อัพเดต 9 แหล่งท่องเที่ยวเถาหยวน เสน่ห์ใหม่เที่ยวไต้หวัน

รวมพิกัด 9 แหล่งท่องเที่ยวสุดมีเอกลักษณ์เมืองเถาหยวน เสน่ห์ใหม่ไต้หวัน ครบทั้งพื้นที่ประวัติศาสตร์ อนุสรณ์สถาน เจียง ไคเชก ถนนสายศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม เส้นทางเดินป่า แหล่งช้อปปิ้ง
ไปเที่ยวประเทศ ไต้หวัน หลายคนมักนึกถึงกรุง ‘ไทเป’ เมืองหลวงของเกาะไต้หวัน เมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายตั้งแต่ตึกที่เคยสูงที่สุดในโลก ความเป็นเมืองอันทันสมัย ธรรมชาติและแหล่งประวัติศาสตร์
แต่ห่างจากไทเปเพียง 40 กิโลเมตรโดยประมาณ ยังมีอีกเมืองน่าเที่ยวไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าไทเป นั่นก็คือเมือง เถาหยวน (Taoyuan) นอกจากเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติ เถาหยวนยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงลึกทั้งด้านธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม โบราณสถาน พื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ชาวเมืองเถาหยวนก็น่ารักมีอัธยาศัยไมตรี
หากมีโอกาสไปเที่ยวเถาหยวน นี่คือ 9 แหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ของเถาหยวนที่จะทำให้เมืองรองกลายเป็นเมืองเด่นเร็วๆ นี้
1.สวนศิลปวัฒนธรรมและหมู่บ้านอนุรักษ์หมาจู่ใหม่
สวนศิลปวัฒนธรรมและหมู่บ้านอนุรักษ์หมาจู่ใหม่ หรือชื่อภาษาอังกฤษ Matsu New Village Cultural and Creative Park (桃園馬祖新村) ตั้งอยู่ในเขตจงลี่ เมืองเถาหยวน
ใครสนใจประวัติศาสตร์ สงครามกลางเมืองจีน (Chinese Civil War) ระหว่างพรรคก๊กมินตั๋งกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน ช่วงปี 1927-1950 ไม่น่าพลาดชมสถานที่แห่งนี้
คุณเชอร์รี่ มัคคุเทศก์ชาวไต้หวัน กล่าวว่า ช่วงเวลาที่เกิดสงครามกลางเมืองจีน กองทหารจีน ‘พรรคก๊กมินตั๋ง’ ตั้งฐานทัพอยู่บนเกาะหมาจู่ (Matsu Islands) ซึ่งเป็นหมู่เกาะเล็กๆ ระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับเกาะไต้หวัน
เมื่ออดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ซ่ง เหม่ย์หลิง (Soong Mei-Ling) ภรรยาของประธานาธิบดีเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek) ไปเยี่ยมทหารบนเกาะหมาจู่กับคณะแรงงาน เธอต้องการสร้างความมั่นใจให้กับเหล่าทหารหาญที่ประจําการในแนวหน้า ว่าผู้อยู่ในอุปการะของพวกเขาจะได้รับการดูแล
มาดามเจียงจึงมีดำริให้สร้างหมู่บ้านขึ้นใหม่ที่เมืองเถาหยวนบนเกาะไต้หวัน เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับครอบครัวทหารผ่านศึก
เฟสแรกของบ้านพักสร้างแล้วเสร็จในปี 1957 และจัดสรรให้กับนายทหารระดับพลตรีกองทัพบก 84 นายและเจ้าหน้าที่ระดับล่าง ตลอดจนผู้อยู่ในอุปการะ
ต่อมาได้มีการสร้างที่พักเพิ่มเติม จํานวนผู้อยู่อาศัยได้เพิ่มขึ้นเป็น 226 ครัวเรือน มีการสร้างถนนภายในชุมชน ศูนย์กิจกรรม ห้องประชุม สวนสาธารณะ สนามหญ้า สนามกีฬา ศาลา และสิ่งอํานวยความสะดวกสาธารณะอื่นๆ ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดหมู่บ้านผู้อยู่ในอุปการะทางทหารแบบพอเพียงกึ่งปิด
หลังจากทายาทครอบครัวทหารผ่านศึกย้ายไปยังหมู่บ้านแห่งใหม่ที่มีความทันสมัยและสะดวกยิ่งขึ้น กรมกิจการวัฒนธรรมของรัฐบาลเมืองเถาหยวนจึงเริ่มส่งเสริมการอนุรักษ์หมู่บ้านของผู้พึ่งพาทางทหารแห่งนี้และปรับปรุงใหม่ให้เป็น สวนศิลปวัฒนธรรมและหมู่บ้านอนุรักษ์หมาจู่ใหม่ ภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการศิลปะ ตลาดงานฝีมือ และกิจกรรมสร้างสรรค์ต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมและศิลปะของท้องถิ่น
หมู่บ้านนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานประวัติศาสตร์และศิลปะร่วมสมัย จุดเด่นได้แก่ บ้านพักทหารผ่านศึก จำนวน 44 หลัง ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้ เนื่องจากมีสถาปัตยกรรมแบบบ้านจีนโบราณชั้นเดียว แผ่นปูนมุงหลังคา
ปูนปั้นประดับหลังคาซึ่งช่างจีนสมัยนั้นสร้างสรรค์ขึ้นตามความทรงจำและการระลึกถึงศิลปวัฒนธรรมจีนแผ่นดินใหญ่ บ้างก็แสดงถึงยศทหารเจ้าของเรือน เช่น ปูนปั้นรูปดาวที่แสดงถึงบ้านทหารยศนายพล
บ้านนายทหารบางหลังจัดแสดงเป็นแกลลอรี ร้านอาหาร คาเฟ่แมว ร้านน้ำชา ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ร้านจำหน่ายสินค้าท้องถิ่น ห้องสมุดหมู่บ้าน ฯลฯ และมีการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์และตลาดงานฝีมือเป็นประจำ ดึงดูดทั้งครอบครัวและคนรุ่นใหม่
นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในหมู่บ้านเพื่อสัมผัสบรรยากาศย้อนยุค ได้รับประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าประทับใจในสถานที่แห่งนี้
2.สะพานต้าซี (Daxi Bridge)
สะพานต้าซี (大溪橋) เป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำต้าฮั่นในเขตต้าซี ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของเมืองเถาหยวน สะพานแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ที่มีทั้งความงดงามและประวัติศาสตร์
สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1934 เดิมเป็นสะพานไม้ไผ่ที่สร้างขึ้นจากโครงไม้ไผ่และหินหลายชั้น เชื่อมต่อถนนรุ่ยอันส่วนที่ 1 และถนนเก่าต้าซี
ต่อมาในช่วงที่ญี่ปุ่นปกครองไต้หวัน สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่เป็นสะพานแขวนเคเบิลแบบเจาะคู่ที่มีความยาวรวม 280 เมตร พร้อมด้วยลวดลายตกแต่งแบบบาโรกและซุ้มประตูสูงทั้งสองด้าน
หลังจากมีการสร้างสะพาน Wuling และถนนวงแหวนรอบนอกแห่งที่สอง สะพานต้าซีก็ค่อยๆ ลดบทบาทลง แต่ก็มีการบูรณะอีก 2 ครั้งเนื่องจากความเสียหายที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่น
ด้วยความพยายามจากสํานักงานเขตและอธิบดีกรมทางหลวงในปี 2001 สะพานต้าซีได้รับการเปลี่ยนเป็นสะพานเหล็กและคอนกรีต รวมความยาว 330 เมตร พร้อมเสาที่แข็งแรง 13 ต้น
ปัจจุบัน สะพานต้าซีเป็นจุดท่องเที่ยวสัญลักษณ์ของเมืองเถาหยวนที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชม เพราะยังคงมีทางเข้าซุ้มประตูโค้งแบบยุคอาณานิคมของญี่ปุ่น เหนือซุ้มประตูตรงกลางประดับโดม ทั้งซุ้มประตูและตลอดแนวสะพานประดับไปด้วยศิลปะลายปูนปั้นแบบบาโรก
สะพานต้าซีเปิดใช้สำหรับคนเดินเท้าเท่านั้น มีจุดถ่ายรูปที่สวยงามมากมายบนตัวสะพาน มีม้านั่งให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจชมความงามของสะพาน มีชาวไต้หวันมาวิ่งจ็อกกิ้ง บ้างก็จูงสุนัขมาเดินเล่น
ส่วนตอนกลางคืนจะมีแสงไฟประดับเพิ่มความโรแมนติก เหมาะสำหรับถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
3. ถนนโบราณต้าซี (Daxi Old Street)
ถ่ายรูปและนั่งชมความงามของสะพานต้าซีจนอิ่มอกอิ่มใจแล้ว มีอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเพราะไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว นั่นก็คือ ถนนโบราณต้าซี หรือ Daxi Old Street
นักท่องเที่ยวสามารถเดินจากปลายสุดของ ‘สะพานต้าซี’ มาที่ถนนโบราณแห่งนี้ได้เลย ประมาณไม่ถึงร้อยเมตร
ประมาณปี 1818 ชาวจีนฮั่นมาตั้งถิ่นฐานเพาะปลูกสร้างชุมชนบริเวณนี้และใช้แม่น้ำต้าฮั่นเป็นช่องทางในการขนส่งสินค้าเกษตรกรรมและการค้าไม้
ต่อมาในยุคที่ญี่ปุ่นปกครองไต้หวัน ญี่ปุ่นซึ่งส่งคนไปเรียนสถาปัตยกรรมในยุโรปได้นำความรู้มาทดลองสร้างความทันสมัยในเขตต้าซี โดยสร้างอาคารพาณิชย์ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกด้วยสถาปนิกชาวญี่ปุ่นขึ้นที่นี่
ปัจจุบัน ถนนโบราณต้าซี เป็นหนึ่งในถนนเก่าที่ใหญ่และพลุกพล่านที่สุดในไต้หวัน เป็นย่านช้อปปิ้งเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกญี่ปุ่น
นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับการเดินชมโครงสร้างตัวตึกที่ผสมกันระหว่างอิฐสีแดงก้อนใหญ่จากมณฑลฝูเจี้ยนประดับลวดลายปูนปั้นแบบยุโรป ซึ่งได้รับการปรับเปลี่ยนเป็นร้านขายสินค้าที่ระลึกท้องถิ่น ใบชา ของประดับบ้านจากงานไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้แบบดั้งเดิม
สำหรับนักชิม ถนนโบราณต้าซีมีชื่อเสียงของการเป็นแหล่งรวมของว่างท้องถิ่นมากมาย เช่น ขนมทำจากถั่วเหลือง เกี๊ยวไส้ต่างๆ ขนมอบที่คล้ายกับขนมไข่บ้านเรา กรอบนอกนุ่มใน, ผลไม้สด
โดยเฉพาะ เต้าหู้แข็งต้าซี ที่ใช้น้ำแร่ในการทำเต้าหู้ มีให้เลือกมากกว่า 40 ร้าน แต่ละร้านก็มีสูตรเด็ดเป็นของตนเอง อร่อยทุกร้านเท่าที่ได้ชิม
ทางเดินสะอาดสะอ้าน มีรถวิ่งเข้าออก แต่จะค่อยๆ ขับ ค่อยๆ ไป ไม่มีบีบแตรไล่นักท่องเที่ยว นอกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ คนไต้หวันเองทั้งวัยรุ่นก็นิยมมาเดินเล่นที่ถนนโบราณต้าซี มีกลุ่มขี่จักรยานสมัยใหม่มาแวะกินเต้าหู้ร้านดัง
4.สุสานอดีตประธานาธิบดีเจียง ไคเชก
อีกหนึ่งสถานที่สำคัญในเมืองเถาหยวนสำหรับทุกคนที่ต้องการแสดงความเคารพต่อบุคคลสําคัญในประวัติศาสตร์ไต้หวัน คือ Cihu Mausoleum (สุสานฉือหู) หรือ สุสานอดีตประธานาธิบดีเจียง ไคเชก ที่ฉือหู
ที่ดินผืนนี้เคยเป็นของตระกูลหลินแห่งปั้นเฉียว ซึ่งได้บริจาคให้อดีตประธานาธิบดีเจียงโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในช่วงปี 1950
เดิม ‘ฉือหู’ มีชื่อว่า ปีเหว่ย (埤尾) แต่เนื่องจากทิวทัศน์ทะเลสาบที่งดงามและต้นหลิวที่แกว่งไกวไปตามสายลม ทําให้ประธานาธิบดีเจียงนึกถึงบ้านเกิดของเขาที่เทศมณฑลเฟิ่งหัวของมณฑลเจ้อเจียงในประเทศจีน และ ‘คุณนายหวังไฉ่หยู’ มารดาผู้เมตตาของเขา
ประธานาธิบดีเจียงจึงเปลี่ยนชื่อสถานที่แห่งนี้เป็น Cihu (ฉือหู) ซึ่งมีความหมายว่า "ทะเลสาบแห่งความเมตตา" เพื่อแสดงถึงความรักและความเคารพต่อมารดา และสร้างที่อยู่อาศัยในสถาปัตยกรรมสไตล์หมินหนานและเจ้อเจียง กลายเป็นที่พำนักในเวลาที่เขาต้องการพักผ่อนเป็นส่วนตัว แต่ไม่มีใครทราบว่าเขามาพำนักที่นี่วันใดและเมื่อใดบ้าง
เมื่อเจียง ไคเชก ถึงแก่อสัญกรรมในปี ค.ศ.1975 โลงศพของเขาถูกนำมาประดิษฐาน ณ ที่แห่งนี้ และสถานที่นี้ได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น สุสานฉือหู
สุสานฉือหูมีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงาม แบ่งออกเป็นฉือหูด้านหน้าและด้านหลัง โดยมีลำธารเชื่อมต่อทะเลสาบทั้งสองเข้าด้วยกัน รายล้อมด้วยภูเขาเขียวขจีและต้นหลิวริมฝั่งทะเลสาบ สร้างบรรยากาศคล้ายกับภูมิทัศน์ในแถบเจียงหนาน
ภายในสุสาน นอกจากประดิษฐานโลงศพของเจียงไคเชกแล้ว ยังจัดแสดงวัตถุทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ประวัติชีวิตของเขาและตัวอย่างผลงานการเขียนอักษรจีน
แต่เนื่องจากเคยมีผู้ขว้างสิ่งของไปยังโลงศพ ปัจจุบันจึงปิดการเข้าชมภายในสุสาน แต่นักท่องเที่ยวยังสามารถชมสถาปัตยกรรมภายนอก และที่ไม่ควรพลาดชมคือ ‘พิธีการเปลี่ยนเวรยามของทหารรักษาเกียรติยศ’ ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนของกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ
ทุกๆ ชั่วโมง ทหารรักษาเกียรติยศจะเปลี่ยนกะ ฝึกซ้อมดาบปลายปืนและหมุนปืนอย่างมีเอกลักษณ์ ทําให้การเปลี่ยนเวรยามเป็นพิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดซึ่งดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
ฉือหูเคยเป็นพื้นที่ควบคุมทางทหาร จึงยังคงรักษาสภาพป่าไม้ดั้งเดิมและระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าชมได้ เส้นทางเดินชมธรรมชาติได้รับการออกแบบให้เดินง่ายและไม่ลาดชัน เหมาะสำหรับการเดินเล่นและถ่ายภาพ
นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียงยังมี สวนประติมากรรมเจียง ไคเชก รวบรวมรูปปั้นเจียงไคเชกจากทั่วไต้หวันนำมาจัดแสดงในรูปแบบงานศิลปะติดตั้งอันโดดเด่น
สุสานฉือหูผสมผสานธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ไม่เพียงแต่เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งธรรมชาติและมนุษยศาสตร์
5. อ่างเก็บน้ำฉือเหมิน (Shimen Reservoir)
อ่างเก็บน้ำสือเหมิน (石門水庫 / Shimen Reservoir) ตั้งอยู่ในเขตต้าซี (Daxi District) เมืองเถาหยวน ถือเป็นหนึ่งในอ่างเก็บน้ำที่สำคัญที่สุดทางตอนเหนือของไต้หวัน มีหน้าที่หลักในการชลประทาน การจ่ายน้ำ การผลิตกระแสไฟฟ้า และการป้องกันน้ำท่วม
อ่างเก็บน้ำแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1964 โดยกักเก็บน้ำจากแม่น้ำต้าฮั่น (Dahan River) ทัศนียภาพโดยรอบงดงามตลอดทั้งปี ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติและทำกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจ
บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำมีเส้นทางเดินชมวิว เหมาะสำหรับการเดินเล่น ปีนเขา และปั่นจักรยาน นักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพของทะเลสาบและภูเขาที่โอบล้อมได้ตลอดเส้นทาง
นอกจากนี้ ยังสามารถล่องเรือเพื่อสัมผัสบรรยากาศใกล้ชิดกับผืนน้ำ หรือเพลิดเพลินกับเมนูปลาสด ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่
ในฤดูใบไม้ผลิ ซากุระจะบานสะพรั่งสร้างบรรยากาศที่สวยงาม ส่วนฤดูใบไม้ร่วง ต้นเมเปิลจะเปลี่ยนเป็นสีแดงแต่งแต้มทั่วทั้งป่า แม้กระทั่งฤดูฝนก็ทำให้ที่นี่สวยงามราวภาพฝัน ทำให้แต่ละฤดูมีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน
ทั้งนี้เมื่อครั้ง ในหลวงรัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ เยือนไต้หวันในปีพ.ศ.2506 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จฯ ไปยัง 'อ่างเก็บน้ำสือเหมิน' เพื่อทรงศึกษาและเยี่ยมชมเกี่ยวกับการก่อสร้างและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการอนุรักษ์น้ำของไต้หวันในขณะนั้น โดยมีรองประธานาธิบดีเฉินเฉิงถวายการต้อนรับ
6. ถนนโบราณอิงเกอ (Yingge Old Street)
สำหรับคนชอบเครื่องปั้นดินเผา ไม่ควรพลาดโอกาสไปเดินที่ ถนนโบราณอิงเกอ (Yingge Old Street) ถนนเส้นนี้อยู่ในย่านเมืองอุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผาเก่าแก่ของไต้หวัน
ปัจจุบันมีการสร้าง พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาอิงเกอ จัดแสดงสินค้าและผลิตเครื่องปั้นดินเผาทั้งสไตล์ร่วมสมัยและโบราณ
อุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผาในพื้นที่แห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ย้อนกลับไปถึงปี ค.ศ.1805 เมื่อพบว่าดินในอำเภออิงเกอเหมาะสำหรับการปั้นเซรามิก
นอกจากนี้ ยังมีถ่านหินในพื้นที่ที่เอื้อต่อการเผาเครื่องปั้นดินเผา พร้อมกับความสะดวกในการขนส่งทางน้ำและทางรถไฟ ทำให้อิงเกอกลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเซรามิกที่เฟื่องฟูที่สุด โดยในช่วงรุ่งเรืองมีโรงงานมากกว่าหนึ่งพันแห่ง
นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมถนนโบราณอิงเกอเพื่อชมผลงานศิลปะเครื่องปั้นดินเผาต่างๆ หรือสัมผัสประสบการณ์การทำเครื่องปั้นดินเผาด้วยตัวเอง มีการจัดงานเทศกาลเครื่องปั้นดินเผาเป็นประจำทุกปีเพื่อส่งเสริมงานศิลปะท้องถิ่น
บนถนนเส้นนี้ยังมีอาคารขนาด 4 ชั้น ภายในแบ่งพื้นที่เป็นแกลลอรีมากมายแซมอยู่ระหว่างร้านจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผา ร้านเซรามิก ร้านเครื่องครัวร่วมสมัยแต่ดีไซน์โบราณ เครื่องหอม ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไต้หวัน ฯลฯ มีงานศิลปะหลากหลายรูปแบบและสินค้าพื้นเมืองให้เลือกซื้อมากมาย
7. พิพิธภัณฑ์โบราณคดีสือซานหาง
สายพิพิธภัณฑ์ชอบศึกษาประวัติศาสตร์กันฉ่ำๆ ไม่ควรพลาด พิพิธภัณฑ์โบราณคดีสือซานหาง (Shihsanhang Museum of Archaeology) เป็นพิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งแรกในภาคเหนือของไต้หวัน
พิพิธภัณฑ์โบราณคดี Shihsanhang ก่อตั้งขึ้นร่วมกับ "การขุดค้นกู้ภัย" ที่ดําเนินการที่แหล่งโบราณคดี Shihsanhang ในปี 1990
การอนุรักษ์หลุมขุดค้นเป็นพิพิธภัณฑ์ฯ
ในเวลานั้น กรมการเคหะและการพัฒนาของรัฐบาลมณฑลไต้หวันวางแผนที่จะสร้างโรงบําบัดน้ําเสียที่ด้านบนของพื้นที่ แต่มีการขุดพบโบราณวัตถุ อายุประมาณ 500 – 1,800 ปีก่อนประวัติศาสตร์ของไต้หวัน
กลุ่มนักโบราณคดีที่มีชื่อเสียงจึงได้จัดแคมเปญเพื่อเก็บรักษาสิ่งที่ขุดค้นพบ สามารถรวบรวมการสนับสนุนจากสาธารณชนจํานวนมาก
ด้วยเหตุนี้ ในปี 1992 สภาบริหารเมืองจึงได้จัดตั้งห้องนิทรรศการไซต์สือชานหาง เพื่ออนุรักษ์และจัดแสดงวัตถุที่ขุดพบ และเปลี่ยนชื่อเป็นพิพิธภัณฑ์โบราณคดีสือชานหางในเวลาต่อมา ทำหน้าที่เป็นศูนย์การศึกษาเพื่อสอนผู้คนเกี่ยวกับความสำคัญของวัฒนธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์
โบราณวัตถุชิ้นสำคัญที่ไม่ควรพลาดชมคือ Anthropomorphic Jar หรือ ‘หม้อดินเผารูปหน้าคน’ หนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่โดดเด่นที่สุดที่ขุดพบที่ไซต์ Shihsanhang หม้อดินสีน้ำตาลแดงประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนปากหม้อ ตัวหม้อและฐานหม้อ
บริเวณตัวหม้อสลักเป็นภาพใบหน้ามนุษย์สามมิติ ตามขอบเครื่องปั้นดินเผาเขียนเป็นลายวงกลมและลายขีด เป็นหม้อดินใบเดียวที่ค้นพบในไต้หวันที่ตกแต่งด้วยภาพใบหน้ามนุษย์ มีอายุประมาณ 1,800-500 ปี ขุดพบในสถานที่ฝังศพและเชื่อกันว่ามีความสําคัญทางศาสนาบางอย่าง
‘หม้อดินเผารูปหน้าคน’ เป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนของทักษะการทําเครื่องปั้นดินเผาที่ประณีตและความคิดสร้างสรรค์อันยาวนานของผู้อยู่อาศัยในยุคก่อนประวัติศาสตร์ของไต้หวัน
พิพิธภัณฑ์โบราณคดีสือซานหาง ยังมีวัตถุจัดแสดงที่น่าสนใจอีกมากมาย จัดแสดงด้วยเทคโนโลยีทันสมัย มีหูฟังบรรยายเกี่ยวกับวัตถุจัดแสดง และมีภาษาไทยให้เลือก
8.ภูเขากวนอิม (Guanyinshan)
อีกหนึ่งสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ แนะนำให้รู้จัก ภูเขากวนอิม หรือ Guanyinshan (Mt. Guanyin) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ําตัมซุย (Tamsui River)
ตามตํานานเล่าเมื่อกว่า 200 ปีที่แล้ว วัดกวนอิม (พระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา) ถูกสร้างขึ้นบนภูเขาลูกนี้ หลังจากนั้นผู้คนก็เริ่มเรียกภูเขาแห่งนี้ว่าภูเขากวนอิม บ้างก็กล่าวกันว่าภูเขาได้รับการตั้งชื่อเช่นนี้เพราะรูปร่างคล้ายกับรูปสลักกวนอิมที่เอนนอน
เขากวนอิมมีความสูง 616 เมตร เป็นภูเขาไฟที่สงบตัวที่อายุน้อยที่สุดของไต้หวัน เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 600,000 ปีก่อน มวลภูเขาถูกสร้างขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปผ่านการปะทุต่างๆ และการสะสมของหินหนืดและเศษซากภูเขาไฟ
จุดน่าสนใจบนภูเขาลูกนี้คือมี เส้นทางเดินป่า จำนวน 6 เส้นทาง นำพาผู้มาเยือนลึกเข้าไปในป่าที่มีระยะทางและความยากง่ายต่างกันไป ช่วยให้เพลิดเพลินไปกับภูมิทัศน์ธรรมชาติและระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์
เนื่องจากเขากวนอิมเป็นจุดสูงที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของไต้หวัน และเป็นจุดที่แม่น้ำและแผ่นดินมาบรรจบกัน จึงมีพืชและสัตว์หลากหลายชนิด เป็นที่อยู่อาศัยของนกล่าเหยื่อหลายสายพันธุ์ เช่น เหยี่ยว อินทรีนานาชนิด และยังอยู่บนเส้นทางของนกอพยพที่ผ่านไต้หวันในฤดูกาลต่างๆ นับเป็นสถานที่ยอดนิยมในการชมนกหายาก
ใกล้กับศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว ยังมี Bo Bo Cafe คาเฟ่แมว ให้นักท่องเที่ยวได้จิบเครื่องดื่ม ชมความน่ารักของแมวตัวอ้วนหลายสายพันธุ์ บ้างนอนเฉยๆ ก็น่ารักแล้ว บ้างเล่นอยู่กับอุปกรณ์ตกแต่งร้านที่ออกแบบมาสำหรับการใช้ชีวิตของแมวเหมียว
9.กลอเรีย เอาท์เล็ตส์ (Gloria Outlets)
เอาท์เล็ทมอลล์สไตล์อเมริกันที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน กลอเรีย เอาท์เล็ตส์ (Gloria Outlets) ตั้งอยู่ในเมืองเถาหยวนก่อนถึงสนามบิน
เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2015 และมีการขยายพื้นที่เพิ่มเติมในปี 2016 และ 2019 ปัจจุบันมีร้านค้ามากกว่า 285 แบรนด์ รวมถึงลักชัวรี่แบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากมาย จำหน่ายสินค้าราคาถูกกว่าราคาปกติภายนอก ประมาณ 30-70 เปอร์เซ็นต์
อากาศเดือนกุมภาพันธ์ตอนกลางวันต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส แนะนำให้สวมเสื้อกันหนาวจะได้เดินชมสินค้าได้อย่างเพลิดเพลิน
เดินเหนื่อยๆ ก็มีร้านอาหารและศูนย์อาหารให้บริการอยู่ที่ชั้น 2 และชั้น 3
พวกเรานักท่องเที่ยวหากมียอดซื้อสินค้าตั้งแต่ 2,000 ดอลลาร์ไต้หวันขึ้นไป สามารถนำพาสสปอร์ตและใบเสร็จไปให้เจ้าหน้าที่ทำเอกสารคืนภาษีได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลของกลอเรีย เอาท์เล็ตส์
เมื่อไปถึงสนามบินเถาหยวน มองหา ป้าย Tax Refund แล้วเดินตามป้ายไป เราสามารถนำพาสสปอร์ตและเอกสารชุดนี้ไปสแกนได้เองที่เครื่องคืนภาษี มีด้วยกันหลายเครื่องตั้งเรียงกัน เราเลือกคืนเป็นเงินสด(ได้เงินสดทันที) หรือคืนผ่านบัตรเครดิตก็ได้ สะดวกและรวดเร็วมาก มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำถ้าต้องการความช่วยเหลือ