ไหม้ระทึก "เรือยอร์ช" หรูจอดท่าเรือภูเก็ต คาดไฟลัดวงจร เสียหายกว่า 10 ล้าน

ไหม้ระทึก "เรือยอร์ช" หรูจอดท่าเรือภูเก็ต คาดไฟลัดวงจร เสียหายกว่า 10 ล้าน

ไฟไหม้ "เรือยอร์ช" ขณะจอดซ่อมบำรุงในท่าเทียบเรือหรูภูเก็ต โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต คาดสาเหตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจร มูลค่าความเสียหายประมาณ 10 ล้าน ด้าน เจ้าท่าฯ สั่งงดใช้เรือ-เร่งกู้ซาก

วันที่ 23 เมษายน 2565 พ.ต.ท.ศรทิพย์ ชูแก้ว สว.(สอบสวน) สภ.ท่าฉัตรไชย ได้รับแจ้งมีเหตุ ไฟไหม้ "เรือยอร์ช" ภายในท่าเทียบเรือยอร์ชเฮเว่น มารีน่าภูเก็ต ม.2 บ้านคอเอน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จากนั้นได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

 

ที่เกิดเหตุพบ "เรือยอร์ช" จอดอยู่ในช่องจอดในทะเล พบว่าเพลิงกำลังโหมกระหน่ำลุกไหม้ตัวเรือจากด้านท้ายเรือไปยังหัวเรือ มีเจ้าหน้าที่ของท่าเรือฯกำลังช่วยกันดับเพลิง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ขณะที่ตัวเรือได้จมลงเหลือเฉพาะส่วนหัวเรือที่โผล่พ้นน้ำ

 

เรือยอร์ช ดังกล่าวชื่อ "จิมมี บลู" ความยาวตลอดลำ 12 เมตร กว้าง 7.20 เมตร ลึก 2.50 เมตรตันกรอส 44.39 ตันเนต 3.18 วัสดุเรือเป็นไฟเบอร์กลาส เครื่องจักรใหญ่ ชนิดดีเซลยันม่า 2 เครื่องยนต์ กำลังเครื่อง 29.84 ทั้ง 2 เครื่อง เป็นของบริษัทแคพริคอร์นัส เซลลิง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต มีคนประจำเรือไม่เกิน 3 คน ผู้โดยสาร 14 คน รวม 17 คน

 

เป็นเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้งานเป็นเรือสำราญและกีฬาวง (เรือใบเรือใบกล) กำหนดให้เดินในเขตลำน้ำและทะเลต่างจังหวัดระนองกับจังหวัดสตูล ห่างจากฝั่งหรือเกาะ 24 ไมล์ทะเล โดยมีการจดทะเบียนในปี 2557 มูลค่าเรือที่แจ้งขณะนั้น จำนวน 16 ล้านบาท

 

 

ในเบื้องต้นนายณชพงศ์ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ทราบว่าเรือลำดังกล่าวอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง และมีการพ่วงไฟฟ้ามาจากท่าเรือ ช่วงเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่บนเรือ เบื้องต้นสันนิษฐานว่ามีสาเหตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่จะมีการตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียดภายหลังจากการกู้ซากเรือขึ้นมาแล้ว ทั้งนี้เบื้องต้นคาดว่ามีมูลค่าความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท

 

นายณชพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการล้อมบูมป้องกันน้ำมันรั่วไหล แต่ยังไม่พบการรั่วไหลของน้ำมันแต่อย่างใด พร้อมออกคำสั่งงดใช้เรือและมีคำสั่งให้ทำการกู้เรือแล้ว

 

ข่าวโดย สาลินี ปราบ จ.ภูเก็ต