง ๆ บนพื้นที่สูงบนยอดเขา และ 'เขาพะเนินทุ่ง' ณ 'อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน' จ.เพชรบุรี ก็อาจเป็นจุดหมายที่ชวนให้ค้นหา...
ฤดูหนาวในช่วงปลายปี จุดหมายของนักท่องเที่ยวที่ไม่อยากจับเจ่าอยู่กับบ้าน มักค้นหาลมหนาว สายหมอก และทุ่งกว้าง ซึ่งที่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มีครบ
พื้นที่โดยประมาณ 1.8 ล้านไร่ เป็นแหล่งต้นน้ำเพชรบุรีและปราณบุรี ประกอบด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน จุดสูงสุดอยู่ที่ ยอดเขางะงันนิกยวกตอง บริเวณรอยต่อไทยเมียนมา มีความสูง 1,513 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง รองลงมาคือ ยอดเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งมีความสูง 1,207 เมตร
จุดชมวิวยอดเขาพะเนินทุ่ง
การเดินทางขึ้นมาชื่นชมหมอกยามเช้าบน เขาพะเนินทุ่ง หากเป็นสายแคมป์ปิ้งสามารถกางเต็นท์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทั้งจุดชมวิวเขาพะเนินทุ่ง หรือจะเป็นลานกางเต็นท์บริเวณ บ้านกร่างแคมป์ ซึ่งห่างจากจุดชมวิวราว 15 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางขึ้นเขาที่ใช้เวลาเดินทางนานกว่าทางราบ
The Tree Riverside Resort
ทริปนี้เราเข้าพักกันที่ The Tree Riverside Resort ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบริมแม่น้ำเพชรบุรี อยู่ห่างประมาณ 15 กิโลเมตร จากเขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งเป็นจุดที่มีทั้งที่พักและร้านอาหารให้เลือกหลากหลาย
ล่องเรือชมธรรมชาติ
พร้อมกิจกรรมท่องเที่ยวหลากรส อาทิ การล่องเรือชมธรรมชาติในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน ขับรถขึ้นไปชมบรรยากาศสวย ๆ ของสันเขื่อนแก่งกระจาน หรือล่องเรือยางไปตามลำน้ำเพชรบุรี ฯลฯ
ล่องเรือยางชมธรรมชาติในแม่น้ำเพชรบุรี
ด้วยเส้นทางที่เล็กและลาดชัน การขับรถขึ้นไปยังเขาพะเนินทุ่ง จึงต้องใช้เวลาในการขับรถนานกว่าเส้นทางปกติ ใครที่ไม่แน่ใจหรือสภาพรถไม่พร้อมสำหรับการขึ้นเขา จะมีรถสองแถวขับเคลื่อนสี่ล้อของชาวบ้านคอยให้บริการ
อุโมงค์ต้นไม้
อุทยานฯ จะอนุญาตให้ขับรถขึ้นและลงเขาพะเนินทุ่งได้แค่วันละ 2 รอบ และจะไม่ปล่อยให้วิ่งสวนทางกันอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้
เวลาการขึ้นเขาพะเนินทุ่งในช่วงเช้า คือ 5.30 – 7.30 น. ช่วงบ่าย 13.00 - 15.00 น. สำหรับขาลง ช่วงเช้า 09.00 - 10.00 น. และช่วงบ่าย 16.00 - 17.00 น.
ฤดูกาลที่ผันเปลี่ยนบนยอดเขาพะเนินทุ่ง
ตีห้าครึ่งรถหลายคันจอดรอพร้อมบริเวณด่านทางเข้า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน วันนี้เราใช้บริการรถสองแถว ช่วงแรกที่ฝ่าความมืดเข้าไปเป็นเส้นทางปกติ เมื่อผ่านบ้านกร่างแคมป์ไปแล้ว ถนนเริ่มมีความขรุขระ คดเคี้ยวและลาดชัน ผ่านแรงเหวี่ยงและการสั่นสะเทือนมาพักใหญ่ เราก็ขึ้นมาถึงจุดชมวิวเมื่อฟ้าเริ่มสาง บรรดาผู้มาก่อนเพราะนอนเต็นท์เริ่มถอนตัวออกจากจุดชมวิวไปแล้ว บ้างก็ง่วนกับการเก็บสัมภาระเตรียมพร้อมสำหรับการลงจากเขา
จุดกางเต็นท์
เจ็ดโมงเศษ ถือว่ายังไม่สายเกินไปสำหรับสายหมอกที่เกาะกลุ่มสงบนิ่งอยู่กลางหุบเขา เพราะในช่วงหน้าหนาว หมอกขาว ๆ จะอยู่กับเราค่อนข้างยาวนาน
นกเงือกในป่าใหญ่
เช้าอย่างนี้ เรามองเห็นฝูง นกเงือก บินวนบนยอดไม้ แม้จะไกลจากสายตาแต่กลับได้ความรู้สึกที่ใกล้กว่า นี่อาจจะเป็นข้ออ้างสำหรับทางยาวของเลนส์ที่ไปไม่ถึง ซึ่งมันไม่เป็นไรเลย เพราะภาพนกน้อยในผืนป่ากว้างได้ถูกบันทึกเอาไว้ในเมมโมรี่ที่มีความละเอียดละเมียดละไมสุด ๆ
จุดชมวิวยอดเขาพะเนินทุ่ง
ความห่างไกลเป็นระยะทางพอดีสำหรับการอยู่ร่วมกัน ในพื้นที่ป่าของ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเป็นชุมชนแห่งความหลากหลายของพืชพรรณและสัตว์ป่า
ทะเลหมอกในหุบเขา เกาะกลุ่มกันเป็นวงกว้าง
ลานหญ้าบริเวณจุดชมวิว เขาพะเนินทุ่ง มีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก แต่หากทอดสายตาออกไปจะพบกับความยิ่งใหญ่ของเทือกเขาที่สลับซับซ้อน อากาศเย็น ๆ ในโทนขรึม เสริมบรรยากาศให้ทุกคนสงบนิ่งได้โดยไม่รู้ตัว
ทะเลหมอกหน้าหนาว จุดชมวิวยอดเขาพะเนินทุ่ง
ชื่นชม ทะเลหมอก อยู่นานนับชั่วโมง ก็ถึงเวลาเอ่ยคำลาเขาพะเนินทุ่งอีกแล้ว ก่อนเก้าโมงเล็กน้อย รถแต่ละคันทยอยออกมาต่อแถวเพื่อรอเวลาเดินทางกันต่อไป ขณะที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังคงอ้อยอิ่งอยู่กับการดื่มด่ำเก็บบรรยากาศตรงหน้ากลับไปกักตุนไว้
เป็นความทรงจำดี ๆ ที่มากเท่าไหร่ก็ไม่หนัก นานนักก็ไม่เลือนหาย...
บรรยากาศช่วงเช้าที่แสงเริ่มเปล่งประกาย
กลุ่มหมอกที่เกาะกลุ่มกันอยู่ไกล ๆ เป็นระยะห่างที่ช่างเหมาะเจาะ เมื่อแสงแรกยังไม่เข้าใกล้ หากยังไม่สายเกินไป ภาพความงามนั้นก็ยังไม่สลาย
แสงเหนือสันเขื่อนช่วงบ่ายแก่ ๆ
แต่ถ้าวันนี้สายไปเสียแล้ว ก็รอวันหน้าฟ้าใหม่ ขอให้ทุกเช้าเป็นก้าวย่างแห่งการเริ่มต้นที่ดีต่อไป เสมือนความงดงามยามอรุณรุ่งบนเขาพะเนินทุ่งที่ยังใจดีกับทุกคนเสมอ..
ร้านวิโรจน์แก่งกระจาน
จานเด็ดเขื่อนแก่งกระจาน
มาถึงที่นี่ต้องลิ้มลอง ปลาจากเขื่อนแก่งกระจาน ได้ชื่อว่ามีเนื้อเนียนนุ่ม รสชาติหวานมัน นำมาทำเมนูต่าง ๆ ทั้งต้มยำ ต้มโคล้ง ปลาทอด ปลาลวก ฯลฯ ฝีมือของกุ๊กตามร้านอาหารต่าง ๆ ในแถบนี้ ก็ได้ชื่อว่าเด็ดไม่แพ้ใคร
ปลาจากเขื่อนแก่งกระจาน
มาแล้วต้องแวะกินอาหารริมเขื่อนแก่งกระจานกันสักมื้อ นอกจากจะได้ลิ้มเมนูพื้นบ้านจากปลาสด ๆ ยังมีผักพื้นบ้านประจำฤดูกาลแสนอร่อย ที่ติดใจและไม่ควรพลาดในช่วงนี้คือ ผักกูด จะนำมายำหรือผัดก็เป็นที่ถูกใจของทุกคน
หากเลือกร้านที่อยู่ติดอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจานก็จะได้บรรยากาศสบาย ๆ ผ่อนคลายสุด ๆ ไปเลย