เร่งพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจใหม่ดึงทุนต่างชาติ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ระบุ เชื่อว่าข้อแนะนำในสมุดปกขาวจากภาคเอกชนจะเป็นความหวังในการฟื้นเศรษฐกิจไทย โดยรัฐบาลและเอกชนจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีโอกาสเติบโต ขณะที่พันธมิตรลงทุนอย่างจีนและญี่ปุ่นยังเข้มแข็ง ส่วนรายใหม่อย่างซาอุดีอาระเบีย และลาติอเมริกาก็พร้อมเข้ามาลงทุน โดยจากนี้รัฐบาลจะเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการลงทุนโดยเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่ เช่น รถไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์
ขณะนี้ประเทศไทยในสายตาต่างชาติหลังการประชุมเอเปคนั้น ถือว่ามีศักยภาพดึงดูดการลงทุน ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน โดยเฉพาะนโยบาย BCG ที่จะเป็นโอกาสของประเทศ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่มีความพร้อมในและเป็นโมเดลของความยั่งยืน ที่สามารถทำได้ทั้งอุตสาหกรรมเก่า อุตสาหกรรมใหม่ อีกทั้ง BCG จะเป็นเกราะป้องกัน กติกาหรือระเบียบการค้าโลกภายในสนธิสัญญาการค้าของประเทศต่างๆ
รัฐบาลได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรอไว้แล้วทั้งเส้นทางคมนาคม และโครงข่ายอินเตอร์เน็ต รวมทั้งขณะนี้รัฐบาลมีโครงการศึกษาจัดทำแผนแม่บทและการเตรียมระเบียงเศรษฐกิจใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นกระจายอยู่ทุกภูมิภาค คาดว่า ภายใน 90 วันจากนี้จะมีความชัดเจมากขึ้น ซึ่งการมีระเบียงเศรษฐกิจใหม่ก็เพื่อไม่ให้ไม่ให้เศรษฐกิจกระจุกตัวผูกติดเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และเป็นการเปิดให้มีการลงทุนใหม่ๆ ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพอ และดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ๆ อาทิ พลังงานสะอาด ไปสู่ระดับพื้นที่ เพื่อให้เศรษฐกิจประเทศแข็งแรง ซึ่งไทย จะสร้างความได้เปรียบกลับมาอีกครั้ง