ข้าราชการเมากร่าง ด่าปลัดอำเภอ ขณะตรวจร้านอาหารย่านบางใหญ่ จับส่ง ตร.
งามไส้ ข้าราชการเมากร่าง ด่าปลัดอำเภอ ขณะตรวจร้านอาหารย่านบางใหญ่ ควบคุมส่ง ตร. ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอต่อสู้ในชั้นศาล
กรณีข้าราชการเมากร่าง ด่าปลัดอำเภอ ขณะตรวจร้านอาหารย่านบางใหญ่ เหตุเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 2 พ.ค. 65 นายวิทยา ชพานนท์ นายอำเภอบางใหญ่ ได้สั่งการให้นายสมพล สุระสัจจะ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายชมชน ขุนทวาท ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดนอำเภอบางใหญ่ที่ 6 ออกตรวจสถานประกอบการตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดนนทบุรี ให้ปรับรูปแบบเป็นอาหารและต้องได้รับอนุญาตจากทางอำเภอเสียก่อนจึงจะทำการเปิดร้านได้
เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองไปตรวจที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรบางใหญ่ พบลูกค้าเป็นชาย 3 คนกำลังนั่งดื่มสุราอยู่บริเวณหน้าเคาท์เตอร์ เจ้าหน้าที่จึงเดินเข้าไปที่เคาท์เตอร์เพื่อพูดคุยและแนะนำให้ทางร้านปฎิบัติตามคำสั่งของจังหวัดนนทบุรี ซึ่งในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังอธิบายข้อกฎหมายกับทางร้านอยู่นั้นได้มี 1 ในลูกค้าเป็นชาย ลักษณะคล้ายคนเมาสุราแต่งกายชุดสีกากีครึ่งท่อน นำโทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปพร้อมทั้งพูดจาดูหมิ่นและด่ากราดการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทราบชื่อภายหลังคือนายไพศาล อายุ 57 ปี ข้าราชการสังกัดกระทรวงพาณิชย์
นายสมพล สุระสัจจะ กล่าวว่า วันนี้ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ออกตรวจสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นร้านอาหารและนำคำสั่งของจังหวัดนนทบุรีไปประชาสัมพันธ์ ให้กับผู้ประกอบการได้รับทราบและให้ถือปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด เมื่อมาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง พบผู้ใช้บริการโต๊ะหนึ่งเข้ามาโวยวายและถ่ายคลิปเจ้าหน้าที่ จึง เข้าไปพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ ว่าเรามาปฎิบัติหน้าที่ มาเเจ้งเตือน แต่เขาก็ยังโวยวายไม่เลิก
ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง เผยอีกว่า ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ อส. สังเกตเห็นว่าชายคนดังกล่าวแต่งกายครึ่งท่อนจึงถามว่าพี่เป็นข้าราชการเหรอ ซึ่งเขาแจ้งว่าอยู่กระทรวงพาณิชย์ จึงขออนุญาตให้เขาแสดงบัตรประจำตัว ซึ่งเขาก็ไม่ยินยอมเเถมยังพูดจาด่าทอเจ้าหน้าที่เสียๆ หาย ๆ จึงควบคุมตัวมาที่โรงพักบางใหญ่ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาไม่เเสดงบัตรประจำตัวประชาชนต่อเจ้าพนักงาน,ดูหมิ่นเจ้าพนักงานในขณะปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาและขอไปต่อสู้ในชั้นศาล ก่อนใช้เงินสดจำนวน 20,000 บาท ประกันตัว จากนั้นญาติจึงมารับตัวกลับบ้าน