"เต้ มงคลกิตติ์" เคลื่อนไหวหลังถูก "กระติก" ฟ้องหมิ่น ลั่นงานนี้คงจบยาก!

วันที่ 4 พฤษภาคม 2565 เมื่อเวลา 08.36 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.เต้ หรือ "เต้ มงคลกิตติ์" หรือ เต้007 ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ออกมาเคลื่อนไหวหลังถูก "กระติก" อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ อดีต ผู้จัดการแตงโม นิดา ฟ้องเอาผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

 

 

โดย เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กหลังถูก "กระติก" อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ อดีตผู้จัดการแตงโม ฟ้องเอาผิดหมิ่นประมาทฯ โดยระบุสั้นๆว่า "อ้าว!!! น้องกระติก ฟ้อง พี่เต้007"

 

 

ทั้งนี้ ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ ยังได้โพสต์อีกข้อความว่า "กระติก น้องก็เป็นเพื่อนสนิท-ผู้จัดการส่วนตัวแตงโม แทนที่จะช่วยหาความจริง กลับมาฟ้องคนช่วยหาความจริงเพื่อปิดปากพี่หรือ งานนี้คงจบยากละ!!! สิระ เกี่ยวด้วยไหมงานนี้"

 

 

 

หลังโพสต์ถูกเผยแพร่ออกไปบรรดาแฟนคลับทั้งของ ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ และ แตงโม นิดา ที่ต่างก็เกาะติดอยากให้ความจริงปรากฏได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมให้กำลังใจ เต้ มงคลกิตติ์ เป็นจำนวนมาก

 

 

 

 

 

ล่าสุด ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ โพสต์ข้อความระบุว่า #อย่ารีบถอนฟ้องนะน้องติก #พี่ขอบใจน้องมาก ดีเหมือนกันโดนน้องกระติกฟ้อง พี่จะได้ขอหมายศาล ขอหลักฐานที่สำคัญทั้งหมดที่ขอไม่ได้ของ "คดีแตงโม" ที่จะพิสูจน์ว่าเป็น "อุบัติเหตุ" หรือ "ฆาตกรรม" จะได้ก็ครานี้ อาทิ

 

1.หลักฐานการพูดคุยผ่านสัญญาณมือถือ การใช้ไลน์ ทุกคนที่เกี่ยวข้อง
2.หลักฐานรูป-คลิปในมือถือ ทุกคนบนเรือ
3.หลักฐานการเงิน เข้า-ออก ทุกคนบนเรือ
4.ผลชันสูตรพลิกศพ นิติเวช ของ สตช./นิติเวชของ กระทรวงยุติธรรม 
5.ผลการพิสูจน์หลักฐานทั้งหมดของ ตร.
6.ขอสำนวนการสอบสวนของ ตร.ทั้งหมด ที่ส่งอัยการ
7.ขอหลักฐานการจดทะเบียนเรือสปีดโบ๊ท ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน

 

พี่ทำงานเร็วนะ น้องติก ยืนให้ได้ระยะยาวๆนะครับ วันนี้ผมมอบให้ นายบุญถาวร ปัญญามณีโชติ ประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฏหมาย กลุ่ม 16 ร่างคำฟ้อง น้องติก ตาม ป.อาญา มาตรา 175 อีกทั้งมอบให้ ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย เซ็นยื่นฟ้องต่อศาลอาญา เร็วๆนี้ รอรับหมายศาลนะน้อง

คดีที่ ตร.ภ1 ฟ้องน้องติกถึงแค่ อัยการ เดี๋ยวตีกลับมาที่ ตร.สอบเพิ่ม ส่วนคดีพี่ไปเร็วกว่านะ

 

ปล. มาตรา 175 ผู้ใดเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา หรือ ว่ากระทำความผิดอาญาแรงกว่าที่เป็นความจริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท

 

 

ที่มา มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์