เลาะชายแดน รู้จัก ‘ด่านธรรมชาติในแม่น้ำเมย’

ผลพวงจากไทย ตัดไฟ งดส่งน้ำมัน ไปยังฝั่งพม่า เรามา ‘ส่องชายแดนไทย-พม่า’ แลดู ‘ด่านธรรมชาติในแม่น้ำเมย’ กันว่ามีด่านสำคัญอะไรบ้าง
ช่วงนี้มีข่าวว่าทางรัฐบาลไทยเรา งดส่งน้ำมัน งดส่งกระแสไฟฟ้า และงดส่งสัญญานอินเตอร์เนตไปยังฝั่งพม่า เพื่อกดดันให้ทาง รัฐบาลพม่า นั้นดำเนินการกับแก๊งจีนเทาที่อยู่ตาม ชายแดนฝั่งพม่า พวกนี้ทำเวบพนัน แก๊งคอลซ็นเตอร์ และการหลอกลวงหลายอย่าง
แล้วที่พวกนี้ดำเนินการได้เพราะใช้ไฟฟ้าจากฝั่งไทยสบายๆ ใช้สัญญานอินเตอร์เนตอย่างสบายใจ เรื่องนี้มันมาแตกหักก็ตอนที่มีข่าวว่าดาราจีน ซิงซิง มาเที่ยวเมืองไทย แล้วถูกคนจีนด้วยกันมาหลอกให้ข้ามไปฝั่งพม่าถูกบังคับให้ทำงานกับแก๊งพวกนี้
และมีอีกหลายกรณี จนส่งผลกระทบกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะมาฉลองตรุุษจีนในไทย ขยาด ไม่ยอมมา เพราะกลัวถูกหลอกไปฝั่งพม่า กระทบกับการท่องเที่ยวอีก
แน่นอนว่าที่เขาตัดไฟ 5 จุด ที่เขางดส่งไฟ ส่งน้ำมันไปคือด่านพรมแดนใหญ่ๆ อย่างอำเภอแม่สาย แม่สอด และด่านเจดีย์ 3 องค์ ที่เขาตัดไปนี่คือด่านตามกฎหมาย
แต่มันมีด่านชายแดนตามธรรมชาติที่ทางการทั้งสองฝั่งรู้ว่ามี แต่ไม่ได้ดำเนินการอะไร เปิดเป็นช่องหายใจไว้ ผมจะพามาดูสัก 3 จุด ตามริมฝั่งแม่น้ำเมย ด้านจังหวัดตาก หรือ ด่านธรรมชาติในแม่น้ำเมย ซึ่งคนอาจจะยังไม่ค่อยรู้มากนัก นอกจากคนในพื้นที่
อำเภอแม่สอด อำเภอพบพระ อำเภออุ้มผาง อำเภอแม่ระมาด อำเภอท่าสองยาง เป็น 5 อำเภอที่ถ้าจะบอกว่ามีคนพม่า มาอยู่กันเยอะมาก บางคนอาจจะเป็นกะเหรี่ยง บางคนอาจจะเป็นพม่า บางคนก็มีสัญชาติไทย แต่บางคนก็มาอยู่อาศัยในไทยเฉยๆ
ที่มีคนกะเหรี่ยงสัญชาติพม่า มาอยู่ในไทยแถบนี้เยอะ เพราะในเขตพม่า ตรงข้ามบ้านเรานั้นเป็นรัฐกะเหรี่ยง และก็เหมือนชุมชนชายแดนทั่วไปที่ผู้คนสองฝั่งรัฐข้ามไปมาหาสู่กันจนเป็นปกติ
แต่ที่ แม่สอด ดูจะเป็นที่รวมของคนพม่าในบ้านเรา อย่างที่บอกว่าบางคนเข้ามาแฝงทำงาน จน อำเภอแม่สอด แทบจะเป็นเมืองพม่าไปแล้ว แล้วมาอยู่ไม่ใช่ว่าแค่มาทำงาน ยังมาออกลูกออกหลานในแผ่นดินไทย
ผู้ใหญ่บ้าน กำนันเชื้อสายกะเหรี่ยง ก็รับรองกัน ให้ได้สัญชาติไทย มารักษาพยาบาลในบ้านเราจนโรงพญาบาลตามชายแดนขาดทุนกันหนักและต้องลดทอนการรักษาพยาบาลคนไทยลงไปแบ่งให้ต่างด้าว ปัญหาสารพัดสารเพ นอกจากด่านข้ามแดนทางกฎหมายแล้ว ยังมีด่านข้ามแดนทางธรรมชาติอีกมาก
จุดแรกที่ผมจะแนะนำคือท่าเรือที่บ้านแม่สลิดหลวง ก็ตรงทางแยกขึ้น ม่อนกระทิง อุทยานฯแม่เมยนั่นละครับแม่สลิดหลวง ท่าเรือข้ามฟากจะอยู่ท้ายหมู่บ้าน คนพม่าข้ามมา(คนไทยไม่ค่อยข้ามไป)ซื้อของฝั่งไทย ขนข้าวของไปมาผ่านเรือหางยาวข้ามฟาก
มีการไปมาทั้งวันทั้งคืน มีทหารพรานมาตรวจตราบ้างแต่ก็ไม่บ่อยมากนัก ฝั่งตรงข้ามคือเขตของรัฐกะเหรี่ยง นี่เป็นท่าเรือ หรือท่าข้ามฟากแรกที่อยากบอกให้รู้
ท่าที่สองคือท่าเรือบ้านแม่ตะวอ อำเภอท่าสองยาง ตรงนี้จะมี สภ.แม่เมยที่เป็นสถานีตำรวจที่สวยที่สุดสำหรับผม เพราะตั้งอยู่บนเนินริมแม่น้ำเมยฝั่งตรงข้ามคือรัฐกะเหรี่ยงในพม่า
ในหน้าแล้ง แม่น้ำเมยจะสีเขียวใส และมีหาดทรายสวยริมตลิ่ง ผมเคยไปกางเต็นท์ที่นี่หลายครั้ง ตั้งแต่เป็นโรงพักแบบเก่า จนเขาสร้างโรงพักใหม่ที่สวยงามแล้ว ก็ยังแวะไป ไม่รู้ว่าเป็นนโยบายของ ผบ.ตร.หรือผู้การจังหวัดตากก็ไม่รู้นะ
เพราะที่โรงพักแม่เมยแห่งนี้กลายเป็นจุดท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวแวะมาชมทิวทัศน์ มาถ่ายรูป แม้กระทั่งมากางเต็นท์พักแรม ซึ่งทางตำรวจก็อำนวยความสะดวกอย่างดี เห็นว่าปีใหม่ 68 ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวไปกางเต็นท์กันจนแน่นลานหน้าโรงพัก อันนี้ชื่นชมเลย
บ้านแม่สลิดหลวง
หอระฆังเอียง ที่วัดแม่สลิดหลวง
ท่าเรือบ้านแม่ตะวอ จะห่างจากสถานีตำรวจแม่เมยไปราว 1 กิโลเมตร ถ้าเทียบกับท่าเรือแม่สลิดหลวงแล้วถือว่าที่นี่ใหญ่กว่า ทางฝั่งไทยเป็นท่ารถสองแถวแม่ตะวอ-แม่สอด คนจากฝั่งพม่าจะข้ามมาแต่เช้า นั่งสองแถวไปซื้อของที่แม่สอด
ท่าเรือข้ามแดนแห่งนี้จึงคึกคักไปด้วยเรือหางยาวข้ามฝั่ง และเรือหางยาวบรรทุกสินค้าแล่นไปตามแม่น้ำเมยไปยังชุมชนริมแม่น้ำต่างๆ ที่นี่ มีทหารพรานคอยเฝ้าตรวจตราอยู่ตลอดเวลา
อีกแห่งที่จะแนะนำในวันนี้คือ ท่าเรือบ้านห้วยปลากอง อำเภอแม่ระมาด ซึ่งที่นี่ถือว่าค่อนข้างลึกลับ เพราะบ้านห้วยปลากองเองกก็เข้าไปลึกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 105 (แม่สอด-แม่สะเรียง)ไปหลายกิโล ในเส้นทางทุรกันดาร ขึ้นเขาลงห้วย ทางลูกรัง
หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยง(ไทย) แทบทั้งหมด แต่ก็อย่างที่บอกว่าญาติพี่น้องเขาอยู่ฝั่งพม่ามากมาย ผู้ใหญ่บ้านก็คนกะเหรี่ยง ได้ข่าวว่ามีเมียเป็นคนแม่หละ ซึ่งที่แม่หละมีค่ายผู้อพยพ ที่มาอยู่ตั้งแต่ปี 2527 แล้ว เมียผู้ใหญ่บ้านก็คนแม่หละ ผู้ใหญ่บ้านก็เป็นคนกะเหรี่ยง
มันจึงมีข่าวออกมาว่า คนพม่าเป็นผู้ใหญ่บ้านแล้วเซ็นรับรองให้คนพม่า ญาติพี่น้อง หรือใครก็ตามที่ข้ามมาแล้วถูก ผู้ใหญ่บ้านเซ็นรับรอง ให้ได้สัญชาติไทย ที่ว่ามานี่ไม่ได้หมายความว่าผู้ใหญ่บ้านห้วยปลากองเป็นแบบนั้นนะ แต่ข่าวที่มีมาก่อนนี้ว่ากันแบบนี้ มาเห็นที่นี่ก็เข้าใจเลย
ท่าเรือบ้านห้วยปลากองอยู่ตรงหน้าถ้ำโมกขละ ซึ่งเป็นถ้ำริมน้ำ ตรงข้ามคือ พม่า มี แม่น้ำเมย ที่กว้างไม่มากกั้นไว้ ที่นี่จึงดูลึกลับ ห่างหูห่างตาคนภายนอก
3 ท่าเรือธรรมชาติ นี่คือตัวอย่าง จริงๆ แล้วมีอีกเยอะ ที่ไกลหูไกลตา การขนน้ำมันจากฝั่งไทยไปพม่าจึงไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าทางการเข้มงวดท่าเรือที่รู้จักกันแพร่หลายอย่างท่าเรือ บ้านแม่สลิดหลวง หรือท่าเรือบ้านแม่ตะวอ ก็ยังมีท่าเรือแบบบ้านห้วยปลากองอีกเพียบ เผลอๆ มาตรการห้ามส่งน้ำมันออกอาจห้ามได้ไม่หมด
ปัญหาชายแดนมีมากเหลือเกิน โดยเฉพาะปัญหาสาธารณะสุขริมชายแดน ที่แบกภาระกันหนักมาก โดยที่ส่วนกลางไม่เคยคิดจะลงไปช่วยหรือแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนให้เขาเลย ปล่อยให้ท้องถิ่นเผชิญชะตากรรมกันต่อไป
นี่คือความเป็นจริงริม ชายแดนในเขตจังหวัดตาก ที่มีเพียงแม่น้ำเมยแคบๆกั้นอยู่เท่านั้น คนภายนอกอาจจะไม่ค่อยรู้ แต่ถึงเวลาที่ต้องรู้ปัญหาร่วมกันแล้ว....