ผลชันสูตร "บอย อนันต์" ออกแล้ว! หลังแม่คาใจลูกหายตัวไปก่อนพบผูกคอตายปริศนา

ผลชันสูตร "บอย อนันต์" ออกแล้ว! หลังแม่คาใจลูกหายตัวไปก่อนพบผูกคอตายปริศนา

คืบหน้า "บอย อนันต์" นักกิจกรรมทางการเมือง หายตัวไปก่อนพบเป็นศพผูกคอตายปริศนา ล่าสุดผลชันสูตรออกแล้ว ด้านแม่ไม่ติดใจ-ไม่รู้สาเหตุลูกคิดสั้นลาโลก

จากกรณีที่มีคนพบศพ นายอนันต์ โลเกตุ หรือ บอย อนันต์ อายุ 27 ปี นักกิจกรรมทางการเมือง ผูกคอเสียชีวิตที่ศาลารอรถข้างป้อมตำรวจ หน้าที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 19 เมษายน 65 ที่ผ่านมา

 

 

บอย อนันต์ เป็นนักกิจกรรมทางการเมือง ที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมสัมมนาพรรคก้าวไกลในโรงแรมแห่งหนึ่งที่ อ.เมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 18 เมษายน 65 ที่ผ่านมา ก่อนที่บอยจะหายตัวไป และมาพบเป็นศพผูกคอเสียชีวิดังกล่าว ทำให้แม่ และครอบครัวของบอยติดใจสาเหตุการตาย เนื่องจากบอยเคยเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองสมัยเป็นนักศึกษา เคยร่วมรณรงค์การ Vote NO ในการลงประชามติรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เมื่อ 23 มิ.ย. 2559 ที่ตลาดเคหะบางพลี จ.สมุทรปราการ

 

กระทั่งต่อมาถูกตำรวจและทหารควบคุมตัวและตั้งข้อหาฝ่าฝืน และตกเป็น 1 ใน 7 จำเลยในข้อหา ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559

 

ต่อมาบอยยังเป็น 1 ใน 5 ผู้ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ประชามติฯ อีกครั้งเมื่อถูกจับกุมจากการติดรถเดินทางไปยัง จ.ราชบุรี โดยรถคันดังกล่าวบรรทุกสติกเกอร์ Vote NO ไปด้วยเมื่อปี 2559

 

 

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้(21 เมษายน 2565) พ.ต.อ.ฆนรพ รัตนใหม่ ผู้กำกับการ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยความคืบหน้าของคดีนี้ว่า จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด และเชือกที่ผู้ตายใช้ผูกคอก็มีพยานที่เป็นชาวบ้านยืนยันว่าเป็นเชือกที่ใช้ผูกของวางอยู่ในศาลาอยู่แล้ว โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบผลการชันสูตรเบื้องต้นแล้ว และกำลังรอผลชันสูตรยืนยันอย่างเป็นทางการของแพทย์นิติเวช รพ.มหาราชนครราชสีมา เพื่อนำมาประกอบก่อนสรุปสำนวนคดีต่อไป

 

ทางด้าน นางหนูพิศ โลเกตุ อายุ 48 ปี แม่ของ บอย อนันต์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับทราบจากแพทย์ผู้ชันสูตรว่าเป็นการฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอตัวเอง ทำให้ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต เนื่องจากสภาพศพไม่พบร่องรอยบาดแผลที่บ่งชี้ว่ามีการทำร้ายร่างกาย แต่สภาพศพมีรอยขีดข่วนบ้างแต่ก็ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้

 

นอกจากนี้ยังไม่พบหลักฐานทางกายภาพว่าผู้ตายมีการต่อสู้ขัดขืนก่อนเสียชีวิต ทั้งนี้หลังจากได้ฟังคำชี้แจงจากแพทย์ ตนก็ไม่ได้ติดใจผลการชันสูตรศพของลูกชายแต่อย่างใด แม้ว่าขณะนี้ตนจะยังไม่ทราบเหตุจูงใจว่าลูกชายของตนฆ่าตัวตายเพราะสาเหตุอะไร ซึ่งตอนนี้ตนเตรียมรับศพลูกชายกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้าน จ.ร้อยเอ็ด และได้ไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณในจุดที่เกิดเหตุแล้ว

 

ข่าวโดย ณัฐพงศ์ อรชร จ.นครราชสีมา