บุกค้น 6 จุดทลายขบวนการค้ามนุษย์ บังคับเสพยาทารุณใช้เยี่ยงทาส
บุก “เรือมนุษย์” ค้น 6 จุดพื้นที่ “สมุทรปราการ-นนทบุรี-จันทบุรี” ทลายขบวนการค้ามนุษย์ เรือประมงนรก บังคับเสพยาทารุณใช้แรงงานเยี่ยงทาส นายหน้าใช้วิธีหาเหยื่อคนต่างจังหวัดนั่งรถไฟเข้ามาหางานใน กทม. อ้างพาไปทำงานค่าตอบแทนสูงก่อนส่งต่อเรือประมง ได้ค่านายหน้าสูงต่อคน 5 หมื่นบาท
ช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. บก.ป. บก.รน. และ หน่วยงานอื่นๆในสังกัด บช.ก. เปิดยุทธการ “เรือมนุษย์” กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 6 จุดในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จ.นนทบุรี จ.จันทบุรี เพื่อกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์บังคับใช้แรงงานบนเรือประมง
สำหรับยุทธการดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2564 ประเทศมาเลเซียได้ส่งกลับแรงงานไทย จำนวน 44 คน จากการตรวจสอบ พบในจำนวนนี้มี 3 ราย ถูกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์แรงงานประมง จึงสืบสวนขยายผล จนพบว่ามีการทำกันเป็นกลุ่มขบวนการ โดยเริ่มตั้งแต่ กลุ่มนายหน้า จัดหาเหยื่อที่ส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างจังหวัดนั่งรถไฟเข้ามาหางานทำในกรุงเทพ อ้างว่าจะพาไปทำงานได้รับค่าตอบแทนสูง ก่อนพาไปส่งต่อให้กับเจ้าของเรือประมงแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร โดยกลุ่มนายหน้าจะได้ค่าตอบแทน คิดเป็นเงิน 50,000 บาท ต่อแรงงาน 1 คน
จากนั้นเจ้าของเรือประมง ก็จะนำแรงงานเหล่านี้ลงเรือประมงล่องออกสู่อ่าวไทย ก่อนแอบลักลอบออกนอกเขตน่านนำไทย เพื่อไปทำประมงในเขตน่านน้ำประเทศมาเลเซีย โดยระหว่างที่อยู่บนเรือก็จะมีไต๋ก๋งเรือ คอยควบคุมและบังคับให้แรงงานเหล่านี้ทำงานหนักเป็นเวลาต่อเนื่องติดต่อกัน ได้พักวันละไม่เกิน 4 ชม. พร้อมกับ นำยาเสพติดมาให้เสพจนติด เพื่อใช้เป็นข้อต่อรองให้ยอมอยู่ในความควบคุม หากคนใดไม่ยอมทำตามก็จะถูกทำร้ายทุบตี ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเหล่านี้ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายค้ามนุษย์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จนนำมาสู่การเปิดยุทธการดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้ ยังได้มีการเปิดใช้ศูนย์ปฏิบัติการ CCOC หรือ Command And Control Operations Center เพื่อคอยประสานงานควบคุม สั่งการจากส่วนกลาง แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ตามจุดต่างๆ แบบเรียลไทม์ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ทั้งนี้สำหรับภาพรวมผลปฏิบัติการดังกล่าว ทางตำรวจสอบสวนกลาง จะมีการจัดแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินการอย่างละเอียดอีกครั้งในช่วงสายของวันเดียวกัน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)