พายุฤดูร้อน พัดกระหน่ำราชบุรี บ้าน-ศาลาวัดพังเสียหาย
อัปเดตสถานการณ์ พายุฤดูร้อน พัดกระหน่ำราชบุรี บ้าน-ศาลาวัดพังเสียหาย
รายงานอัปเดตสถานการณ์พายุฤดูร้อน พัดกระหน่ำราชบุรี บ้าน-ศาลาวัดพังเสียหาย
วันนี้ (4 พ.ค. 65) นายรนัสชัย พุ่มเจริญ นายอำเภอเมือง จ.ราชบุรี พร้อม นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.เขต 1 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมือง ร่วมกันลงพื้นที่นำสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค และเงินสดจำนวนหนึ่ง
เข้าเยี่ยมบ้านของ นางสาวกรรณิการ์ แย้มขยาย อายุ 53 ปี เลขที่ 10 หมู่ 6 ต.สามเรือน อ.เมือง หลังพายุพัดต้นตาลขนาดใหญ่ซึ่งยืนต้นตาย ล้มทับบ้านไม้ทรงไทย 2 ชั้น เสียหายเกือบครึ่งหลัง เศษหลังคากระเบื้องแตกหักหล่นเกลื่อน ข้าวของเครื่องใช้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน เสาไม้ โครงหลังคา ผนังบ้านบางจุดสร้างจากไม้ อยู่ในสภาพเก่า
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างมาซ่อมแซมให้เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว นอกจากนี้ผู้นำชุมชนยังแจ้งผ่านหอกระจายข่าวหมู่บ้าน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั้ง 7 หมู่บ้านในตำบลสามเรือน ออกสำรวจตรวจสอบ บ้านไหนที่มีต้นไม้สูงใหญ่และอยู่ใกล้บ้านเรือน ขอให้ช่วยกันตัดแต่งกิ่ง หรือตัดออกไป เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดพายุพัด ทำให้มีต้นไม้หักโค่นล้มทับบ้านเรือนได้
จากนั้น คณะได้เดินทางไปตรวจสอบที่ วัดสุรชายาราม หรือวัดหลุมดิน หมู่ที่ 3 ต.หลุมดิน อ.เมือง ซึ่งศาลาการเปรียญหลังใหญ่ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2471 หรือประมาณ 94 ปีมาแล้ว ก็ถูกพายุพัด บวกกับเป็นศาลาเก่าแก่ ทรุดโทรม ปลวกกัดกินจนไม้พุพัง เมื่อถูกแรงลมจึงถล่มลงมา เศษกระเบื้องมุงหลังหล่นเกลื่อนแตกกระจาย ทางพระครูโสภณธรรมสังวร เจ้าอาวาสวัด ได้นำเชือกมาผูกกั้นพื้นที่เขตอันตรายไว้ รอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบและดำเนินการซ่อมแซม โดยมีนายยุทธนา เจริญภักดี นายกเทศมนตรีตำบลหลุมดิน ร่วมตรวจสอบความเสียหายด้วย
นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เปิดเผยว่า ได้หารือกับสำนักพุทธฯ แล้วได้ข้อมูลเบื้องต้นว่า อาจต้องตั้งงบประมาณซ่อมแซมขึ้น ซึ่งจะใช้เวลานานเป็นปี และต้องดูโครงสร้างของศาลาที่มีอายุเก่าแก่ ว่าจะซ่อมแซมได้หรือไม่ เพราะดูจากสภาพบางจุดเริ่มผุพังจากอายุการสร้างเกือบร้อยปีแล้ว