หนุ่มเมายา ควงปืนบุกสนามบินสุวรรณภูมิ สารภาพเพราะเพื่อน อยากลอง อ้างเคยโดนยัดยา
ยิ้มรับโทษหนัก ข่าวดังหนุ่มเมายา ควงปืนบุกสนามบินสุวรรณภูมิ สารภาพเพราะเพื่อน อยากลอง คิดถึงบ้านและแม่ อ้างเคยโดนยัดยา
เปิดคำสารภาพ หนุ่มเมายาบ้า ควงปืนบุกสนามบิน เผยหลอนหนักขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน จากกรณีที่นายวัชระ คำบุตร อายุ 34 ปี ได้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ ฝ่าประตูรักษาความปลอดภัยเข้าไปในพื้นที่ห้วงห้ามสูงสุดภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยชักปืนข่มขู่เจ้าหน้าที่ รปภ.พร้อมใช้ขวานไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่จนกระทั่งสามารถตามจับตัวได้และกลายเป็นข่าวโด่งดังที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ 5 พฤษภาคม 2565 ร.ต.อ.ไพศาล วีระกิจพานิช รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าของคดี ได้นำตัวนายวัชระ ผู้ก่อเหตุออกมาสอบปากคำเพิ่มเติมรวบรวมสำนวนประกอบทางคดีเตรียมจะนำตัวส่งอัยการฟ้องผลัดแรกในวันนี้
โดยทรัพย์สินเสียหายเบื้องต้นที่ทางสนามบินสุวรรณภูมิประเมินไว้รวมประมาณ 1 แสนบาท เป็นประตูกระจกนิรภัยทางเข้าเชื่อมต่ออาคารผู้โดยสารที่ผู้ต้องหาใช้ขวานทุบจนแตกเสียหายสองบาน
นอกจากนั้น วันนี้ทางพนักงานสอบสวนยังสั่งปรับเพิ่มอีก สองข้อหา คือ ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และใช้รถที่มิได้ทำ พ.ร.บ. มาใช้งาน ส่วนข้อหาที่แจ้งต่อนายวัชระ ประกอบด้วยความผิดฐาน ดังนี้
- ใช้อาวุธหรือวัสดุอื่นใด กระทำการหรือทำให้เสียหายอย่างร้ายแรงต่ออากาศยานหรือสิ่งอำนวยความสะดวกของอากาศยาน
- ผู้ใดโดยไม่มีเหตุอันควรเข้าไปในสำนักงานในความครอบครองครองผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย
- ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจในการขู่เข็ญ
- ทำให้เสียทรัพย์
- พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (แมทเอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย
- เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (แมทเอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
ขณะที่เจ้าตัวเปิดเผยด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม เมื่อคืนนอนหลับสบายดี เพราะพยามทานยาแก้ปวดเพื่อให้นอนหลับเพราะไม่อยากคิดอะไรอีก ยอมรับผิดทุกอย่างที่เกิดขึ้น หากย้อนกลับไปได้คงไม่ทำแบบนี้อีก ที่ผ่านมาหลังจากต้องโทษในเรือนจำในคดีที่เพื่อนยัดยาเสพติดให้จนต้องติดคุกถึง 9 ปี จนพ้นโทษเมื่อต้นปี 2564 พอออกมาก็เลิกเสพและหาสมัครงานจนกระทั่งได้ทำงานก็ไม่ได้เสพยามานาน
พอมาคืนวันก่อน เกิดเหตุเพื่อนมาหาที่ห้องพักเพื่อชวนกันดื่มสุรา จนกระทั่งเมาตนเองหันไปเห็นยาบ้าที่เพื่อนซื้อมา พร้อมกับยากล่อมประสาทและยาอื่นที่เรียกว่า B 5. ด้วยความอยากลองจึงเสพยาบ้าไปทั้งหมด 8 เม็ด และยากล่อมประสาทที่เป็นสูตรยาเสพติดของวัยรุ่นที่เรียกกันว่าสี่คูณร้อย
พอทานทุกอย่างรวมกันได้สักพักจึงเมายาหลับไปไม่นานก็ได้ยินเสียงก้องในหูว่าให้ไปอย่างเดียว บวกกับตนเองมีความคิดอยากกลับบ้าน จึงออกจากห้องพักขี่รถจักรยานยนต์ออกมาตามถนนบางนา-ตราด จนไปวนแถวบางนาและวนไปมาถึงสามรอบ จนน้ำมันหมด จึงขอเบิกเงินกับทางเถ้าแก่เพื่อเติมน้ำมัน หวังจะขับไปตามทางเรื่อยแต่ในหูก็ยังมีเสียงก้องมีคนบอกตลอดเวลาให้ไปๆ
ตอนแรกตนเองตั้งใจจะไปหาขึ้นรถแท็กซี่เพื่อไปลงหมอชิตแล้วนั่งรถทัวร์กลับบ้านแต่คนในหูบอกว่ามึงอย่านั่งแท็กซี่เพราะสายเขาทั้งนั้นเดี๋ยวจะถูกจับ ให้ตนไปขึ้นเครื่องบินอย่างเดียวเพื่อกลับบ้าน ตนจึงเลี้ยวเข้ามาในสนามบินเพื่อจะหาทางขึ้นเครื่องบินกลับบ้านต่างจังหวัด พอเลี้ยวเช้ามาในสนามบินเห็นว่ามีเครื่องบินจอดเยอะเลยเลี้ยวรถเข้ามาประตูดังกล่าวเพื่อหวังขึ้นเครื่องบินจนเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนเองรู้สึกพลาดที่หันไปทดลองยาเสพติดจนทำให้หมดอนาคต ที่ผ่านมาทำงานได้ค่าแรงรวมโอทีก็เกือบเดือนละสองหมื่นบาท เงินเดือนออกมาก็จะให้แม่จนเกือบหมด ล่าสุดได้รับเงินเดือนถึงหมื่นเจ็ดพันบาทให้แม่หมื่นห้าเหลือใช้เองเพียงสองพัน ก่อนหน้านี้น้องสาวไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาประมาณสี่หมื่นจนแม่เครียดตนเองก็เก็บเงินเดือนไปจ่ายคืนให้จนหมด ยอมรับผิดกับเรื่องราวที่พลาดไป