ช่วยค่าน้ำมันวินมอเตอร์ไซค์ 50% พี่วินโคราชมึนยังไม่มีใครได้
วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เมืองโคราช มึนมาตรการช่วยค่าน้ำมัน 3 เดือนของรัฐยังไม่ได้สิทธิ์สักราย ขณะที่รถตู้โดยสารสาธารณะวอนรัฐช่วยเหลือให้เท่าเทียมกัน
มาตรการลดค่าครองชีพ ด้านพลังงาน โดยให้ส่วนลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินทั้งหมด สำหรับผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง (วินมอเตอร์ไซค์) ที่มีใบอนุญาต - จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 106,655 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 22 มี.ค.2565) ในรูปแบบรัฐร่วมจ่าย 50% ไม่เกิน 50 บ./คน/วัน และไม่เกิน 250 บ./คน/เดือน กับปั๊มน้ำมันที่ร่วมโครงการ เริ่ม พ.ค. - ก.ค.2565 (รวม 3 เดือน) พร้อมยกเว้นภาษีเงินได้ฯ สำหรับผู้ที่ได้รับเงินจากโครงการดังกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ช่วยค่าน้ำมันวินมอเตอร์ไซค์ 50% นาน 3 เดือน เช็กวิธีใช้สิทธิ์ เงื่อนไขสำคัญ
- ครม. ปรับมาตรการลด "ค่าครองชีพ" - ช่วยค่าน้ำมันวินมอเตอร์ไซค์ - ลดค่า FT
ล่าสุดวันนี้ (4 พฤษภาคม 2565) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามกลุ่มผู้ประกอบอาชีพวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง (วิน จยย.) บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ โคราช ซึ่งมีอยู่กว่า 40 คันพบว่าทุกคนยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวเนื่องจากไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะได้สิทธิ์มาตรการลดค่าครองชีพ
นายองอาจ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง กล่าวว่า ตนเองได้ติดตามข่าวนี้มาบ้างแต่ไม่รู้รายละเอียดที่ชัดเจนว่ารัฐบาลจะช่วยเหลืออย่างไร เพราะขนส่งในท้องที่ก็ไม่ได้มีการแจ้งรายละเอียดให้รับทราบถึงขั้นตอนต่างๆที่จะได้รับสิทธิ์ ซึ่งการช่วยเหลือวันละ 50 บาทแม้ไม่มากสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างถือว่าสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าน้ำมันได้เป็นอย่างดี
เพราะทุกวันนี้ลูกค้าก็ลดลงเป็นจำนวนมาก จากเดิมก่อนช่วงโควิด-19 ระบาด จะมีรายได้ประมาณ 600 - 700 บาท แต่ตอนนี้เหลือแค่วันละ 200 กว่าบาท ซึ่งน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำด้วยซ้ำ ถ้าคนที่ผ่อนรถจักรยานยนต์อยู่จะอยู่ไม่ได้แน่นอน ต้องไปหาอาชีพอื่นทำเป็นรายได้เสริมถึงจะอยู่รอดได้
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ท่ารถตู้โดยสารสาธารณะ ภายในสถานีขนส่งนครราชสีมาแห่งที่ 2 พบว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา เนื่องจากประชาชนยังหวาดกลัวการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีผู้มาใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะลดลงกว่า 80%
นายอำนาจ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะ สายโคราช-ขอนแก่น กล่าวว่า ทุกวันนี้คิวรถตู้แทบจะไม่ได้วิ่งตามเวลาที่กำหนด เพราะแต่ละคันจะต้องรอให้ผู้โดยสารซื้อตั๋วขึ้นรถให้ได้อย่างน้อยเที่ยวละ 8 คนขึ้นไปหรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของที่นั่งทั้งหมด 13 ที่นั่ง ถ้าผู้โดยสารไม่ถึง 8 ที่นั่งวิ่งรถออกไปก็จะไม่คุ้มทุน
แต่ถ้ารถคันไหนที่ใช้น้ำมันดีเซลไม่ต้องพูดถึงเลย คงเลิกวิ่งไปนานแล้ว ที่อยู่ได้เพราะใช้แก๊ส NGV จึงสามารถอยู่ได้ แต่ช่วงหลังๆค่าครองชีพต่างๆเริ่มปรับราคาสูงขึ้นไปหมด ทำให้ขณะนี้รายได้ที่น้อยอยู่แล้วบวกกับรายจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารเริ่มจะอยู่ไม่ได้เหมือนกันแล้ว จึงอยากให้รัฐบาลมีมาตรการออกมาช่วยเหลือเหมือนกับช่วยวินมอเตอร์ไซค์ด้วย