"เตาอังโล่" ออเดอร์พุ่งยอดสั่งจองทะลุ 4 เดือน หลังราคาแก๊สหุงต้มปรับขึ้น

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 65 ภายหลังมีการลอยตัวน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ข้าวของอุปโภคบริโภคทุกชนิดมีการปรับราคาสูงขึ้นรายวัน รวมแก๊สหุงต้มก็มีการปรับราคาขึ้นเช่นเดียวกัน ส่งผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน การประหยัด จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนทุกคนลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อรัดเข็มขัดตนเอง

ล่าสุด จากการลงพื้นที่ไปตรวจสอบ โรงงานทำเตาอั้งโล่แห่งเดียวใน จ.ตรัง และเป็นแห่งใหญ่ของภาคใต้ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านพบว่า คนงานกำลังเร่งผลิตเตาอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทันความต้องการของลูกค้าที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องและปริมาณเพิ่มสูงทุกวัน โดยเบื้องต้นพบว่า มีเตาอั้งโล่ที่กำลังเข้าเตาอบ ที่กำลังตกแต่ง และที่ทำเสร็จแล้วรอนำขึ้นรถ เพื่อไปส่งลูกค้ารวมประมาณ 3,000 ใบ ขณะที่ออเดอร์สั่งจองเข้ามาอีกจำนวนมาก จนทางโรงงานทำไม่ทำ

นางสาวสิรินยา ล้วนดี อายุ 37 ปี เจ้าของเตาอั้งโล่ควนธานี กล่าวว่า จากภาวะราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และแก๊สหุงต้มมีการปรับราคาขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณความต้องการเตาอั้งโล่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ แต่การผลิตมีข้อจำกัดทั้งจำนวนคนงานที่มีจำนวน 12 คน รวมทั้งเตาอบที่สามารถเข้าตู้อบได้เพียงครั้งละประมาณ 700 ลูกและต้องใช้เวลาอบครั้งละ 12 ชม. ทำให้เป็นข้อจำกัดในการผลิต แต่ขณะนี้เร่งผลิตอย่างเต็มที่ได้ประมาณเดือนละ 4,000 ลูก จากเดิมผลิตและจำหน่ายได้ประมาณเดือนละ 2,000 - 3,000 ลูก เพิ่มขึ้นอีกนับพันลูกต่อเดือน และไม่สามารถจะผลิตได้มากกว่านี้ ด้วยข้อจำกัดดังกล่าว แต่ปริมาณความต้องการนับตั้งแต่กลางเดือนเมษายนเป็นต้นมาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จนรับไม่หมด แต่ต้องทำความเข้าใจกับลูกค้า ซึ่งลูกค้าที่ยอมรอคอย ขณะนี้ยอดออเดอร์สั่งซื้อเข้ามายอดจองทะลุ 4 เดือนไปแล้ว หรือเกือบ 20,000 ลูก ทำให้ต้องเร่งทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อผลิตและทยอยส่งให้ทันความต้องการของลูกค้า แต่ก็ยังมีเข้ามาต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าที่ซื้อไปจำหน่ายทั้งในพื้นที่ จ.สงขลา ,กระบี่ ,นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี และจ.ภูเก็ต 

ทั้งนี้ ดินเหนียวที่นำมาทำเป็นดินเหนียวที่อยู่ในพื้นที่ใกล้แม่น้ำตรัง ซึ่งมีคุณภาพดีเหมาะแก่การทำเตา เนื้อละเอียดมีความเหนียวมาก เมื่ออบไม่แตก เพราะไม่ส่วนผสมของหิน หรือก้อนกรวด ทำให้เตามีคุณภาพใช้งานได้นาน จึงเป็นที่ต้องการของลูกค้า อย่างไรก็ตาม วัสดุที่ทำ เช่น เหล็ก มีการปรับราคาขึ้นมา และค่าขนส่งมีราคาแพง ทำให้ทางโรงงานต้องปรับราคาขึ้นบ้างเล็กน้อย โดยเฉลี่ยราคาตั้งแต่ 100 – 300 บาท ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน และคาดว่าจากสถานการณ์น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาสูงขึ้น ทำให้เตาอั้งโล่กลายเป็นที่ต้องการของลูกค้า เชื่อว่ากระแสความตื่นตัวในการอนุรักษ์พลังงาน และความประหยัด จากสถานการณ์วิกฤติน้ำมันแพง ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้ประชาชนประหยัดเพิ่มขึ้นเตาอั้งโล่จะต้องขายดีไปอีกนานนับ 10 ปี