เปิดใจพี่ชายสำนักพระบิดา ศพ 1 ในนั้นคือแม่

เปิดใจพี่ชายสำนักพระบิดา ศพ 1 ในนั้นคือแม่

เปิดใจพี่ชายคนโตสำนักพระบิดา เผยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ศพของแม่เป็นรายที่ 5 ญาติอยากนำร่างกลับมาแต่ฤาษีไม่ให้ น้องชายเริ่มเปลี่ยนไปหลังสึกพระมาเป็นฤาษี อ้างว่าเป็นผู้วิเศษ

จากกรณีนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจ บุกเข้าตรวจสอบสำนักฤๅษีประหลาด ตั้งอยู่ในที่สาธารณะหมู่บ้าน กุดแคน หมู่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เปิดรับรักษาโรคทุกชนิด โดยการรักษาให้ผู้ป่วยกิน ปัสสาวะ กินอุจจาระ กินเสมหะและขี้ไคล รวมถึงยาที่ดองไว้นับ 100 โอ่งมังกรให้กินเป็นยารักษาโรคต่างๆ ให้กับคนไข้ที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศเข้ามาทำการรักษาอยู่ในสำนักดังกล่าว จากการเข้าตรวจสอบภายในสำนักฯ เจอร่างผู้เสียชีวิตถึง 11 ราย บรรจุอยู่ในโลงศพ อ้างรอการขึ้นสวรรค์ ก่อนคุมตัวนายทวี หนันรา อายุ 75 ปี อ้างเป็นเจ้าสำนักฯ ไปสอบสวน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

เปิดใจพี่ชายสำนักพระบิดา ศพ 1 ในนั้นคือแม่

 

ล่าสุดวันที่ 9 พ.ค.65 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่บ้านหนองแวง ต.โนนสะอาด อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของนาย บุญตัน หนันลา อายุ 77 ปี เป็นพี่ชายคนโตของนายทวี  หนันลา หรือฤาษีทวี

นายบุญตันเล่าว่า ฤาษีทวี เป็นน้องชายคนที่ 3 ก่อนหน้านี้เคยบวชเป็นพระอยู่ที่เขาพระ  อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิประมาณ 10 กว่าปี ก่อนจะย้ายมาตั้งสำนักอยู่ในพื้นที่ที่เกิดเหตุขณะนี้ โดยช่วงที่ย้ายมาประมาณ พ.ศ.2541 ระหว่างนั้นยังเป็นพระอยู่ อยู่ได้ 3 ปี ก็สึกมาเป็นฤาษี ซึ่งได้รับความศรัทธาจากชาวบ้านละแวกนั้นอย่างมาก ทำให้มีทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่บ้านกำนัน และชาวบ้านจำนวนมากเข้าไปภายในสำนักแห่งนี้

โดยช่วงนั้น ตนเองก็ได้เข้าไปอยู่กับน้องชายระยะหนึ่ง ก่อนจะกลับมาอยู่ที่บ้าน โดยช่วงที่อาศัยอยู่กับน้องชายมีคนเข้ามารักษาโรคเป็นจำนวนมาก จากทั่วทุกสารทิศ บางคนหายจากโรคก็มี บางคนเสียชีวิตก็มี

 

อีกทั้งมีคนแก่ที่อยู่ภายในสำนักประจำประมาณ 50 คน  ในช่วงที่ตนเองอยู่ไม่ได้มีการรักษาโรคในลักษณะที่ให้กินสิ่งสกปรกแบบนี้ แต่รักษาโดยยาสมุนไพร  ท่ีสำคัญในระหว่างที่ตนเองอาศัยอยู่ด้วยนั้น ช่วงนั้นเริ่มมีคนเสียชีวิต และทางญาติก็อนุญาตให้นำศพไว้ที่นี่ประมาณ 5 ศพ ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ที่ตั้งใจมารักษาโรคแต่เกิดมาเสียชีวิต และยังมีศพของหญิงสาวอายุ ประมาณ 25 ปี และมารู้ภายหลังว่าเริ่มมีศพจำนวนมากขึ้น ซึ่งตนเองไม่รู้ว่าเขาเก็บศพเหล่านั้นไว้ทำไม กระทั่งปี 61 แม่ของตนเองเสียชีวิต ฤาษีทวี ก็ได้นำเอาศพของแม่ใส่โลงแก้วไว้จนกระทั่งวันนี้ ท่ามกลางความขัดใจของญาติพี่น้องแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงต้องปล่อยให้ฤาษีทวีเก้บศพของแม่ไว้ 

เปิดใจพี่ชายสำนักพระบิดา ศพ 1 ในนั้นคือแม่

 

นายบุญตัน ยังเล่าอีกว่า ตนเองไม่เห็นด้วยกับการรักษาโรคด้วยการให้กินสิ่งสกปรก เพราะมันผิดเพี้ยนไปหมด มองว่าเป็นการอุปโหลกนำเอาของเน่าเสียเข้าร่างกาย บังคับให้เค้ากินหรือเปล่าแต่ก็ยืนยันว่าน้องชายไม่ได้มีปัญหาทางจิต แต่อาจเป็นด้วยเรื่องการศรัทธาจนทำให้เกิดลัทธิที่สร้างขึ้นมาเองส่วนลักษณะนิสัยของน้องชาย เริ่มเปลี่ยนไปในช่วงที่ย้ายมาอยู่ที่สำนักที่เกิดเหตุ ทั้งการพูดจาแปลกๆ เหมือนกับตนเองเป็นคนวิเศษไม่ต้องกินข้าว2-3 เดือนก็อยู่ได้  โดยหลังจากนี้จะต้องมีการปรึกษาญาติ ๆ ในร่างของแม่ว่าจะทำอย่างไรต่อไป 

 

 

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้เดินทางไปยังบ้านเกิดของฤาษีทวี อยู่ที่บ้านโนนสะอาด หมู่1 ต.โนนสะอาด อ.หนองเรือ ห่างจากย้านพี่ชายประมาณ 2 กม. พบว่าไม่มีคนอยู่บ้าน น้องชายคนเล็กที่อาศัยอยู่ก็ได้เดินทางไปยังสำนักฤาษีแล้วตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อไปทำเรื่องรับร่างแม่กลับมาทำพิธีที่บ้าน ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นายสมพงษ์ แสนเหลา อายุ 77ปี ซึ่งเป็นอาเขยของฤาษีทวีบ้านอยู่ติดกัน เล่าว่าบ้านหลังนี้ปกติน้องชายคนเล็กของฤาษีทวีจะอยูอาศัยที่นี่ แต่วันนี้ได้เดินทางไปรับศพแม่ แต่ตัวฤาษีทวีไม่ได้กลับมาบ้านหลังนี้มา30-40 ปีแล้ว คนส่วนใหญ่ที่นี่จึงไม่ค่อยรู้จักส่วนตัวเองเคยเดินทางไปที่สำนักแห่งนี้ เมื่อหลายปีก่อน แต่ตอนนั้นไม่ได้มีการรักษาโรคในลักษณะนี้ส่วนตัวยังเชื่อว่า ฤาษีทวีเป็นผู้หยั่งรู้ เพราะมีช่วงหนึ่งที่ตนเองไม่สบาย ทางฤาษีทวีก็นั่งสมาธิ และบอกให้ไปทำพิธีบางอย่าง หลังจากนั้นตนก็เริ่มหายดี จนมีชาวบ้านเริ่มเดินทางไปรักษาและศรัทธากันมากขึ้น

 

นอกจากนี้ยังมีการแก้มนต์ดำให้ชาวบ้านในพื้นที่หลายคนจนมีชื่อเสียง ทั้งที่อยู่ที่สำนักแต่หยั่งรู้หมดมองเห็นสิ่งของต่างๆ ในบ้านทักท้วงได้หมดเหมือนมองเห็นจริงๆ ซึ่งก็เชื่อในเรื่องนี้ และตอนที่หมอปลากับเจ้าหน้าที่เข้าไปนั้น ก็เชื่อว่าฤาษีจะรู้ล่วงหน้า แต่ไม่หนี พอฟังข่าวก็รู้สึกตกใจ